คนเรามีหน้าที่ติดตัวกันมาทุกคน

วันที่ 14 มิย. พ.ศ.2567

670614_b11-1.jpg

 

คนเรามีหน้าที่ติดตัวกันมาทุกคน
โอวาท พระเดชพระคุณพระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อทัตตชีโว)

 

          คนเราเมื่อเกิดมาก็มีหน้าที่ติดตัวกันมาทุกคน จะหลีกเลี่ยงไม่ได้และหน้าที่นั้นมีทั้งหน้าที่ตามธรรมชาติ และหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเป็นทางการ เช่นทันทีที่เกิดมาลืมตาดูโลก เราก็มีหน้าที่ติดตัวมาว่าจะต้องเป็นลูกที่ดีของคุณพ่อคุณแม่ เป็นน้องที่ดีของพี่ๆ ต้องเป็นหลานที่ดีของปู่ย่าตายายลุงป้าน้าอา พอไปโรงเรียนก็มีหน้าที่เป็นศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์ พอบรรลุนิติภาวะก็มีหน้าที่เป็นประชาชนที่ดีของประเทศชาติ ต้องเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม ถ้าแต่งงานไปก็มีหน้าที่เป็นสามีภรรยาที่ดีตามมาอีก เหล่านี้เป็นหน้าที่ตามธรรมชาติที่เห็นได้ง่าย

          ยังมีหน้าที่ตามธรรมชาติอีกอย่างที่หนึ่งที่มักมองข้าม คือหน้าที่ที่จะต้องเป็น พุทธบริษัทที่ดี ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน ๔ ประการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ ๑.เป็นภิกษุ ๒.เป็นภิกษุณี ๓.เป็นอุบาสก ๔ เป็นอุบาสิกา แต่ว่าส่วนมากจะนิยมเป็นอุบาสกอุบาสิกาที่ดีแทนเป็นพระภิกษุ ภิกษุณีที่ดี เพราะเหตุนี้นี่เอง จึงมีตัวเลขเกี่ยวกับวัดที่น่าสนใจ คือวัดในประเทศไทยมีประมาณสามหมื่นวัด เป็นวัดร้างที่หาพระไม่ได้เกือบหมื่นวัด ทั้งๆ ที่ประเทศไทยซึ่งชาวโลกถือว่าเป็นประเทศที่พระพุทธศาสนามั่นคงที่สุด ก็ยังมีปัญหาวัดร้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีผู้มาบวชน้อยลงทุกวัน จนกระทั่งบางแห่งต้องอาศัยสามเณรมาช่วยเป็นเจ้าอาวาสให้แล้ว จึงเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก

 

เพราะฉะนั้นการที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเข้ามาบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ชนิดยอมตายถวายชีวิตให้นั้น อย่าว่าเป็นจำนวนมากเลยแม้เพียงคนเดียวก็ทรงคุณค่ามหาศาลกับพระพุทธศาสนาอย่างยิ่งแล้ว

       

        เมื่อครั้งหลวงพ่อและหมู่คณะเริ่มสร้างวัดพระธรรมกาย เราก็มีการพิจารณาว่า ปู่ย่าตาทวดรักษาแผ่นดินไทยมาให้เรา รักษาเอกราชมาให้เราก็ถือว่าท่านมีพระคุณอันยิ่งใหญ่ที่ได้รักษามรดกไทยเอาไว้ให้ แต่ในเวลาเดียวกัน ท่านยังมอบมรดกโลก คือมอบพระพุทธศาสนาไว้ให้เราอีกด้วยรักษาพระพุทธศาสนาอย่างดี จนกระทั่งส่งมอบมาถึงเรา ถามว่าระหว่างมรดกของชาติและมรดกของโลก อย่างไหนจะทรงคุณค่ากว่ากัน ก็ต้องบอกว่ามรดกโลกคือ พระพุทธศาสนาทรงคุณค่ากว่าอย่างเทียบกันไม่ได้

     

         แม้เราก็เปรียบเทียบกันอย่างนี้ว่า เมื่อเราเรียนชั้นประถม ห้องเรามีเพื่อนร่วมห้องประมาณ ๓๐ คน เมื่อจบชั้นประถม แล้วไปต่อชั้นมัธยมอย่างดีก็จบชั้นมัธยมมาแค่ ๑๕ คน ไปต่อชั้นเตรียมอุดมฯอย่างมากก็จบออกมา ๘ คน ซึ่งจะจบมหาวิทยาลัยเพียงแค่ ๓-๔ คน บางที ๑-๒ คนเท่านั้น จะเห็นได้ว่าจากโรงเรียนจนจบมหาวิทยาลัย ๓-๔ คนนี้ ศาสนาไม่เคยได้ใช้หรอก ถ้าไม่รับราชการก็ทำงานเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจ ที่จะมาบวชอุทิศตัวให้พระศาสนา มันยากแสนเข็ญ พูดง่ายๆ หัวกระทิถูกทางโลกคว้าตัวไปหมด เพื่อรักษามรดกของชาติไว้ แต่มรดกของโลกคือพระพุทธศาสนาหาคนเข้ามารักษายาก ใครมาบวชก็มักจะถูกมองว่าเป็นคนสิ้นไร้ไม้ตอก แล้วจึงมาบวช เพราะฉะนั้นความรู้สึกของประชาชนจะมองว่าคนที่มาบวช คือคนที่ถูกตัดทิ้ง นี่เป็นความรู้สึกของประชาชนขณะนั้น

 

         เมื่อเป็นเช่นนี้ หมู่คณะรุ่นบุกเบิกสร้างวัดพระธรรมกาย โดยมีหลวงพ่อธัมมชโย มีคุณยายเป็นผู้นำ จึงปรึกษากันแล้วเห็นว่า เราควรมาช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนาอันเป็นมรดกโลกเอาไว้ ก็เลยตัดสินใจออกบวชกันทั้งชุดแล้วก็มาบุกเบิกสร้างวัดพระธรรมกาย เพื่อเป็นสถานที่ที่จะฝึกฝนอบรมตนและสร้างบุคลากรที่จะรักษาพระพุทธศาสนา ให้ยืนยงเป็นมรดกของโลกต่อไป
 

**บทความ แนะนำ/เกี่ยวข้อง

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.02882213195165 Mins