การท่องเทวโลก
มหาทุคตะซึ่งต่อมาเป็นมหาเศรษฐีผู้ไม่ประมาท ได้สั่งสมบุญถูกทักขิไณยบุคคล มีความปลื้มและความเลื่อมใส ทุกอย่างครบถ้วนบริบูรณ์ตลอดอายุขัยในยุคที่มนุษย์มีอายุ ๒๐,๐๐๐ ปี เมื่อละโลกไปจึงสามารถท่องเที่ยวในเทวโลกได้ ซึ่งการท่องเที่ยวในเทวโลกไม่ใช่เรื่องง่าย คือ ท่องไปท่องมาตั้งแต่สวรรค์ชั้นที่ ๑, ๒, ๓, ๔, ๕, ๖ แล้วก็ย้อนกลับมาที่ชั้น ๖, ๕, ๔, ๒, ๒, ๑ เป็นเช่นนี้ไปเรื่อย
การท่องเทวโลกตลอด ๑ พุทธันดรนั้น ไม่ได้มีระบุเอาไว้อย่างชัดเจนแต่พอจะอธิบายเพิ่มเติมได้อย่างนี้ว่า เริ่มตั้งแต่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ๕๐๐ ปีทิพย์ หรือ ๙ ล้านปี ในเมืองมนุษย์ พอหมดแล้ว ก็ขึ้นไปเกิดในชั้นดาวดึงส์ ๑,๐๐๐ ปีทิพย์ พอหมด ๑,๐๐๐ ปีทิพย์ก็จุติ แล้วไปเกิดชั้นยามาอีก ๒,๐๐๐ ปีทิพย์ พอหมดกำลังบุญชั้นยามา ๒,๐๐๐ ปีทิพย์ ก็ขึ้นไปชั้นดุสิต ๔,๐๐๐ ปีทิพย์ พอหมดกำลังบุญชั้นดุสิต ก็จุติไปเกิดชั้นนิมมานรดี ๘,๐๐๐ ปีทิพย์ พอหมดกำลังบุญของสวรรค์ชั้นที่ ๕ คือ นิมมานรดี ก็ไปเกิดชั้นปรนิมมิตวสวัตดีอีก ๑๖,๐๐๐ ปีทิพย์ ซึ่งยาวนานมาก
หรืออาจจะเกิดอย่างนี้ เช่น สมมติว่า ไปอยู่ชั้นดาวดึงส์แล้วชอบใจผูกพัน พอหมดอายุขัยของดาวดึงส์ ๑,๐๐๐ ปีทิพย์ ใจก็ผูกพันอยากจะอยู่ชั้นดาวดึงส์อีก พอดับวูบ ก็เกิดใหม่ในชั้นดาวดึงส์อีก อย่างนี้ก็มี เพราะฉะนั้นบุญจึงต้องมีมากมาย มากพอที่จะท่องเที่ยวไปเกิดในสวรรค์ทุกชั้นได้
การจะไปเกิดบนสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้นอย่างนี้ได้ ยังมีทางลัดอีกวิธีหนึ่ง คือ การปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย ถ้าเข้าถึงพระธรรมกายได้ แล้วก็ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ถ้าทำได้อย่างนี้จนกระทั่งหมดอายุขัย ก็เลือกเอาได้เลยว่า จะไปเกิดในภพภูมิใดก็ได้
เป็นธรรมดาของผู้มีบุญเมื่อสั่งสมบารมีมากเข้าจะเห็นว่า การเกิดเป็นมนุษย์น่าเบื่อหน่าย จึงหมั่นให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนาจนเข้าถึงพระธรรมกายได้ และสั่งสมบุญไปจนกระทั่งหมดอายุขัย กายวาจาใจ สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส อย่างนี้ก็ท่องเทวโลกได้เลย ไม่ต้องมาเกิดในเมืองมนุษย์ก็ได้ เมื่อถึงขีดถึงคราวที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งมาตรัสรู้ อาจจะบรรลุธรรมบนสวรรค์ก็ได้หรือลงมาเกิดในเมืองมนุษย์ก็ได้แล้วแต่ใจปรารถนาอย่างไร ถ้ามีบุญมากก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น เพราะบุญเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
สำหรับท่านเศรษฐีใหม่ เมื่อสั่งสมบารมีมากทั้งครอบครัว ก็ไปเริ่มต้นเกิดที่ชั้นดาวดึงส์ ในวิมานทองแก้วสุกใสสว่าง ต่างทยอยกันขึ้นไปพ่อ แม่ ลูก เดิมก็อยู่กันคนละวิมาน แต่พอเจอกันระลึกชาติหนหลังได้ก็มีความผูกพันอยากจะอยู่ร่วมกัน จากนั้นก็อธิษฐานจิตรวมเป็นวิมานเดียวกัน วิมานก็ใหญ่กว่าเดิมขึ้นไปอีก แล้วก็อยู่ด้วยกันอย่างนั้นเลย
พอหมดอายุสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ๓๖ ล้านปีมนุษย์ หรือ ๑,๐๐๐ ปีทิพย์ จิตก็ดับวูบไปบังเกิดขึ้นใหม่ในชั้นยามา วิมานบนชั้นดาวดึงส์ก็จะหายไปบังเกิดใหม่บนชั้นยามา มีอายุ ๒,๐๐๐ ปีทิพย์ ซึ่งเท่ากับ ๑๔๔ ล้านปีมนุษย์ พอจุติจากชั้นนั้น ก็เกิดใหม่อีกบนชั้นดุสิตวิมานบนชั้นยามาก็หายไปบังเกิดขึ้นใหม่บนชั้นดุสิต มีอายุ ๔,๐๐๐ ปีทิพย์ เท่ากับ ๕๗๖ ล้านปีมนุษย์
พอหมดกำลังบุญในชั้นนั้น แต่กำลังบุญยังเหลืออีกมาก ก็จุติไปเกิดบนชั้นนิมมานรดี อายุ ๘,๐๐๐ ปีทิพย์ เท่ากับ ๒,๓๐๔ ล้านปีมนุษย์ จุติจากชั้นนิมมานรดี วิมานก็หายไปบังเกิดบนชั้นปรนิมมิตวสวัตดี อายุ ๑๖,๐๐๐ ปีทิพย์ เท่ากับ ๙,๒๑๖ ล้านปีมนุษย์
เมื่ออยู่บนสวรรค์ชั้นนิมมานรดี อยากได้อะไรก็นึกเอา ทุกอย่างสำเร็จด้วยกำลังบุญ ส่วนชั้นปรนิมมิตวสวัตดี เมื่ออยากได้อะไรก็จะมีบริวารคอยช่วยจัดการให้ มีความเป็นอยู่อย่างสุขสบายตราบนานเท่านานมหาทุคตะท่องสวรรค์กลับไปกลับมาเช่นนี้จนกระทั่งถึงเวลาต้องลงมาเกิดเป็นชาติสุดท้าย จึงจุติลงมาในโลกมนุษย์อีกครั้ง