ผู้เปิดโลกนี้ให้สว่าง

วันที่ 18 มค. พ.ศ.2567

18-1-66-1-b.jpg

ผู้เปิดโลกนี้ให้สว่าง

 

                   พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) พระผู้ปราบมาร ผู้นำแสงสว่างมาให้กับโลก ท่านเป็นผู้เปิดโลกนี้ให้สว่างด้วยพระรัตนตรัยภายใน ทำให้มวลมนุษยชาติรู้จักแผนผังของชีวิต ๑๘ กาย ที่มีอยู่ในตัว จนเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องกฎแห่งกรรม
เรื่องกิเลสอาสวะ เรื่องพญามาร จึงทำให้เราดำเนินชีวิตและตั้งเป้าหมายชีวิตได้ถูกต้องสมบูรณ์เพื่อที่จะมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรม ท่านช่วยปิดประตูอบาย และเปิดหนทางสวรรค์นิพพานให้กับเราอีกด้วย

 


                   ท่านเป็นผู้มีพระคุณต่อเราและชาวโลกเป็นอย่างยิ่ง บุคคลผู้ให้สรณะ ให้ที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง ถือว่า "เป็นบุคคลที่ควรบูชาอย่างยิ่ง” พระเดชพระคุณหลวงปู่มีน้ำใจประดุจพระบรมโพธิสัตว์ ท่านได้สละชีวิตจนกระทั่งค้นพบพระรัตนตรัยภายในตัว ให้หวนกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง เป็นพยานในการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะหลังจากพุทธปรินิพพานไปแล้ว ๕๐๐ ปี การปฏิบัติให้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายในก็ค่อย ๆ จางหายไป เหลือเพียงแค่พระรัตนตรัยภายนอกที่คนทั่วไปเข้าใจเพียงว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ เจ้าชายสิทธัตถะ ที่สละราชสมบัติออกผนวช และได้ตรัสรู้ธรรมเป็นพระอรหัตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม คือ คำสอนของพระองค์ มี ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ได้ถูกจารึกไว้ในพระไตรปิฎก พระสงฆ์ คือ ผู้ทรงจำคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นผู้สืบต่ออายุพระพุทธศาสนา ส่วนใหญ่ก็ทราบกันเพียงแค่นี้ แต่จะให้ลึกซึ้งจนกระทั่งลงมือปฏิบัติให้เข้าถึงตัวจริงของพระรัตนตรัยภายในนั้น หาได้ยาก

 


                   จวบจนกระทั่งพระเดชพระคุณหลวงปู่ของเรา ได้ชี้แจงแสดงเรื่องความเป็นจริงเกี่ยวกับพระรัตนตรัยทั้งภายในและภายนอก เราจึงได้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งด้วยตัวของเราเอง และรู้ว่าพระรัตนตรัยมีอยู่ในตัวของมนุษย์ทุก ๆ คนในโลก ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติ ศาสนา เผ่าพันธุ์
ขนบธรรมเนียมประเพณี หรือมีความเชื่อที่แตกต่างกันอย่างไรก็ตาม

 


                    แม้จะมีความหลากหลายในภายนอก แต่ก็มีสิ่งที่เหมือนกันอยู่ภายใน คือ มีพระรัตนตรัยในตัว ซึ่งทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ด้วยวิธีการหยุดใจ ซึ่งท่านมักจะพูดตอกย้ำอยู่เสมอว่า "หยุดเป็นตัวสำเร็จ” คือ ถ้าหยุดใจไว้ภายในศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ แล้ว จะต้องเข้าถึงพระรัตนตรัยภายในอย่างแน่นอน

 


                   ตลอดชีวิตพระเดชพระคุณหลวงปู่ ท่านได้เมตตาพร่ำสอน เคี่ยวเข็ญให้ทุกคนลงมือปฏิบัติธรรมกันอย่างจริงจัง เพราะท่านรู้ว่าสิ่งนี้สิ่งเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้พ้นจากการเป็นบ่าวเป็นทาสของพญามารได้ แล้วท่านก็ตั้งมโนปณิธานที่จะปราบมารให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ ตราบใดที่มารยังไม่หมดท่านก็ยังไม่เข้านิพพาน จะรื้อสัตว์ขนสัตว์เรื่อยไป และจะขอเข้านิพพานเป็นคนสุดท้าย

 


                   บุคคลผู้เสียสละและมีมโนปณิธานสูงส่งยิ่งใหญ่เช่นนี้ นับเป็นบุคคลที่หาได้ยากยิ่งในโลก หากไม่มีการมาบังเกิดของท่าน เราก็จะหมดโอกาสที่จะได้มาพบกับหนทางอันประเสริฐ ชีวิตเราก็คงจะไร้แก่นสารและไร้ที่พึ่ง

 


                   เรามาตามระลึกนึกถึงพระคุณของท่าน จึงได้มาพร้อมเพรียงกันเพื่อที่จะมาสร้างประวัติศาสตร์ชีวิตอันงดงาม สิ่งที่เราได้แสดงออกต่อท่านนี้ เป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย เมื่อเทียบกับคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ และพระคุณอันหาประมาณมิได้ของท่านที่มีต่อเราและชาวโลก ตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งหลาย แต่ถึงกระนั้นก็เป็นสิ่งที่เราควรจะทำ เพื่อบูชามหาปูชนียาจารย์ผู้มีพระคุณอันประเสริฐของเรา

 

 

 


                   Phramongkolthepmuni (Sodh Candasaro), the Mara Vanquisher, brought the world into brightness through the Triple Gem within, enabling mankind to know the blueprint of life concerning the eighteen transcendental inner bodies and have a correct understanding of the law of karma, defilements, and the story of Mara. He guided us to live our lives righteously and set our life goals correctly, that is, to aim for the Utmost Dhamma. He helped close the door to hell and open the way to heaven and Nirvana for us as well.

 


                    His teachings are of great benefit to us and the world. The one who introduced us to the true refuge is "the one most worthy of respect." Luang Pu had the heart of a Bodhicativa. He put his life at stake meditating until he discovered the Triple Gem within, bringing back the lost knowledge to mankind, reassuring the Enlightenment of the Buddha. Five hundred years after the passing of the Lord Buddha, the practice to attain the Triple Gem within gradually faded away, leaving only the external Triple Gem which people now understand that the Buddha is Prince Siddhartha who abdicated, ordained, and attained enlightenment as the Buddha, the Dhamma is the Buddha's teachings consisting of 84,000 topics recorded in the Tripitaka, and the Sangha refers to monks who study and pass on teachings of the Lord Buddha from generation to generation. Most people know the Triple Gem this way. It is extremely rare to find an individual who practices and can attain the internal Triple Gem.

 


                    Luang Pu was the one who demonstrated the truth about the Triple Gem, both internally and externally. As a result, we have come to understand it clearly for ourselves, knowing that the Triple Gem is inherent in every human being regardless of race, religion, ethnicity, traditions, or beliefs.

 


                   Despite the external diversity, there is one thing internally in common that everyone can attain by stopping one's mind, that is, the Triple Gem within. Luang Pu always taught that " 'Stop' is the key to success." In other words, if you stop your mind within the center of the body at the seventh base of the mind, you will surely attain the Triple Gem within.

 


                    Throughout his life, Luang Pu taught everyone to seriously practice the Dhamma and meditation because he knew that this is the only way to escape from being a slave to Mara. He made the determination to defeat Mara until it is eliminated. Luang Pu chose not to enter Nirvana unless Mara is completely eradicated. He chose to be the last person to enter Nirvana.

 


                     Such a person requires great sacrifice and strong determination. He is considered a rare person in the entire world. If there had been no birth of Luang Pu, we would have lost the opportunity to discover the virtuous path and our lives would have been directionless without refuge.

 


                     We got together on this occasion to recollect his contribution to mankind and create a beautiful history of our lives. What we have done is just a little thing, compared to his great virtue and immeasurable grace to us, the world, and all living beings. Nonetheless, it is what we should be doing to pay gratitude to our great Master.

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.058496483167013 Mins