ตัดสินและตัดใจ

วันที่ 24 กพ. พ.ศ.2565

m612x918%20%289%29.jpg

ตัดสินและตัดใจ
.
เมื่อสมัยที่หลวงพ่อเป็นฆราวาสอยู่ จบการศึกษาแล้วทำงานอยู่ ๓ ปีก็มาบวช ในระหว่างที่ทำงานนั้นก็ได้ข้อคิดในเรื่องการใช้เงิน เพราะถูกโยมแม่ตำหนิเอา เนื่องจาก จบการศึกษาจากต่างประเทศมาและอยู่ตัวคนเดียว รายได้ก็พอสมควรในสมัยโน้นเมื่อ ๔๐ ปีที่แล้ว แต่เงินไม่ค่อยเหลือ
.
แม่เลยเตือนว่า “ลูกเอ้ย รู้จักเก็บเงินไว้บ้างนะ” ก็บอกแม่ไปว่าตอนนี้ยังได้เงินเดือนไม่ค่อยมากเลยไม่ค่อยจะมีเก็บ คำว่ามากของเรามันนึกถึงเงินเดือนเป็นล้าน แม่ก็เลยบอกว่า "ลูก ในโลกนี้ บางคนได้มากแต่เหลือน้อยก็มีอยู่ บางคนได้น้อยแต่เหลือมากก็มีอยู่"

ได้มากแล้วเหลือน้อย เหมือนเอาเข่งตักน้ำ เมื่อเข่งอยู่ในน้ำ น้ำเต็มเข่ง แต่พอยกเข่งขึ้นมาแล้ว มันเหลือแต่เข่ง แต่บางคน แค่ใช้กะลาใช้ขันตักน้ำ ตอนอยู่ในน้ำ น้ำก็เต็มขัน เต็มกะลา ยกขึ้นมามันก็ยังเต็มขันอยู่ เนื่องจากขันไม่รั่ว กะลาไม่รั่ว ได้มากกว่าเข่งใบเบ้อเร่อเสียอีก
.
เข่งใบเบ้อเร่อก็เหมือนกับคนที่หาเงินได้เยอะ แต่ก็มีช่องทางให้เงินรั่วไหลออกไปหมด รั่วหมดไปกับอบายมุข ทั้งสุรา นารี พาชี กีฬาบัตรนั่นแหละ เพราะ ๔ อย่างนี้ถมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม ถมไปเถอะไม่เต็มหรอก เมื่อมันถมไม่เต็ม ได้เท่าไหร่ก็หมด
.
แม่ก็เลยเตือนและให้หลักการบริหารเงินมา แล้วก็เลยได้มาใช้ตอนสร้างวัดด้วย แม่สอนไว้ว่า ลูก รายได้เท่าไหร่ไม่สำคัญ สำคัญว่าเหลือเท่าไหร่ เพราะฉะนั้น ลูก ถ้าคิดว่าจะให้เดือนนี้เหลือเท่าไหร่ก็ตัดมันออกมา แล้วจะไปฝากธนาคารหรือไปทำอะไรก็เอาไป นี่คือรายเหลือ ถ้าเอาแต่ใช้ไปเรื่อย ๆ ไม่แบ่งเก็บไว้ เดี๋ยวก็ไม่เหลืออีกนะลูก หัดตัดสินแล้วก็ตัดใจให้เป็น
.
คำว่าตัดสินใจมาจากคำสองคำคือตัดสินและตัดใจ ตัดสินเสียก่อนว่า เราอยากจะให้เงินมีเหลือเท่าไหร่ แล้วก็ตัดใจหักออกมาเลย แล้วส่วนที่เหลือนอกนั้นไปบริหารเอาให้ลงตัวให้ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นชาตินี้ไม่มีเหลือกับเขาหรอก กลายเป็นนักล่าจนตลอดชีวิต
.
๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๙
หลวงพ่อทัตตชีโว

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.026585948467255 Mins