สรุปโอวาทประจำวัน ปี พ.ศ. ๒๕๕๗
> วันศุกร์ที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๗
วันนี้ แม้แต่คู่บ่าวสาวยังออกมาโปรยดอกดาวรวยต้อนรับพระธุดงค์ นับเป็นคู่แรกของโลก เป็นมงคลของชีวิตในวันแต่งงาน ผู้นำบุญของเรานี่ ทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตรได้เก่งจริง ๆ คือเส้นทางที่พระธุดงค์ผ่าน กำลังมีพิธีแต่งงานพอดี ผู้นำบุญของเราถือโทรโข่งเข้าไปชวนคู่บ่าวสาวและแขกในงาน พร้อมกับเล่าอานิสงส์ผลบุญจากการโปรยดาวรวยต้อนรับพระธุดงค์ พอรดน้ำสังข์เสร็จก็ออกมาโปรย ตั้งแต่รูปแรกจนรูปสุดท้าย
ผู้นำบุญบางคนไปชวนคนให้มาโปรยดอกดาวรวยจากในท้องนากันเลย เส้นทางของพระผู้ปราบมารนี้เป็นเส้นทางของผู้มีบุญ ให้เราตั้งใจลุยเอาบุญกันให้เต็มที่ ให้ลูกเตรียมกาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์ เส้นทางนี้สำคัญและเป็นบุญใหญ่ของลูกทุกคน เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน ไปช่วยกันชักชวนให้ผู้มีบุญออกมาโปรยดอกดาวรวยกันให้เยอะ ๆ นะลูก
> วันเสาร์ที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๗
วันนี้หลวงพ่อไปพบเด็กคนหนึ่งชื่อ อชิต อยู่อนุบาล ๓ หลวงพ่อถาม "๑ แสนล้านอสงไขย บวก ๑ แสนล้านอสงไขย ได้เท่าไร?” อชิตตอบว่า "๒ แสนล้านอสงไขยครับ” หลวงพ่อก็ถามว่า อสงไขยแปลว่าอะไรลูก อชิตก็ตอบว่า "แปลว่าโลกเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็เสื่อมไปครับ” เดี๋ยวนี้หลวงพ่อไปถึงขั้นนี้แล้ว คือครูที่โรงเรียนบอกว่า อชิตเป็นเด็กสมาธิสั้น แต่ความจริงอชิตนั่งสมาธิหนึ่งชั่วโมงไม่กระดิกเลย (อยากจะเอาครูมานั่งแข่งกับอชิต) ครูยังแนะนำให้อชิตไปหาหมอเพราะสมาธิสั้น แต่อชิตหกคะเมนตีลังกาแล้วบอกว่า "เห็นองค์พระท่านนั่งเฉย ๆ” บอกกับแม่ของเขา แม่บอกซน ๆ อย่างนี้เดี๋ยวองค์พระหาย อชิตบอกว่า "ไม่หาย" ว่าแล้วก็หกคะเมนตีลังกา ทำให้แม่ดูเลย อชิตบอกกับแม่ว่า “อย่าทำบาปนะ ทําบาปแล้วดวงแก้วเป็นสีดำแล้วจะไปอบาย” เก่งนะสอนได้ด้วย อชิตชอบภาษาต่างประเทศ ไม่ค่อยชอบภาษาไทย ถ้าหากจะให้อชิตอยู่นิ่ง ๆ เฉย ๆ ก็ต้องหาแรงจูงใจ หลวงพ่อบอกวิธีการให้แม่อชิตไปแล้ว เด็กในวัยนี้กล้ามเนื้อกำลังขยาย หลวงพ่อถามแม่ของอชิตว่า ถ้าให้เลือกระหว่างเด็กทึ่ม ๆ ไม่ไปไหน กับเด็กที่วิ่งได้ แม่จะเลือกแบบไหน แม่เขาก็เลือกเด็กที่วิ่งได้ กล้ามเนื้อกำลังขยาย ก็เป็นแบบนี้แหละ อชิตเป็นบัณฑิตน้อยก็ต้องมีวิธีสอน
