ดอกผลของคุณครูไม่ใหญ่
และคุณยายอาจารย์ฯ
พระเดชพระคุณพระสุธรรมญาณวิเทศ วิ
(สุธรรม สุธมฺโม)
สิริอายุ ๗๐ ปี ๓๓ พรรษา
ประวัติและผลงาน
ชื่อ: พระสุธรรมญาณวิเทศ วิ. (สุธรรม สุธมฺโม) อายุ ๗๐ ปี ๓๓ พรรษา
เกิดเมื่อ: วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๕
อุปสมบท: วันที่ ๑๘ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ ณ อุโบสถ วัดพระธรรมกาย
• พระอุปัชฌาย์ พระธรรมปัญญาบดี (มรณภาพ ที่เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์)
วัดปากนํ้าภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
• พระกรรมวาจาจารย์ พระเทพรัตนโมลี (มรณภาพ ที่พระพุทธิวงศมุนี )
วัดจักรวรรดิราชาวาส กรุงเทพมหานคร
• พระอนุสาวนาจารย์ พระราชปริยัติโมลี (มรณภาพ ที่เจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์)
วัดพิชยญาติการามวรวิหาร กรุงเทพมหานคร
การศีกษาทางธรรม:
นักธรรมตรี สำนักเรียนวัดพระธรรมกาย ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
นักธรรมโท สำนักเรียนวัดพระธรรมกาย ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
นักธรรมเอก สำนักเรียนวัดพระธรรมกาย ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ประวัติการศีกษาทางโลก:
ปริญญาตรีนิติศาสตรบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคําแหง
" ในเดือนกันยายน ปีพ.ศ. ๒๕๑๗ ขณะนั้น หลวงน้าอายุ ๒๒ ปี เป็นนักดนตรีฮิปปี้ผมยาว ได้เข้าไปกราบคุณยายที่บ้านธรรมประสิทธิ์ เมื่อคุณยายท่านทราบวัตถุประสงค์ว่าอยากจะมากราบพบท่านเพื่อศึกษาธรรมปฏิบัติ ท่านก็บอกว่า “วันนี้เป็นวันพฤหัสบดี ให้ไปปฏิบัติธรรมที่หอสังเวชฯ เพื่อฟังเทปเสียงของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ สอนการปฏิบัติธรรมเบื้องต้นประมาณ ๑ ชั่วโมง” เมื่อฟังจบแล้วก็ย้อนกลับไปหาท่านใหม่ "
" ...คุณยายทักว่า “นี่คุณ! คุณเอาสังขารไปถล่มทลายทำไม น่าจะเรียนหนังสือให้จบ จะได้เป็นที่พึ่งของพ่อแม่ เป็นตัวอย่างที่ดีของน้องๆ” ได้ฟังคุณยายพูดจบ หลวงน้าตกใจมาก เพราะตั้งแต่พบท่านก็ยังไม่ได้พูดคุยถึงประวัติส่วนตัวกันเลย
แต่ทำไมท่านรู้เรื่องของเราหมดหลวงน้าเป็นลูกคนโตในจำนวนพี่น้อง ๕ คน หนีออกจากบ้านตั้งแต่อายุ ๑๕ ปีเศษ ไม่ยอมเรียนหนังสือต่อละทิ้งกลางคัน ไปคบคนพาลหลงผิดใช้ชีวิตเพลิดเพลินกับแสงสี อบายมุข และสุรายาเมาเป็นอาจิณ
แต่ด้วยญาณทัศนะที่แม่นยำของคุณยาย ทำให้หลวงน้าน้ำตาซึม และอึ้งไปชั่วขณะ วันแรกที่ได้พบคุณยาย วันนั้นถือว่าเป็นวันเริ่มต้นชีวิตใหม่ เปรียบเสมือนเราเดินหลงทางท่ามกลางความมืดมิดมาตลอด..."
