.....๔. มหาวิบัติของสังคมจากทิศเบื้องซ้าย
๑.เพื่อนขาดความสำนึกรับผิดชอบต่อศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ของตนเอง
ถ้าเพื่อนขาดอริยวินัย ไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ตามที่พระพุทธองค์ทรงกำหนดไว้เป็นอย่างน้อยนั้น ผลเสียที่จะเกิดขึ้นประการแรก คือ เพื่อนจะไม่มีความสำนึกรับผิดชอบต่อศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ของตนเอง เพราะประพฤติกรรมกิเลส ๔ ซึ่งจะเกิดเป็นลักษณะนิสัยและแสดงพฤติกรรมออกมาให้เห็น อย่างน้อย ๓ ประการ คือ
๑) เป็นมิจฉาทิฏฐิรุนแรง คนเราในวัยเด็กควรได้รับการปลูกฝังสัมมาทิฏฐิจากทิศเบื้องหน้า แต่ถ้าทิศเบื้องหน้าขาดอริยวินัย ไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ ผู้เป็นลูกย่อมไม่ได้รับภูมิคุ้มกันด้านจิตใจ คือ สัมมาทิฏฐิ และหิริโอตตัปปะ จิตใจย่อมอ่อนแอ ไม่สามารถต่อต้านเชื้อโรคคือกิเลสได้ ความคิดมิจฉาทิฏฐิจึงก่อตัวขึ้น
ถึงแม้จะพลาดจากทิศเบื้องหน้าแล้ว ก็ยังพอจะมีความหวังจากทิศเบื้องขวาอีกเมื่อไปโรงเรียน แต่ถ้าทิศเบื้องขวาขาดอริยวินัย ไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ เด็กๆ เหล่านี้ก็หมดหวังที่จะได้รับการปลูกฝังสัมมาทิฏฐิ จิตใจที่อ่อนแออยู่แล้วก็จะไม่มีทางพัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้นมาได้เลย พูดง่ายๆ ก็คือจะเป็นเด็กที่มีปัญหาทั้งด้านการเรียนและความประพฤติ อาจจะมีอยู่บ้างที่เด็กบางคนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดี แต่เพราะเหตุที่ขาดหิริโอตตัปปะ ขาดสัมมาทิฏฐิ เขาก็อาจจะนำความรู้ไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องทำนองคลองธรรม ดังนั้นเด็กมิจฉาทิฏฐิ ถึงจะเรียนดีก็ยังเป็นเด็กที่มีปัญหาอยู่นั่นเอง
ครั้นเมื่อเติบโตเป็นวัยรุ่น เด็กวันนี้ก็จะมีความคิดคล้อยตามเพื่อนฝูงมากกว่าพ่อแม่และครูอาจารย์ อาจจะเกรงใจพ่อแม่อยู่บ้างก็เพราะยังต้องขอเงินพ่อแม่ใช้ หรืออาจจะเกรงใจครูอาจารย์อยู่บ้างก็เพราะกลัวสอบตก อย่างไรก็ตามเด็กวัยนี้ก็จะจับกลุ่มกันตามลักษณะนิสัยความสนใจและความเชื่อ ซึ่งแน่นอนว่าเด็กที่มีปัญหา ก็ย่อมจะคบหาสมาคมกับเพื่อที่มีลักษณะนิสัยคล้ายคลึงกัน ยากที่จะได้เพื่อนดีๆ หรือมิตรแท้ ครั้นเมื่อคบกันไปนานๆ ต่างก็ถ่ายทอดลักษณะมิตรเทียมให้แก่กันมากขึ้นๆ กลายเป็นนิสัยติดตัวไปจนกระทั่งเป็นผู้ใหญ่ พร้อมที่จะแพร่เชื่อมิตรเทียมให้แก่คนรอบข้าง นับตั้งแต่เพื่อนร่วมงาน ญาติพี่น้อง ผู้ใต้บังคับบัญชา ภรรยา/สามี ลูกจ้าง และบุตรธิดา
ครั้นเมื่อเข้าสู่วงการอาชีพ ย่อมได้มีโอกาสคบหาสมาคมกับเพื่อนใหม่ ซึ่งแต่ละคนย่อมมีลักษณะนิสัยและพฤติกรรมแตกต่างกันไป บางคนอาจเป็นมิตรเทียม
บุคคลที่มีนิสัยลักษณะมิตรเทียมติดตัวมา เมื่อได้พบเพื่อนใหม่ที่เป็นมิตรแท้ และเพื่อนคนนั้นก็ทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตรให้เขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เขาก็อาจปรับเปลี่ยนนิสัยและพฤติกรรมเป็นมิตรแท้ตามกัลยาณมิตรผู้นั้นไปด้วยได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น ชีวิตของเขาก็มีหวังที่จะเอาดี ในทำนองเดียวกับโจรกับใจ ที่พยายามล้างมลทินของตนเอง
แต่ถ้าเขาไม่มีโอกาสได้พบมิตรแท้ พบแต่มิตรเทียมยิ่งคบหากันไปนานๆ ต่างฝ่ายต่างก็แพร่เชื้ออันธพาลให้กันและกัน ความคิดมิจฉาทิฏฐิของเขาก็จะกำเริบรุนแรงยิ่งขึ้นจนกระทั่งบังอาจก่อกรรมชั่วต่างๆ ได้ โดยไม่ยำเกรงกฎหมายและบาปกรรมมีลักษณะนิสัยและพฤติกรรมทุศีลอยู่เป็นนิจ
๒) มีวจีทุจริต บุคคลที่ขาดหิริโอตตัปปะ เป็นมิจฉาทิฏฐิรุนแรงเมื่อจะพูดคุยกับใคร ย่อมไม่คำนึงถึงความสัตย์จริง แต่จะคำนึงถึงประโยชน์ของตนเป็นสำคัญ เขาจึงหาวิธีพูดเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ต่างๆ ตามที่เขาต้องการ ดังนั้นคำพูดของเขาจึงพราวไปด้วยการเล่นลิ้นพลิกแพลงอยู่เสมอ เข้าลักษณะปั้นน้ำเป็นตัว หักหน้า ยุแยงตะแคงรั่ว ปากปราศรัยใจเชือดคอ ปากว่าตาขยิบ หรือปากเหม็น คือชอบพูดให้ร้ายคนอื่น เป็นต้น นี่คือบางส่วนแห่งพฤติกรรมของคนทุศีล