.....ข. สามี / ภรรยา ขาดความสำนึกรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ ก็เพราะไม่เห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมทั้งใกล้และไกลตัว ซึ่งจะเกิดเป็นลักษณะนิสัย และแสดงพฤติกรรมออกมาให้เห็นได้อย่างน้อย ๓ ประการคือ
๑) ไม่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากสามี / ภรรยาที่ขาดอริยวินัยย่อมมีปัญหาเกิดขึ้นในครอบครัวของตนมากมาย ลำพังแค่ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรสเอง ระหว่างคู่สมรสกับบุตรธิดาของตนก็เป็นปัญหาเรื้อรังที่บีบคั้นจิตใจอยู่แล้ว ถ้ามีปัญหาในที่ทำงานและปัญหาการทำมาหากินประดังเข้ามาอีก สามีหรือภรรยาในครอบครัวประเภทนี้ย่อมจะไม่มีอารมณ์ใส่ใจกับเรื่องสิ่งแวดล้อมนัก ย่อถ้ารุมเร้าด้วยปัญหาหนี้สินอีกด้วยแล้ว พวกเขาอาจจะไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมเลยก็ได้ แม้แต่สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว พวกเขาจึงจมอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่สกปรกรกรุงรัง
๒) คัดค้านต่อต้านการรณรงค์รักษาความสะอาดในชุมชน ตามธรรมดาคนเรามีความคิดอย่างไร ย่อมแสดงพฤติกรรมทางกายและวาจาออกมาตามความคิดเห็นของตน สามี/ภรรยา ที่ขาดอริยวินัยหรือที่ได้รับผลกระทบจากคู่สมรสที่ขาดอริยวินัยก็เช่นเดียวกัน
เนื่องจากคนประเภทนี้คุ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่สกปรกรกรุงรังนานๆ ไปก็จมองไม่เห็นโทษภัยของสภาพแวดล้อมที่ตนคุ้นเคย ถ้ามีใครมาเสนอความคิดปฏิรูป หรือมีผู้คนคิดทำโครงการรณรงค์รักษาความสะอาดสิ่งแวดล้อม หรือโครงการปฏิสังขรณ์สาธารณสุขในชุมชน คนประเภทนี้ก็จะไม่ให้ความร่วมมือ ยิ่งถ้ามีการประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้คนในชุมชนให้บริจาคทรัพย์ เพื่อนำไปใช้ในโครงการเหล่านั้นด้วยแล้ว คนประเภทนี้นอกจากจะไม่ยอมบริจาคแล้ว ยังจะออกมาแสดงโวหารต่อต้านคัดค้านโจมตีคณะผู้คิดทำโครงการด้วยความหวังดีให้เกิดความเสียหายอีกด้วย คือ แสดงพฤติกรรมทำนอง “ มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ” นั่นเอง
๓) ทำลายสิ่งแวดล้อม พฤติกรรมทางกายของคนประเภทนี้ก็คือการปล่อยปละละเลยเคหสถานบ้านเรือนของตนให้สกปรกรกรุงรังเก่าคร่ำคร่า ไม่ซ่อมแซมส่วนที่ผุพัง ไม่ทำความสะอาดส่วนที่เลอะเทอะ บางบ้านยังมีการต่อเติมอย่างผิดเทศบัญญัติ จนเกิดความแออัดขึ้นในชุมชน ครั้นเมื่อเกิดเพลิงไหม้ รถดับเพลิงก็เข้าไปไม่ถึง หรือเข้าไปได้ด้วยความยากลำบาก สภาพเหล่านี้ถือว่าเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น
ภายในบริเวณบ้านบางแห่ง ก็ปล่อยให้มีแหล่งน้ำครำเน่าเหม็น มีเศษอาหาร ขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลจากสัตว์ หรือสัตว์เลี้ยงเกลื่อนกลาด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นแหล่งแพร่พันธุ์ของสัตว์ที่เป็นพาหนะนำโรค เช่น ยุง แมลงวัน แมลงสาบและหนู ฯลฯ ครั้นเมื่อถูกสัตว์อันตรายเหล่านี้รบกวน พวกเขาก็จะใช้วิธีปราบโดยการฉีดสารพิษฆ่าแมลง การปราบโดยวิธีนี้ นอกจากจะก่ออันตรายให้แก่ผู้คนในบ้านโดยตรงแล้ว ยังเป็นการสร้างมลภาวะในอากาศอีกด้วย
อนึ่ง เมื่อไปตามที่สาธารณะ ผู้คนจากครอบครัวเหล่านี้ก็จะทิ้งขยะเกลื่อนกลาด ดังจะเห็นได้จากตามสะพานลอยคนเดินข้ามถนน ตามทางเท้าทั่วไป และแม้ตามริมถนนทุกสาย ทั้งในเมืองและนอกเมือง ซ้ำร้ายกว่านั้น ยังมีคนยืนปัสสาวะข้างถนนในเขตเทศบาลในเวลากลางวันแสกๆ นอกจากนี้ตามถนนในซอยต่างๆ เป็นจำนวนมาก จะมีมุมอับที่มีกลิ่นปัสสาวะคลุ่งชั่วนาตาปี เหล่านี้ล้วนเป็นพฤติกรรมทำลายสิ่งแวดล้อมของคนที่ขาดอริยวินัยทั้งสิ้น
สรุปปัญหาในทิศเบื้องหลัง
ปัญหาในทิศเบื้องหลังนี้อาจแบ่งออกได้เป็น ๒ ประเภท คือ
๑. ปัญหาที่สังคมเห็นชัดเจนคือปัญหาครอบครัวแตกแยก ซึ่งเป็นเหตุสำคัญประการหนึ่งของปัญหาเยาวชน ตลอดถึงปัญหาเศรษฐกิจของชาติ
๒. ปัญหาที่สังคมเห็นไม่ชัดคือปัญหาสามีและภรรยา เพราะทั้ง ๒ ฝ่ายขาดความรู้ความเข้าใจในการครองเรือน ไม่มีการเตรียมพร้อมสำหรับการทำหน้าที่พ่อบ้านแม่เรือน ตลอดจนหน้าที่พ่อแม่ที่ดีมาก่อน แต่ละคู่ต่างงานกันด้วยจุดประสงค์ที่จะหาความเอร็ดอร่อยในเรื่องเพศเป็นสำคัญ เมื่อแต่งงานกันแล้วจึงมีปัญหาตามมามากมาย
ได้ทราบว่า ในปัจจุบันมีหลักสูตรเรื่องเพศศึกษาสอนกันอยู่ในโรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่างๆ ขอถามว่ากำลังสอนเรื่องอะไรกันบ้าง? เรื่องที่น่าจะสอนอย่างยิ่งคือ การเตรียมพร้อมที่จะเป็นสามีหรือภรรยาที่ดี การเตรียมพร้อมที่จะเป็นพ่อแม่ที่ดี มีกำหนดไว้ในหลักสูตรหรือไม่?
น่าประหลาดใจว่า ในสมัยก่อนไม่มีการสอนเรื่องเพศศึกษาในสถานการศึกษากัน แต่ก็ไม่ปรากฏว่า ผู้คนในสังคมมีพฤติกรรมสำส่อนทางเพศ ถึงกับเป็นโรคเอดส์ที่รักษาไม่หายดังเช่นในปัจจุบันนี้ จึงต้องถามว่า การสอนเรื่องเพศศึกษาใสสถาบันการศึกษาประสบความล้มเหลวใช่หรือไม่? และจะปรับปรุงแก้ไขอย่างไร?