ผ่านไป ๒ วัน จึงเดินทางมาวัดปากน้ำ เพื่อพบคุณยายอาจารย์ฯอีก ท่านก็ต้อนรับพูดคุยด้วยสักครู่ แล้วส่งต่อให้กับพระภิกษุหนุ่มรูปหนึ่ง ผู้มีศีลาจารวัตรอันงดงามน่าเลื่อมใส เมื่อท่านเห็นเรา ก็เอ็นดูและบอกว่า “ให้หมั่นมาวัดบ่อยๆ คนเรานี่นะจะดีหรือเลวไม่ได้ อยู่ที่ใครเขาชมหรือด่า แต่ขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา ถ้าเราทำเลวๆถึงคนจะชมเราแค่ไหน เราก็ไม่ดีหรอก แต่ถ้าเราทำดีแล้ว คนด่าว่าเราเลวเราก็ไม่เลวหรอก แล้วก็อยากจะแนะว่าชีวิตเรายังไม่สายหรอกนะ เข้าวัดมาเถอะ ”
" สุธรรม ที่หลวงพ่อชวนมาอยู่วัด ต้องมาเป็น ดอกผล ให้หลวงพ่อนะ หลวงพ่อจะเป็นผู้ปลูก แต่ที่นี่ไม่มีคำชมนะ จะมีแต่คำติ แต่ติเพื่อมรรคผลที่เรามีเป้าหมายเป็นแก่นสาร จะเป็นเหมือนช่างปั้นหม้อ ขนาบแล้วขนาบอีก ให้ทนหลวงพ่อให้ได้นะ ”
” คุณยายท่านให้กำลังใจว่า “เอาบุญเป็นที่พึ่ง อย่าวิตกกังวลแล้วยายจะช่วย” ด้วยความเคารพเชื่อฟังท่านทั้ง ๒ ขณะนั้นเข้ามาวัดใหม่ ๆ อินทรีย์ยังอ่อนเสมือนทารกน้อยที่ท่านกำลังประคับประคองอยู่ หลวงน้าตั้งใจทำตามตามโอวาทของท่าน และนั่งธรรมะวันละ ๗ - ๘ ชั่วโมง คือ เช้า สาย บ่าย ค่ำ หมั่นไปบ้านธรรมประสิทธิ์เพื่อไปพบกับท่านทั้ง ๒ ได้อยู่ใกล้ท่านแล้วมีกำลังใจ มีความอบอุ่น และยิ่งปฏิบัติตามโอวาทของท่าน มุ่งมั่นเอาบุญเป็นที่พึ่ง ในที่สุดก็ผ่านอุปสรรคของชีวิตในช่วงนั้นไปได้ คุณยายจะพร่ำสอนอุบาสกทั้งหลายเสมอว่า “อย่าโกงตัวเอง อย่าดูถูกตัวเอง และอย่าหลงตัวเอง”
”...หลังจากผ่านการเข้าอบรมธรรมทายาทรุ่นที่ ๔ ตัดสินใจเปลี่ยนจากการถือศีล ๕ มาถือศีล ๘ โดยในวันก่อนวันเข้าพรรษาปี ๒๕๑๘ ได้สมาทานศีล ๘ ตลอดพรรษา ทดลองดูว่าจะไหวไหม ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จึงถือศีล ๘ มาตลอด เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อทราบ ท่านเรียกเข้ามาอนุโมทนาสาธุ แล้วก็พูดว่า “อุบาสกผู้ถือศีล ๘” จึงได้เป็นอุบาสกคนแรกของศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม...”
