พระพุทธศาสนากับพระมหากษัตริย์
ทุกยุคทุกสมัยในประวัติศาสตร์ชาติไทย พระมหากษัตริย์องค์พระประมุขของชาติทรงเป็นพุทธมามกะ ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก เป็นองค์ประธานในการผดุงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ อันเกี่ยวเนื่องด้วยกิจกรรมในพระพุทธศาสนาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระปฐมกษัตริย์แห่งราชจักรีวงศ์ทรงแสดงพระราชปณิธานไว้ว่า
“ตั้งใจจะอุปถัมภก ขอยกพระพุทธศาสนา จะป้องกันขอบขัณฑสีมา รักษาประชาชนแลมนตรี”
เมื่อวันศุกร์ที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ทรงมีพระบรมราชโองการประกาศปฏิญาณพระองค์ว่า
“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
นับจากวาระที่ทรงเสด็จขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติจนถึงบัดนี้ ประชาชนชาวไทยได้ตระหนักอย่างแจ้งชัดแล้วว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงนำหลักธรรมในพระพุทธศาสนามาใช้ทั้งในพระราชกรณียกิจส่วนพระองค์และในพระบรมราโชบายเกี่ยวกับการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของอาณาประชาราษฎร์ ๑ พระราชนิพนธ์ นิราศท่าดินแดง
เครื่องน้อมนำความสุขและความมั่นคงของประเทศชาติ
จึงเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า พระพุทธศาสนา เป็นเครื่องน้อมนำความสุข และสร้างหนทางแห่งความเจริญก้าวหน้านานัปการแก่ประเทศชาติบ้านเมืองของเรา
พระพุทธศาสนาสอนให้เรามีเหตุผล มีความคิดเห็นถูกต้องเกี่ยวกับชีวิต รู้จักควบคุมตนเองมีความรับผิดชอบซื่อตรง รู้จักพอ รู้จักเสียสละ ไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ ให้ยึดคุณธรรมความดีของบุคคลเป็นหลัก ชีวิตของคนไทยจึงดำเนินไปอย่างเรียบง่าย รักความเป็นอิสระเสรี ไม่ชอบอยู่ในอาณัติของใคร และไม่รุกรานใครด้วย ประชาชนชาวไทยจึงปราศจากการแตกร้าวและการต่อสู้แก่งแย่งกันอย่างดุเดือดรุนแรงเยี่ยงประเทศอื่น ๆ ทั้งหลาย
ด้วยคุณธรรมอันประเสริฐที่ชนชาติไทยได้รับถ่ายทอดมาจากพระพุทธศาสนานี้เอง ได้ดลบันดาลให้ประเทศชาติของเราแคล้วคลาดจากภยันตรายร้ายแรงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติหรือภัยจากเหตุการณ์ที่คุกคามอธิปไตยของชาติเราจึงสามารถดำรงความเป็นเอกราชอยู่ได้ตลอดมาเป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่งแก่ชาวโลกทั้งหลายจึงเป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคนที่จะต้องร่วมแรงร่วมใจกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองเป็นปิ่นศาสนาสืบไป
ยึดมั่นในพระรัตนตรัย
ในการทำนุบำรุงพระศาสนา สิ่งที่จำเป็นและเร่งด่วนที่สุดคือ ต้องเร่งรีบปลูกฝังและส่งเสริมให้ประชาชนตลอดจนเยาวชนของชาติทุกคน เห็นคุณค่าและศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างเปี่ยมล้นเสียก่อน โดยทุกวิถีทาง
นับแต่สมัยพุทธกาล มีพิธีการสำคัญยิ่งประการหนึ่ง สำหรับน้อมน่าชนทุกชั้นให้มีจิตใจยึดมั่นในพระรัตนตรัย และให้รู้สึกซาบซึ้งในคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นั่นคือ พิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ
การประกอบพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ คือ การแสดงตนต่อหน้าพระรัตนตรัยด้วยความอาจหาญร่าเริงเต็มใจ และมั่นใจ เพื่อประกาศให้ชาวโลกและทวยเทพยดาทั้งหลายได้รับทราบ และร่วมอนุโมทนาด้วยความปลาบปลื้มว่า บัดนี้ ตนได้ยอมรับนับถือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างมั่นคง แน่นอน ไม่แปรปรวน ได้ยอมรับนับถือพระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ไว้เป็นประทีปประจำใจจะประพฤติปฏิบัติตาม
พระธรรมนั้นเต็มความสามารถและตั้งอยู่ในโอวาทของพระสงฆ์ ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบอย่างเคร่งครัดตลอดไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน