กลยุทธ์สู่ความสำเร็จ
หลักปฏิบัติทั้ง 3 ประการ ที่กล่าวมาแล้วนั้นเป็นแนวทางอย่างกว้าง ๆ จำเป็นต้องมีบทฝึกปฏิบัติ เป็นแบบฝึกหัดกำกับไว้เหมือนหมอเหมือนพยาบาลที่รู้วิธีรักษาโรค แต่ถ้ายังไม่ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ถึงเวลาจริง ๆ อาจทำไม่ได้ แม้ทำได้แล้วแต่ยังไม่ชำนาญก็ไม่รู้เท่าทันรักษาโรคไม่หายขาด
บทฝึกปฏิบัติที่ควรทำทุกวันอย่าให้ขาดคือ
1. ต้องตักบาตรให้ทาน ท่องไว้เตือนใจทุกวันเลยว่า “เช้าใดยังไม่ได้ให้ทาน เช้านั้นจะยังไม่กินข้าว”
2. รักษาศีล เช้าขึ้นมาตั้งใจเลยว่าจะรักษาศีล 5 ให้ครบอาราธนาศีลเอากับพระที่ห้อยคอก็ได้ พร้อมกับนึกท่องไว้ในใจว่า“เช้าใดยังไม่ได้ตั้งใจรักษาศีล เช้านั้นจะยังไม่ออกไปทำงาน”
3. สวดมนต์-ทำสมาธิ ธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อลืมตาจะเห็นคนได้ทั้งโลกแต่ไม่เห็นอยู่คนหนึ่งคือ “ตัวเอง” ที่เห็นอยู่ในกระจกก็เพียงแค่เงาไม่ใช่ตัวจริง เพราะฉะนั้นเราจึงวิจารณ์คนได้ทั้งโลก ไม่มีใครดีเลยแม้แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ยังไม่ถูกใจเรา ที่เห็นว่าดีมีอยู่คนเดียวเท่านั้น “ตัวเอง”
เพื่อที่จะได้เห็นตัวเอง รู้จักตัวเอง ทุกคืนก่อนนอนจึงขอให้สวดมนต์แล้วหลับตาดูตัวเองกันบ้าง เพราะเมื่อเราหลับตาลงเราจะไม่เห็นใครในโลกนี้อีก ใจของเราจะได้สงบลงตามอำนาจมนต์ที่เราสวด จากการทำใจให้สงบพอควรแล้วคือ ใครที่เคยเข้าข้างตัวเอง ความลำเอียงจะหลุดไปโดยปริยาย จะเริ่มเห็นตัวเองในมโนภาพทั้งส่วนดีและไม่ดี ส่วนที่ดีจะได้มีกำลังใจทำดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ส่วนที่ไม่ดีจะได้เลิกเสีย
การสวดมนต์เป็นการทำให้จิตใจสงบได้ระดับหนึ่งเท่านั้นแต่ถ้าจะปลูกฝังปักดำรากของคุณธรรมให้หยั่งลึกลงไปในจิตใจแล้วจะต้องฝึกสมาธิด้วย ตราบใดที่ยังไม่ได้ฝึกสมาธิ กำลังใจที่จะปฏิบัติ
ตามหลัก 3 ประการอันเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในชีวิต จะมีไม่พอ เมื่อฝึกสมาธิมาก ๆ เข้า ขันติความอดทนก็จะเกิดขึ้นมาเอง คุณธรรมความเมตตากรุณาก็จะเกิดขึ้นตามมา ทำให้มีใจคิดที่อยากจะสร้างบุญและรักษาศีล ยิ่งสร้างบุญมากใจยิ่งผ่องใส มีปัญญาเข้าใจโลกและชีวิตอย่างทะลุปรุโปร่ง รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว อะไรเป็นบุญ อะไรเป็นบาป การทำงานทุกอย่างจึงไม่หลุดออกจากเส้นทางแห่งความดีความสําเร็จ
สมาธิจึงเป็นศูนย์รวมของความสำเร็จทั้งหลายเป็นประดุจแม่เหล็กแท่งมหึมา สำหรับ ดึงดูดคุณธรรมความดีเข้าสู่ตัว
เพราะฉะนั้นขอให้เราเริ่มต้นกันตั้งแต่วันนี้ ท่องไว้ในใจเลยว่า “คืนใดยังไม่ได้สวดมนต์ยังไม่ได้นั่งสมาธิ คืนนั้นจะยังไม่เข้านอน”
ดังนั้นขอให้พวกเราหมั่นตักบาตรให้ทาน รักษาศีลและสวดมนต์ นั่งสมาธิกันทุกวันอย่าให้ขาด แล้วคุณธรรมดังกล่าวก็จะเกิดขึ้นกับตัวเราอย่างแน่นอน กุญแจแห่งความสำเร็จในชีวิตของเราก็จะไขเอาคุณงามความดีมาสู่เราอย่างไม่ขาดสาย วิชาความรู้ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนจนจบหลักสูตรก็จะนำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์เป็นบุญทั้งกับตัวเอง ครอบครัวและเพื่อนร่วมโลก แต่นี้ต่อไปเราจะไม่ใช่นักศึกษาพยาบาลแล้ว แต่เราจะเป็น “พยาบาล”อย่างเต็มตัว และจะต้องเป็นพยาบาลที่มีคุณภาพ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้ได้ทั้งงานได้ทั้งบุญ
หลักปฏิบัติ 3 ข้อ คือ อดทน สร้างบุญทำทานและมีศีล
ให้เขียนติดไว้ที่หัวนอนเลย และก่อนนอนต้องไม่ลืมที่สวดมนต์และฝึกสมาธิด้วยนะ
สำหรับวันนี้หลวงพ่อก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้
ด้วยอำนาจบารมีธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายและอำนาจบารมีธรรมที่พวกเราทั้งหลายได้ตั้งใจฟังธรรมบรรยายมา ตั้งแต่ต้นจนกระทั่งสมมติว่าอวสานนี้ตลอดจนความปรารถนาดีที่พวกเรามีต่อคนไข้ ต่อเพื่อนร่วมโลก คือตั้งใจรักษาพยาบาลเขาให้หายป่วยหายไข้ตลอดมาและบุญบารมีที่พวกเราจะสั่งสมให้ยิ่ง ๆ ขึ้นต่อไปในภายหน้า ขออำนาจบุญบารมีธรรมทั้งหลายเหล่านั้น จงประมวลรวมเข้าด้วยกันให้เป็นตบะ เป็นเดชะ เป็นพลวปัจจัย ส่งเสริมดลบันดาล อภิบาลคุ้มครองปกป้องรักษา ให้ทุกท่านในที่นี้จงปราศจากเสียซึ่งสรรพทุกข์สรรพโศก สรรพโรค สรรพภัย สรรพเคราะห์เสนียดจัญไรใด ๆ อย่าได้มาแผ้วพาน ให้มีความสุขให้มีความเจริญ ทั้งด้านกิจการงานที่ทำอยู่ ตราบชั่วกาลเทอญ