หลวงน้าไปกราบพบหลวงพ่อ เมื่อไปบ่อยๆ ท่านก็ให้งานและพูดว่า “หลวงปู่บอกว่ามีดอันไหนคม มันต้องใช้บ่อย” ท่านไม่มีเวลาที่จะไปเรียกหาใคร เราต้องเป็นฝ่ายไปหาท่าน คนที่อยากเข้าใกล้ครูบาอาจารย์ ต้องเข้าไปหา เคยได้ยินหลวงพ่อพูดว่า “หลวงพ่อไม่ต้องการทหารเกณฑ์ หลวงพ่อต้องการทหารอาสาสมัคร” ถ้าเราไม่วิ่งเข้าหางาน เราก็ไม่ได้บุญ การอยู่ในองค์กร ถ้ามัวแต่รอ ก็เหมือนเราอยู่เฉยๆแล้วจะได้บุญอย่างไร
เราถูกหลวงพ่อฝึก มาว่า “ไม่ได้ไม่มี ไม่มีไม่ได้ ไม่ได้ต้องได้ ได้ให้ดีกว่าดีที่สุด” ...ได้ร่วมวางระบบ แบ่งงานและสร้างทีมจนกระทั่งมาสร้างสำนักงานกัลยาณมิตร เมื่อหลวงพ่อบอกว่า “เราอยู่ไม่ถึงร้อยปีนะ แต่วิชชาจะต้องอยู่” จึงได้วางระบบ องค์กรสภาธรรมกายสากล แบ่งงานออกเป็นสำนัก ประสานรวบรวมที่ดินพื้นที่ ๒,๐๐๐ ไร่ และพื้นที่สร้างถนนสีขาว ได้มีส่วนในงานตลอด พยายามที่จะสนองงานพระเดชพระคุณหลวงพ่อให้ได้มากที่สุด...
หลวงพ่อบอกว่า “พิธีกรรมสร้างศรัทธา จะนำสิ่งที่ดีๆมาสู่วัด” จึงเริ่มมีการจัดระเบียบ เวลาปฏิบัติธรรมให้นั่งแบ่งหญิงซ้าย ชายขวา และนั่งตรงคอคนหน้า ท่านให้ฝึกเป็นพิธีกร เนื่องจากเคยเป็นนักร้อง เวลาสวดมนต์ ก็จะสวดแบบนักร้องสวดมนต์ จะดัดหน่อยๆ ท่านก็เลยให้ไปเรียนกับ ศ.เกียรติคุณ ดร.วีระ ลิมปะพันธุ์ คุณบำรุง เกาไชยนันท์ (ผู้บรรยายสารคดี รางวัลโทรทัศน์ทองคำ และผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น) และสั่งให้ไปคิดคำพูดบทพิธีกร จึงเป็นที่มาของบทที่กล่าวว่า “ท่านสาธุชนทั้งหลาย บัณฑิตทั้งหลายกล่าวว่า ศีลเป็นเบื้องต้น เป็นที่ตั้ง เป็นบ่อเกิดแห่งคุณความดีทั้งหลาย และเป็นประธานแห่งธรรมทั้งปวง บุคคลใดรักษาศีลให้บริสุทธิ์แล้วจะเป็นเหตุให้พ้นจากความทุจริต จิตจะร่าเริงแจ่มใส และเป็นท่าหยั่งลงมหาสมุทรคือนิพพาน ดังนั้นขอเรียนเชิญทุกท่าน ตั้งใจกล่าวคำอาราธนาศีลโดยพร้อมเพรียงกันนะครับ” เมื่อพิธีกรพูดบทนี้สาธุชนก็จะตั้งใจรับศีล จึงทำให้พิธีกรรมมีความศักดิ์สิทธิ์
” ขออานุภาพแห่งความดี ที่ข้าพเจ้าได้สั่งสมมาดีแล้วนับภพนับชาติไม่ถ้วน จงมาประมวลรวมกัน ณ บัดนี้ ให้เป็นภาพที่เป็นไปเพื่อความดี เมื่อบุคคลทั้งหลายได้เห็นแล้ว จงเข้าใจลึกซึ้งถึงการดำเนินชีวิตอันดีงาม และจงมาร่วมเป็นเจ้าภาพครั้งนี้โดยถ้วนหน้ากัน เมื่อถึงเวลานั้น ข้าพเจ้าจะพึงอุทิศตน สละชีวิตไว้ในพระพุทธศาสนา ความดีอันเป็นแก่นสารแท้จริงของชีวิต จะได้หล่อหลอมให้ใจของข้าพเจ้าเบ่งบานพอเพียงแก่การที่จะกล่าวว่า ข้าพเจ้าขอบวชอุทิศชีวิตนี้เป็นพุทธบูชา ไปตราบจนสิ้นอายุขัย ณ เวลานั้น ขอให้มนุษย์ เทวดา พรหม อรูปพรหม นาค ยักษ์ คนธรรพ์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายจงอนุโมทนาแก่การบวชของข้าพเจ้าด้วยเถิด ”
” บวชอุทิศชีวิตเป็นพุทธบูชา บรรพชาอุปสมบทไปจนกว่าจะสิ้นอายุขัย ณ พัทธสีมาวัดพระธรรมกาย ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๓๒ ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา ”
”...เมื่อเราบวชจะอุทิศชีวิตนี้เพื่อพระพุทธศาสนา ต้องเป็นเหมือนเพชรที่ไร้รอยมลทิน ต้องกลั่นตัว ฝึกตัว เจียระไนตัวเองให้เป็นเพชรที่ไร้รอยมลทิน เพราะเพชรที่มีรอยมลทิน ไม่มีใครอยากจะเอามาประดับเรือนแหวน...”
