ให้รู้วิธีการ คือ เราต้องทำใจ...ว่าเราทำได้!

วันที่ 03 สค. พ.ศ.2566

3-8-66-B4.jpg

ให้รู้วิธีการ คือ เราต้องทำใจ...ว่าเราทำได้!
                   หลวงพ่อว่าประสบการณ์ภายในไม่ยากนะ ถ้าเรารู้วิธีการ คำว่ารู้วิธีการ ไม่ใช่ว่ารู้จำว่า “ต้องหยุด ต้องนิ่ง ต้องเฉย ต้องสบาย” อย่างนี้เรารู้วิธีการในระดับหนึ่ง แต่ถ้ารู้วิธีการอีกในระดับหนึ่งที่ลึกกว่าเดิม คือ ทำได้ อยากให้รู้วิธีการตรงนี้ ตรงที่ทำได้! เราต้องทำใจอย่างนี้ เดี๋ยวมันจี๊ดเข้าไป อยากให้รู้ตรงนี้จังไม่ใช่รู้แค่ “หยุดเป็นตัวสำเร็จ” แค่นั้น หรือ “หยุด นิ่ง เฉย มีอะไรให้ดูก็ดูไป ดูไปอย่างสบาย ๆ โดยไม่ต้องคิดอะไร” ไม่ใช่ให้รู้เพียงเท่านี้


                   วิธีการที่ต้องรู้ คือ ทำได้ในระดับที่มีประสบการณ์ว่า แม้เรามีภารกิจเพียงใดก็มีองค์พระผุดเกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะทำกิจวัตรกิจกรรมอะไรก็ตาม องค์พระผุดขึ้นมาตลอดเวลา เกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ผุดขึ้น ๆ แต่สิ่งนี้จะได้มาต้องสั่งสมประสบการณ์ ถึงจะค่อย ๆ เข้าใจกับคำว่า “หยุด นิ่ง เฉย อย่างสบาย ๆ ” ต้องอินกับมันไปเลย เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับคำนี้


                   ต้องอาศัยการสั่งสมประสบการณ์ ซึ่งจะต้องมีใจรักทีเดียวต้องใจรัก รักลึก ๆ อยากจะมีประสบการณ์ที่แท้จริงแล้ว เราจะเข้าใจกับคำว่า “หยุด นิ่งเฉย สบาย ๆ” โดยการสั่งสมความหยุดนิ่งในทุกวัน


                   นอกจากนี้ให้ทำหน้าที่ชวนคนมาบวช โดยเอาสองโครงการมารวมกัน คือ บวชบูชาธรรมวันครูวิชชาธรรมกาย และบูชาธรรม วันคล้ายวันเกิดด้วยรูปกายเนื้อของพระเดชพระคุณหลวงปู่ เพราะถ้าไม่มีวันนี้ ก็ไม่มีวันอื่น ทั้งสองวันนี้มีความสำคัญเราต้องเอามารวมกัน เวลาเราจะทำบุญให้ใคร พอเรานึกถึง ท่านนั้นก็จะนึกถึงเราทันที ท่านก็จะหันไปดู ท่านก็จะจดจ่อเพื่อรอรับบุญจากผู้ที่กำลังจะอุทิศไปให้ ก็แปลว่า “บุคคลนั้นเห็นความสำคัญของท่านจึงได้ทำบุญอุทิศไปให้” เพราะฉะนั้น ท่านก็จะรับบุญและคุมบุญให้ผู้นั้นเป็นพิเศษ


                   เราต้องทำความเข้าใจกันนะ เรากำลังบูชาธรรมพระเดชพระคุณหลวงปู่พระผู้ปราบมาร ท่านมีความสำคัญมาก ให้ไปช่วยกันชวนคนมาบวชมาก ๆ เพราะมีหลวงปู่จึงมีทุกสิ่ง ท่านมาก่อนใครเลย ในวันคล้ายวันเกิดด้วยรูปกายเนื้อ และวันเกิดด้วยรูปกายธรรม สองวันนี้สำคัญมาก ๆ เกิดด้วยกายเนื้อก่อน แล้วจึงเกิดด้วยกายธรรม แล้วก็ขยายกายธรรมต่อไปโยงไปถึงเส้นทางธรรมยาตราทุกอย่างเกี่ยวเนื่องกัน


                     เราต้องบูชาธรรมท่านด้วยปัญญา ด้วยหัวใจ ทุ่มเทมาเอาบุญพิเศษกันให้เต็มที่ ชวนกันมาบวชมาก ๆ ถ้าเราไม่เห็นความสำคัญของหลวงปู่ ไม่ให้ความสำคัญกับท่านแล้วใครจะเห็น!! เพราะเราใกล้ชิดขนาดนี้ เพราะฉะนั้นการบวชเพื่อบูชาธรรมท่านไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เลย ไม่ใช่บวชกันเพียงหลักสิบ เจ็ดสิบก็ไม่ใช่ ต้องหลักร้อยขึ้นจนไปถึงหลาย ๆ ร้อย แล้วก็บวชอยู่ต่อให้ไปถึงเดินธรรมยาตรา เพราะเนื่องด้วยกับท่านทั้งหมดเลย การเกิดของท่านด้วยรูปกายเนื้อ เกิดด้วยรูปกายธรรม และขยายไปตามอนุสรณ์สถานเส้นทางธรรมยาตราล้วนเกี่ยวเนื่องกับท่านทั้งนั้นเลย


                  เราต้องออกไปทำหน้าที่ไปพูดให้เขาเข้าใจและชวนกันมาบวชมาก ๆ เพราะฉะนั้นหลักร้อยไม่ใช่แล้ว ต้องหลักหลายร้อย เราต้องพูดให้เป็น ซึ่งที่พูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องจริง เราต้องเอาเรื่องจริงมาพูด ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ เราพูดเรื่องจริงแล้วขยายความให้เป็นธรรมทาน ต้องช่วยกันให้ธรรมทาน จะได้มีคนมาบวชมาก ๆ ซึ่งในช่วงเวลานี้เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายในผืนแผ่นดินไทย เราต้องเข้มแข็งเอาไว้ เพราะเราไปทำหน้าที่พูดเรื่องจริง เราต้องปลื้มทุกครั้งที่เราได้พูด เราปรารภเหตุที่จะชวนคนมาบวช เราก็ต้องปลื้มทุกครั้ง ที่เราจะไปชวนไปทำหน้าที่ เราก็ต้องปลื้ม พูดไป ชวนไป ปลื้มไป ชวนเสร็จเราก็ปลื้มอีก ปลื้มตลอดชาติเลย 


                  ให้มาบวชกันให้มาก ๆ ซึ่งหายากนะที่วาระทั้ง ๓ วาระมารวมกัน คือ เกิดด้วยรูปกายเนื้อ เกิดด้วยรูปกายธรรม และเส้นทางธรรมยาตรา ตั้งแต่ท่านปรารภเหตุที่จะออกบวชตอนอายุ ๑๙ ไล่ เรื่อยมาถึงการปราบมาร เส้นทางของท่านทั้งนั้นเลย เส้นทางบุญตลอด และเป็นเส้นทางบารมีพิเศษ เราจะปฏิเสธการบวชทำไมหรือปฏิเสธการออกไปทำหน้าที่ชวนบวชทำไม แม้เคยบวชแล้วก็ให้กลับมาบวชอีก

 

คุณครูไม่ใหญ่

จากหนังสือ ง่ายที่สุดคือหยุดได้ เล่มที่ ๖

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0034892996152242 Mins