ประการที่ ๑ ขาดงบประมาณ ขาดอุปกรณ์

วันที่ 31 กค. พ.ศ.2567

 

2567_07_31_b.jpg

 

 

ประการที่ ๑ 

ขาดงบประมาณ ขาดอุปกรณ์



           กรณีที่ขาดงบประมาณก็ดี ขาดอุปกรณ์ก็ดี รวมจนกระทั้งขาดแคลนสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆภายในสำนักงาน ขอถามตรงนี้นิดหนึ่ง เอาเรื่องส่วนตัวก่อน

 

              เคยมีบ้างไหม เพียงแค่หนังสือสักเล่มหนึ่ง เราไปอ่านหนังสือดีๆมา มีความรู้สึกว่า แหม....หนังสือเล่มนี้ดีจริงๆ แล้วเรามีเพื่อนของเราที่สนิทๆกันอยู่ เราก็บอกว่า นี่แน่ะเธอ ฉันได้หนังสือเล่มนี้มาดีจริงๆเลย ช่วยเอาไปอ่านทีเถอะ เพื่อนก็ไม่ค่อยว่าง เราก็ยังพูดให้เขาไปอ่าน “เอาน่า ถึงไม่ว่างก็แบ่งเวลา ปลีกเวลาอ่านเถอะน่า ” เขาไม่มีเวลาเรายังคะยั้นคะยอให้เขาอ่าน


                แต่ในเวลาเดียวกัน เพื่อนอีกคนหนึ่งรู้ว่าเรามีหนังสือดีๆก็มาขอยืม แต่เราไม่ให้ซะอย่างนั้นแหละ เคยมีอาการอย่างนี้บ้างไหมล่ะ แม้กระทั่งแค่เครื่องพิมพ์ดีด ซึ่งไม่ใช่ของส่วนตัว ก็ใช้ร่วมกันอยู่นี่แหละ ข้างแผนกเขาเกิดติดขัดขึ้นมา มาขอยืมเครื่องพิมพ์ดีด ชักไม่อยากจะให้ปฏิเสธได้ปฏิเสธเลยถ้าปฏิเสธไม่ได้จนใจจริงๆก็ให้ไปอย่างเสียไม่ได้หรือแม้แต่ดื่มแม้แต่ค้อนแม้แต่ไขควงยังไม่อยากจะให้เลยโถ...ค้อนนะ ใช้แล้วมันจะสึกหรอสักแค่ไหนเชียว


              บางคนมาเอ่ยปากขอยืม รีบให้ เอาไปเลย หรือเขายังไม่ทันเอ่ยปาก พอรู้ว่าเขาขาด ไปคว้ามาให้เขาเลย แต่พออีกคนมาขอยืม รีบปฏิเสธ “ยังไม่ว่างเดี๋ยวจะใช้” โธ่เอ๊ย...สมบัติแค่ค้อน อย่าว่าแต่พวกเราเลย พระก็ยังเป็น เพราะท่านยังไม่หมดกิเลส ไม่น่าเชื่อ แต่ว่ามันเป็นนะ


               พระไตรปิฎกที่กราบอยู่ทุกวันนี่แหละ ก็อ่านก็ถนอม บางองค์มาขอยืมไม่ให้ หัวเด็ดตีนขาดพูดได้คำเดียวว่า “ไม่ให้” พระไตรปิฎกน่ะธรรมะเล่มสำคัญเชียวถ้าเราไปจับตรงแค่ปลายเหตุว่าแหม....ขนาดพระไตรปิฎกยังไม่ให้กันนี่คงต้องรื้อวัดแบ่งกันละมั้งหรือทำงานอยู่ที่เดียวกันเพียงแค่ค้อนแค่ไขควงยังไม่ให้ยืม แล้วจะอยู่กันยังไง คงต้องแบ่งบริษัทกันละมั้ง


                ถ้ามองออกไปข้างนอกตัวเราก็จะมีความรู้สึกอย่างว่า คนๆ นี้น่ะช่างไม่เข้าท่าเสียเลย แต่ว่ามันมีเหตุอยู่ ๒ อย่างคือ

 

              เหตุอย่างที่ ๑ ของมันขาดแคลนจริงๆ บางครั้งของใช้ในที่ทำงานขาดแคลน เพราะงบประมาณขาดแคลนจริงๆ ไม่รู้จะไปเอาที่ไหน



            เหตุอย่างที่ ๒ ของน่ะมันมีอยู่ แต่ว่าจะหยิบจะยืมอะไรกันไม่ได้ ค้อนก็เห็นวางอยู่โทนโท่ พิมพ์ดีดก็เห็นอยู่โทนโท่ แต่ว่าไม่สามารถเอามาใช้ได้