ทันทีที่ผ่านการอุปสมบท หลวงพ่อก็ให้ทำหน้าที่ เป็นเลขาฯ ของวัด บวชแล้ววันรุ่งขึ้นก็เทศน์เลย อาทิตย์ต่อมาก็ไปนำนั่งสมาธิ ที่ทำเช่นนี้ก็เพราะถูกฝึกให้พร้อมที่จะใช้งาน ทำหน้าที่ของพระได้เลย แม้ว่าจะเป็นผู้อุปสมบทใหม่ เมื่ออุปสมบทแล้ว ก็อยากจะทำภารกิจเฉพาะส่วนที่เป็นงานของพระ จึงมอบงานบริหารสำนักงานกัลยาณมิตรให้ผู้อื่นรับไปหลายๆท่าน ก็แบ่งให้น้องๆช่วยกันดูแล วันหนึ่งคุณยายอาจารย์ฯ
มาปรารภว่า ตอนนี้ทางวัดยังเป็นหนี้อยู่ หลายท่านก็เข้ามาช่วยบอกบุญปลดหนี้ โดยพระอาจารย์ตักกสรโณ ตั้งทีมแก้วจักรพรรดิ เราตั้งทีมแก้วประสานใจเข้ามาช่วยกัน ปลดหนี้ได้สำเร็จ
สมณศักดิ์
พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้รับตราตั้งเป็นพระฐานานุกรม ที่ พระปลัด
พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้รับตราตั้งเป็นพระครูฐานานุกรม ที่ พระครูปลัดนายกวรวัฒน์
พ.ศ. ๒๕๕๖ ได้รับตราตั้งสมณศักดิ์ ที่ พระครูวิเทศสุธรรมญาณ วิ
พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ พระสุธรรมญาณวิเทศ วิ
ตำแหน่งงานการคณะสงฆ์
พ.ศ. ๒๕๓๗ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ประเทศไทย
พ.ศ. ๒๕๓๘ ได้รับตราตั้งเป็นพระกรรมวาจาจารย์
พ.ศ. ๒๕๔๔ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
พ.ศ. ๒๕๔๗ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายนครโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์
พ.ศ. ๒๕๕๑ ประธานสภาองค์กรพุทธสหพันธรัฐออสเตรเลีย
พ.ศ. ๒๕๕๒ ประธานสงฆ์วัดพระธรรมกายโซโลมอน
พ.ศ. ๒๕๕๕ ได้รับตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ. ๒๕๕๙ (เดือนมิถุนายน) รักษาการเจ้าอาวาส และปฏิบัติหน้าที่แทน
เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ประเทศไทย
พ.ศ. ๒๕๖๔ รองประธานสหภาพพระธรรมทูตไทยในโอเชียเนีย
ตำแหน่งพิเศษ
•เลขาธิการมูลนิธิ ๖๐ ปี ธรรมชัยเพื่อการศึกษาแห่งประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
• ประธานมูลนิล ๖๕ ปี ธรรมชัยเพื่อการศึกษาแห่งประเทศโซโลมอน
• ประธานมูลนิธิ ๗๐ ปีธรรมชัยแห่งประเทศอินเดีย
• กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิตะวันธรรม ประเทศไทย
• ประธานอำนวยการ สถาบันวิจัยนานาชาติธรรมชัย
(Dhammachai International Research Institute : DIRI)
• ผู้แทนทางการประจําภาคพื้นโอเชียเนียขององค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก
(Oceania Representative of WFBY )
•พระอาจารย์ที่ปรึกษา สมาคมบัณฑิตรัตน์ และมูลนิธิเพื่อการศึกษาศาสนา
และวัฒนธรรมนานาชาติ
•พระอาจารย์ที่ปรึกษา ชมรมพุทธศาสน์นักศึกษาไทยประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