วันนี้เรียนภาษาจีนวันแรก ภาษาจีนกลาง เลข ๑ คือ อิ เลข ๒ คือ เอ้อร์ หลวงพ่อก็ตั้งคำถาม อิอิ เท่ากับเท่าไร? อชิตตอบว่า “เอ้อร์ครับ” วันนี้หลวงพ่อทดสอบหมด เขาชอบภาษาจีนกับภาษาอังกฤษ ไม่ธรรมดาเลย อีกหน่อยอชิตจะเก่ง เมื่อวานหลวงพ่อถาม ๑+๑ และ + อีก ๑ เท่ากับเท่าไร อชิตบอกว่า “ยาก.... ๓ ครับ” คงหลายชั้น เด็กเลยบอกว่ายากแต่ก็ตอบได้ ซึ่งเด็กแต่ละคนอัธยาศัยต่างกัน บางคนชอบร้องเพลงเป็นศิลปิน บางคนชอบเล่าเรื่อง บางคนชอบภาษาจีน เด็กวัยกำลังน่าถามต้องอนุบาล ๓ รอยต่อ ป.๑ นี่แหละ ช่วงนี้เป็นรอยต่อ จะได้เป็นครูหรือเป็นอะไรต่าง ๆ ก็ต้องช่วงนี้ อนุบาล ๓ ต่อ ป.๑ กำลังอยู่ในวัยอินโนเซ้นท์แล้วเริ่มจะรู้เรื่องเด็ก ๆ แต่งตัวสะอาดรอหลวงพ่อกันเต็มเลย
พระที่เคยตายเข้าท่าดี ท่านตายแล้วฟื้นขึ้นมาได้เล่าให้ฟังออก DMC ไม่สบายตั้งแต่หนุ่ม ป่วยแล้วกายละเอียดหลุดออกจากร่าง เห็นร่างตนเองเหมือนใน case study แต่ท่านเห็นร่างของท่านเองเลย พอหมอนำร่างของท่านใส่เปลออกจากห้อง ท่านก็เดินตาม เวลาเดินเหมือนเดินอยู่บนโฟมนุ่ม ๆ ๓ ชั้น ไม่เหมือนเดินบนพื้น ระหว่างเดินตามร่างไป ก็ได้ยินเสียงคนเรียกเป็นเสียงผู้มีอายุ ชำเลืองไปเห็นแต่งชุดขาว ผู้มีอายุท่านนั้น บอกว่า “ไม่ต้องหันมา ให้ไปเข้าร่าง ยังไม่ถึงเวลาของท่าน” ท่านถามว่า “จะให้ทำอย่างไร” ผู้มีอายุบอกว่า “ไปนั่งบนปลายเท้า แล้วให้นอนซ้อนอยู่กับร่างที่อยู่บนเตียง” พอนอนลงทับร่างก็เหมือนตกจากที่สูงแล้วก็รู้สึกตัวขึ้นมา ท่านบอกว่าแปลกดี ตายแล้วเกิดใหม่แต่ก็ไม่รู้ว่าคนที่ใส่ชุดขาวเป็นใคร จะเห็นว่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่ออก DMC ไม่ธรรมดาเลย เพราะท่านเล่ามาได้อย่างชัดเจน
> วันอาทิตย์ที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๗
ลูก ๆ ยังแข็งแรงอยู่ ต้องรีบขวนขวายลุยนั่งธรรมะกันให้เต็มที่ อย่าเอาความแข็งแรงไปทำอย่างอื่นที่ไม่เป็นบุญเป็นกุศล เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไร ถ้าเอาความแข็งแรงไปทำบาป ก็จะมีวิบากตามมาอีก เสียดายความแข็งแรง สิ่งสำคัญในการปฏิบัติธรรม คือ ความแข็งแรงและความปลอดกังวล ทั้ง ๒ อย่างเป็นหัวใจสำคัญ ไม่เช่นนั้นพญามารเอาไปทำอย่างอื่นจนหมดแรง เพราะจิตเดิมแท้ของเราจะสะอาด แต่พญามารมันเอากิเลสเข้ามาสอด บังคับให้เราไปสร้างกรรมอีก ดังนั้นในช่วงที่ยังแข็งแรงอยู่ ต้องตั้งใจนั่งธรรมะและสร้างบุญกันให้เต็มที่นะลูก
