สรุปโอวาทการปฏิบัติธรรมที่ ๒๗๗
ฟุ้งเป็นเครื่องกั้นจิตไม่ให้ไปถึงผู้รู้ภายใน : ใครยังมีฟุ้งอยู่บ้าง (พระลูกชาย: มีบ้างนิด ๆ แต่ก็ไม่มาก แต่ก็ดีขึ้นเยอะแล้วครับเหลือบาง ๆ น้อยมากครับ แต่ก็ทำตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อแนะนำครับ ไม่ได้ต่อต้าน ไม่ได้ไปสนใจครับ) ก็ไม่ต้องไปสนใจเหมือนมีแขกมาเคาะประตูบ้าน ถ้าเราไม่สนใจ ไม่ไปเปิดประตูให้ เดี๋ยวก็ไปเองแหละ ลูกเอาชนะตรงนี้ให้ได้ เพราะในใจยังมีเครื่องเร้าอยู่ภายใน เป็นมลทินของใจ เพราะเครื่องเร้าภายนอกไม่มีแล้ว ถูกตัดออกหมดแล้ว อยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสิ่งเร้าภายนอก สถานที่เป็นสัปปายะ ไม่มีงานหยาบอะไรเลย แต่สิ่งเร้าที่มีอยู่ภายในก่อนเข้ามาอยู่ในนี้ยังมีอยู่ ลูกฝึกตรงนี้ ฟุ้งเป็นเครื่องกั้นจิตไม่ให้เราไปถึงผู้รู้ภายใน แต่ก็ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน เป็นกำแพงกั้นไม่ให้ไปถึงผู้รู้ที่มีอยู่ข้างใน แต่ก็บางลงมากแล้ว เหลืออยู่นิด ๆ เดี๋ยวก็ทะลุไปได้ บางลงไปเยอะแล้ว
อย่างที่หลวงพ่อบอกคราวที่แล้วไง เราทำในส่วนของเรา คือมุ่งเข้าไปข้างใน ท่านก็ทำในส่วนของท่าน คือ ท่านก็มุ่งข้างในออกมาข้างนอก พอถูกส่วนก็ไปด้วยกัน จะถูกส่วนได้ใจต้องรวมกันเป็นหนึ่ง ตอนนี้เรากำลังฝึกใจให้หยุดนิ่งสมบูรณ์ เพราะใจเราแตกมาตั้งแต่เกิด กระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง ตอนนี้เรากำลังเริ่มกลับมารวมใจใหม่ ที่ผ่านมามีสิ่งเร้าเยอะแยะมากมาย เราก็รู้กันอยู่ ทำให้ใจหลุดออกจากศูนย์กลางกาย ถึงแม้เราจะเข้ามาอยู่ในนี้แล้ว เรามาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นสัปปายะ ที่ปลอดจากสิ่งเร้าภายนอกที่เข้ามาไม่ได้ แต่ก็ยังมีสิ่งเร้าที่ยังติดค้างอยู่ข้างในที่ทำให้ใจเรามันแตก เห็นไปทาง จำไปทาง คิดไปทาง รู้ไปทาง เห็นจำคิดรู้...แยกไปคนละทิศละทางกันเลย
เรากำลังกลับมารวมใจใหม่ให้ติด ถ้าใจติดแล้วจะติดใจ ใจเราแตกมาตั้งแต่เกิด ตอนนี้เพิ่งกลับมารวมใจให้ถูกส่วน กลับมารวมเห็นจำคิดรู้ใหม่ให้เป็นหนึ่ง ให้ใจตั้งมั่นนิ่งแน่น ตอนนี้เราย้อนกลับมาทบทวนการบ้าน ดูเหมือนช้าแต่จริงๆ เรามาได้เยอะแล้ว เรายอมเสียเวลาตรงนี้นิดหนึ่ง ดูเหมือนไม่ไปไหน แต่จริงๆ เรากำลังไปไหน แต่ขอให้เราเอาไหน ก็แค่นี้เอง
คุณครูไม่ใหญ่
จากหนังสือ ง่ายที่สุดคือหยุดได้ เล่ม ๓