•รองประธาน องค์กรความร่วมมือเพื่อการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมชาวพุทธแห่งโลก
(The World Alliance for the Buddhist Culture Exchange)
•ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดท่าข้ามศรีดอนชัย อ.เชียงของ จ.เชียงราย
•ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ The Peace Club at the University of Otago, New Zealand
งานเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศออสเตรเลีย
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๑ พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้มอบหมายให้ พระสุธรรมญาณวิเทศ วิ. (ครั้งเป็นพระปลัดสุธรรม สุธัมโม) นำหมู่คณะ ทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ประเทศออสเตรเลีย ในวันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๑
งานเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศนิวซีแลนด์
พระสุธรรมญาณวิเทศ วิ. จัดกิจกรรมรวมคนท้องถิ่นให้รู้จักพระพุทธศาสนาและการนั่งสมาธิ เช่น งานวิสาขบูชาตามมติขององค์การสหประชาชาติ ปีพ.ศ. ๒๕๕๕ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากองค์กรชาวพุทธทั้ง ๓ นิกาย รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐบาล และได้จัดกิจกรรม Otago Light of Peace 2018 ณ มหาวิทยาลัยโอทาโก้ ทั้งยังเป็นผู้สนับสนุนให้จัดตั้งชมรม The Peace Club at the University of Otago ในมหาวิทยาลัย เพื่อให้เยาวชนได้รู้จักการนั่งสมาธิ
๙ วัดสาขา ๑ สถาบัน ในภาคพื้นโอเชียเนีย
ประธานภาคพื้นโอเชียเนีย บุกเบิกและดูแล ๙ วัดสาขา ๑ สถาบัน ในประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และหมู่เกาะโซโลมอน
วัดพระธรรมกายซิดนีย์ (ออสเตรเลีย)
วัดพระธรรมกายอัลบูรี (ออสเตรเลีย)
วัดพระธรรมกายบริสเบน (ออสเตรเลีย)
วัดพระธรรมกายโอ้คแลนด์ (นิวซีแลน )
วัดพระธรรมกายโซโลมอน (หมู่เกาะโซโลมอน)
วัดพระธรรมกายเมลเบิร์น (ออสเตรเลีย)
วัดพระธรรมกายเวลลิงตัน (นิวซีแลนด์)
สถาบันวิจัยนานาชาติธรรมชัย (นิวซีแลนด์)
วัดพระธรรมกายเวสเทิร์น (ออสเตรเลีย)
วัดพระธรรมกายดันนีดิน (นิวซีแลนด์)
ปฏิบัติศาสนกิจ ในฐานะ
“ประธานสภาองค์กรพุทธแห่งสหพันธรัฐออสเตรเลีย”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โอวาทหลวงพ่อธัมมชโย
องค์สถาปนา สถาบันวิจัยนานาชาติธรรมชัย (DIRI) ยังมีสิ่งที่จะต้องค้นคว้าอีกประการหนึ่ง ซึ่งเป็นความหวังของหลวงพ่อมายาวนานหลายสิบปีทีเดียว คือ คำว่า “ธรรมกาย” ยังมีปรากฏอยู่ตามคัมภีร์ต่างๆ และถูกเก็บเอาไว้ตามภาษาต่างๆ กระจัดกระจายกันไปทั่วโลก อยู่ประเทศโน้นบ้างประเทศนี้บ้าง บางประเทศก็นับถือพระพุทธศาสนา บางประเทศก็ไม่ใช่ อย่างเช่นที่อังกฤษ เมื่อไปปกครองในอินเดีย ก็ได้รวบรวมคัมภีร์อะไรต่างๆกลับประเทศอังกฤษ เพราะฉะนั้นยังมีสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคำว่าธรรมกาย ซึ่งเป็นคำสอนดั้งเดิมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่กระจัดกระจายไปตามภาษาต่างๆ ที่จัดเก็บไว้เป็นภาษาบาลีก็ยังมีอยู่อีกมาก เป็นสิ่งที่หลวงพ่ออยากจะให้ผู้จบเปรียญธรรม ๙ ประโยคแล้ว ได้ไปศึกษาต่อ ค้นคว้าไปใน ภาคภาษาบาลีอย่างที่เคยได้ศึกษามาก็ตาม หรือภาษาอื่น เพื่อที่จะได้ไปค้นคว้าคําสอนดั่งเติมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เกี่ยวข้องกับคำว่าธรรมกาย เนื่องจากว่าชาวโลกทั้งหลาย โดยเฉพาะนักวิชาการ ซึ่งเป็นผู้ที่มีพลังและอานุภาพมากสำหรับชาวโลก ถ้านักวิชาการได้พูดอะไรออกไป มีหลักฐานอ้างอิงพอที่จะชวนเชื่อถือได้ ชาวโลกซึ่งไม่มีเวลาสำหรับที่จะมาศึกษาพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะเชื่อในสิ่งที่นักวิชาการทั้งหลายของโลกเขาได้กล่าวเอาไว้ หรือพูดเอาไว้ตามที่ต่างๆ
ถ้าหากว่าเราสามารถมีหลักฐานอ้างอิงเกี่ยวกับคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธเจ้า เนื่องมากับวิชชาธรรมกายด้วยแล้ว เราก็จะได้เอาหลักฐานนี้ไปแสดงเพื่อเปิดเผย ให้กับนักวิชาการทั้งหลายในโลกนี้ ได้รู้ ได้เห็น ได้รับทราบ และก็ยอมรับ ในสิ่งที่เราได้ค้นคว้าออกมาอย่างมีเอกสารอ้างอิง ซึ่ง ณ จุดตรงนี้แหละจะเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ เมื่อเราได้นำหลักฐานอ้างอิงเกี่ยวกับเรื่องธรรมกาย ไปให้นักวิชาการที่ยอมรับ แล้วเขาก็ประกาศออกไป นั่นก็แสดงว่าชาวโลกก็พร้อมที่จะได้รับคำสอนเกี่ยวกับเรื่องวิชชาธรรมกาย ซึ่งเป็นวิชาหลักสำคัญของชีวิตมนุษย์ เป็นหลักของโลก เพราะหลวงพ่อก็เชื่อเหมือนเดิม ทุกๆครั้งที่มีความเชื่อตั้งแต่ดั้งเดิมจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ว่า สันติภาพของโลกนั้นเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน จากการที่ทุกคนได้เข้าถึงสันติสุขภายใน ซึ่งรวมประชุมอยู่ในธรรมกาย ในกลางกายของมนุษย์ทุกๆคน ความเชื่ออย่างนี้ไม่เคยหลุดจากใจหลวงพ่อไปเลย และหลวงพ่อก็เชื่อว่าในยุคเราสมัยเรานี่แหละ เราก็สามารถกระทำสิ่งนี้ให้มันปรากฏเกิดขึ้นมา มันเป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่ติดตัวเรามาข้ามชาติ จนกระทั่งชาตินี้แหละ ที่มาเกิดก็เพื่อการนี้ เพื่อที่ไปบอกกับชาวโลกทั้งหลายให้รู้ว่า ในตัวเขามีสิ่งที่ดีงาม มีสิ่งที่เขาแสวงหาอยู่คือธรรมกาย เรามาเพื่อการนี้
ให้ไว้ ณ วันที่ ๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๓
