ทบทวนตัวเอง

วันที่ 08 ธค. พ.ศ.2565

8-12-65-1-b.jpg

ทบทวนตัวเอง

             ให้ลูก ๆ ทุกคนในองค์กรระวังรักษาตัวเองให้ดี อย่าให้เป็นอะไรไปโดยความประมาท หรือมีเหตุที่ต้องให้หลุดไปจากการสร้างบารมีให้เรารักษาตัวเองให้รอดพ้นจากภัยต่าง ๆ เพราะเราเป็นสมบัติของพระศาสนา หลวงพ่อจะพูดให้ชัดลงไปเลยก็ได้ว่า “เราเป็นสมบัติของธาตุธรรม” เราต้องระวังรักษาสุขภาพกายโดยการบริหารกำลังกายให้แข็งแรงเสมอ สุขภาพใจก็ต้องรักษา อย่าให้ความคิดที่ไม่ดีเข้ามาครอบงำเราได้ เราต้องรักษาใจและความนึกคิดในใจของเราให้เป็นกุศล ให้เจริญงอกงามแต่ความดีเท่านั้น บางครั้งหลวงพ่อก็มีหลายเรื่อง บางครั้งตาไม่ได้มองเห็น แต่จะถามถึงหรือทราบข้อมูลอยู่เสมอ

              คนเราจะเอาดีทางธรรมได้ ต้องไม่มีหวังในทางโลก เช่น ไม่อยากร่ำรวย ไม่อยากแต่งตัว ไม่อยากมีชื่อเสียง ฯลฯ แล้วก็ต้องยอมลำบาก เพราะหนทางการสร้างบารมีต้องอดทน อยู่ทางโลกก็ต้องทนคนไม่มีศีล อยู่ทางธรรมก็ต้องอดทนต่อเพื่อนสหธรรมิก เพราะเราอยู่ร่วมกันเป็นทีมใหญ่ ความลำบากทำให้บารมีของเราเพิ่มพูนมากขึ้น ความสบายต่างหากที่ฆ่าเรา ถ้าเราติดความสบายแล้วจะไม่ยอมปรับตัว ฝึกฝนตนเองให้เจริญในทางธรรม ความสบายมีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกในการสร้างบารมีเท่านั้น ไม่ใช่มีไว้เพื่อให้เราติด แล้วทำให้ความไม่ดีต่าง ๆ เฟื่องฟู

             การมาเกิดกับการตายของเราไม่เหมือนชาวบ้าน เราเป็นสมบัติของธาตุธรรม เพราะธาตุธรรมส่งให้เรามาเกิด ให้มาทำหน้าที่ปราบเขาไม่ใช่มาให้เขาปราบ พวกเราถอดกายได้ ตายได้ แต่จริงๆ แล้วเราไม่ตาย เราเพียงแต่ถอดกาย ธาตุธรรมก็เอาเราไปกลั่นแก้ไขเติมบุญ พอถึงเวลาก็ถอยลงมาสู้ใหม่ เราต้องตั้งเป้าหมายในใจว่า “เราต้องไปถึงที่สุดแห่งธรรม” พอมาเกิดอีกกี่ครั้งก็ตาม เราจะได้มีเป้าหมายในใจ แล้วจะได้มาสร้างบารมีต่อจากภพก่อน ๆ

              เราเป็นทหารกล้าแห่งกองทัพธรรม ต้องตายในหน้าที่เท่านั้น ถ้าหนีทัพหรือหลุดออกไป ถ้าไปรู้ไปเห็น...ขนสั้น ๆ ของเรานี่จะลุกชัน จากเส้นสั้น ๆ ไปถึงจักรวาล

               พวกเราต้องทำหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายเท่านั้น หลวงพ่อขอให้ทุกคนตั้งใจทำตามวิธีที่หลวงพ่อแนะนำ หลวงพ่ออยากให้ทุกคนในองค์กรทำ ๒ ข้อคือ

                ๑.ทำกิจวัตรให้สม่ำเสมอ ตื่นนอนตี 4 ครึ่ง นั่งธรรมะตามเวลาขององค์กร กิจกรรมที่หมู่คณะมอบหมายให้ก็รับผิดชอบให้ดี

                 ดูตัวอย่างสาธุชนสิจ๊ะ เขาทำงานไม่อยู่ในบุญเลย เขากลับทำกิจวัตร (นั่งสมาธิ) ได้ผล มีประสบการณ์ดีๆ หลวงพ่อไม่เข้าใจ ยังสงสัยว่าเป็นเพราะอะไร มีองค์กรไหนบ้าง ที่เขากำหนดเวลานอนให้ มีแต่พวกเรานี่แหละ หลวงพ่อต้องกำหนดเวลานอนให้ ก็ยังไม่ยอมนอน ทำกิจกรรมกันเพลิน แต่พอให้นั่งธรรมะกลับหลับเสียนี่

                 ๒. ทำอย่างไร มโนปณิธานที่เราตั้งใจไว้จะไม่เปลี่ยนแปลงที่เข้ามาในองค์กรตั้งใจจะประพฤติพรหมจรรย์ ทำวิชชากับหลวงพ่อ มาสร้างบารมีกับหมู่คณะ พออยู่ๆ ไป เกิดอยู่ไม่ได้ เป้าหมายมโนปณิธานเปลี่ยนไป พูดคุยตักเตือนกันด้วยเหตุผลก็รับไม่ได้ ใช้อารมณ์แทนเหตุผล

                การมีกัลยาณมิตรสำคัญที่สุด เป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์ กับการที่เรายอมปรับตัวเข้าหาหมู่คณะ ก็จะช่วยได้มาก แต่ที่สำคัญสุด ๆ คือ "ใจของเราเอง" เราเป็นอนาคาริกมุนีแล้ว เราต้องคอยระวังดูแลจิตใจของเรา อย่าให้อกุศลทั้งความคิด คำพูด และการกระทำเกิดขึ้น สิ่งใดทำให้อกุศลงอกงาม ตัดฉับออกไปเลย ถ้าเราจริงใจต่อการประพฤติพรหมจรรย์แล้ว เราจะสละสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างบารมีออกไปได้ เช่นเดียวกับการปฏิบัติธรรม ถ้าเราจริงใจก็ต้องปฏิบัติฝึกฝน โดยใช้วิธีการที่ถูกต้อง และทำสม่ำเสมอ

                หลวงพ่อชวนทุกคนมาสร้างบารมี วัดก็ชื่อวัดพระธรรมกายเพื่อให้ผู้ฟังนึกถึงสรณะ และทุกคนในองค์กรต้องเข้าถึงธรรม ถ้าเข้าไม่ถึง มาปิดตาหลวงพ่อตอนตาย ถึงอย่างนั้นหลวงพ่อก็ไม่รู้ว่าจะปิดตาลงหรือเปล่า หลวงพ่อจะนอนตายตาหลับ ปิดตาเองเลย ถ้าลูก ๆ ทุกคนเข้าถึงธรรมกายสมกับชื่อวัด

คุณครูไม่ใหญ่

จากหนังสือ ง่ายที่สุดคือหยุดได้ เล่ม ๓

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0085375984509786 Mins