 


            ถามว่าของมีไหม “มี” แต่ในที่สุดก็กลายเป็นของขาดแคลนเพราะเอามาใช้ไม่ได้ เครื่องมือเครื่องใช้สำนักงานต่างๆเวลาที่ขาดแคลนขึ้นมาแล้วอย่ามองแต่เพียงว่ามันขาด แต่ขอให้มองว่าทำไมมันถึงขาดด้วย

 


               ในกรณีที่เกิดขึ้นอย่างนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านทรงสอนให้มองย้อนกลับเข้ามาหาตัวเองให้ดีถ้าของนั้นมีอยู่แต่ว่าเอามาใช้ไม่ได้ มันกลายเป็นขาดไป พิมพ์ดีดก็เห็นอยู่ หนังสือก็เห็นอยู่แต่ว่าเอามาใช้ไม่ได้ พระองค์ทรงสอนว่า อย่าเพิ่งมองไปที่คนอื่นให้มองมาที่ตนเองซิว่า นิสัยของเราดีแค่ไหน ถ้านิสัยของเราดีจริงของที่กองอยู่ตรงหน้าเรา น่าที่จะเอามาใช้ได้

 

             ทำไม..... แค่หนังสือที่เรามีอยู่ บางคนเราอยากให้ยืม แต่บางคนไม่อยากให้ยืม ก็จะให้ยืมทำไมล่ะ เอาหนังสือของเราไปแล้วถึงเวลาก็ไม่คืน ต้องตามไปทวง หรือว่าคืนเหมือนกัน แต่ไม่ตรงเวลา “ขอยืมเดี่ยว” อีกตั้ง ๓ วันถึงเอามาคืน เดี๋ยวชนิดนี้ใช้ไม่ได้บางคนยืมของไปใช้ไม่สมกับงาน บางคนยืมไปใช้ เหลียวซ้ายแลขวาหาไขควงไม่ได้ เอาปลายมีดแทนไขควง แล้วก็เอามีดเย็นๆ มาคืนเรา มันน่าให้ยืมไปใช้ไหมล่ะ


             จึงขอฝากพวกเราครั้งใดของใช้มีอยู่แต่ว่าไปหยิบยืมจากใครไม่ได้ขอให้ย้อนกลับมาดูนิสัยของเราเองว่าเป็นอย่างไรให้มาเทียบกับตัวเราเองก่อนเพราะว่าถ้าใครที่นิสัยไม่ดีมาขอยืมของเราเราก็ไม่อยากให้เพราะฉะนั้นครั้งไหนถ้าเราไปยืมของใครแล้วเขาไม่อยากให้ขอให้ดูที่นิสัยของเราก่อนมาตรวจดูตรงนี้ก่อนอย่าเพิ่งไปโกรธเขาเมื่อตรวจดูตัวเองแล้วพบว่านิสัยของเราก็ดีจะหยิบจะยืมของใครก็คืนตรงกำหนด ไม่ทำของเขาเสียหาย แล้วเวลาไปยืมทำไมถึงไม่ได้


           ก็พูดได้อย่างเดียวว่า คุณคนนั้น...ขี้เหนียวใจขาดเลย ถ้าอย่างนั้นไม่ใช่ความผิดของเราความผิดอยู่ที่เขาแต่คนส่วนมากเมื่อไปยืมของเขาแล้วเขาไม่ให้มักจะโยนความผิดไปให้คนอื่นอย่าเพิ่งนะถ้าไปโยนความผิดให้กันง่ายๆแล้วละก็คนทั้งโลกผิดหมดเห็นมีดีอยู่คนเดียวใคร? ตัวเอง อาตมาขอฝากไว้ตรงนี้ก่อน

 

           กรณีของมีใช้ แต่ว่าเอามาใช้ประโยชน์ไม่ได้ ให้ดูเรื่องนิสัยอย่างหนึ่ง เรื่องของความขี้หวงขี้ตระหนี่อย่างหนึ่งที่มีอยู่ในตัวบุคคล ความจริงยังมีเรื่องอื่นอีก นอกจากเรื่องนิสัย เรื่องความขี้หวง คือ อาจเป็นเพราะระเบียบจู้จี้รัดกุมจนเกินไป จนกระดิกอะไรไม่ได้ กรณีนี้ถ้าเราเป็นผู้น้อยแก้ยากหน่อย เป็นเรื่องต้องไปปรึกษาผู้บังคับบัญชากันแล้ว

 

23754.jpg

 

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.030437652269999 Mins