หน้าที่เดียวกัน
Lifeguard แปลว่า เจ้าหน้าที่ช่วยชีวิต / ผู้คอยช่วยชีวิต จากผู้ประสบภัย ตามชายหาด ที่มีหาดทรายสวยงาม มีแสงระยิบระยับยามต้องแสงจากดวงอาทิตย์ คลอเคล้าด้วยเสียงดนตรี บรรเลงเบา จากเสียงลมผสมผสานกับเสียงจากเกลียวคลื่นที่กระทบฝั่งลูกแล้วลูกเล่า ดูแล้วสบายกายสบายใจ เพลินเพลินยิ่งนัก
ไม่น่าจะมีภัยหรืออันตรายใดๆ บังเกิดขึ้น แต่ ก็ต้อง Lifeguard ฉันใด
ชีวิตในโลกมนุษย์ ก็เช่นเดียวกัน ดูแล้วสวยสดงดงามไม่น่าจะมีภัยอันตรายใดๆแอบแฝง หากมนุษย์ไม่มีวิบากกรรมเก่าในอดีตที่ติดตามเหมือนเงาตามตัว รอคอยส่งผลเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมหรือจากดำเนินชีวิตด้วยความประมาทในปัจจุบันที่มัวเมาด้วย กิเลส ตัณหา ราคะ ความโกรธ ความโลภ ความหลง
ซึ่งเป็นบ่อเกิด ทำให้เกิดภัยในชีวิตตั้งแต่ทุกข์น้อยไปถึงทุกข์มาก ทำให้ชีวิตเวียนวน วนเวียนกับกองทุกข์จนหาทางพ้นทุกข์ หาความสุขไม่เจอ
โลกนี้จึงต้องมีพระภิกษุสงฆ์ ทำหน้าที่ Lifeguard เป็นเจ้าหน้าที่ช่วยชีวิต / คอยช่วยชีวิต เป็นแสงสว่างบอกทางพ้นทุกข์ ให้หลุดพ้น เปลี่ยนทุกข์มากเป็นทุกข์น้อย ทุกข์น้อยจนหมดทุกข์ ด้วยธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงรู้แจ้งเห็นจริง เห็นสัจธรรม
ดังนั้น เห็นพระภิกษุสงฆ์ ครั้งใด ให้รู้ไว้ว่า ท่านกำลังทำหน้า Lifeguard ให้เรา แม้ไม่ได้สนทนาธรรม แต่ก็ขอให้อุ่นใจ นี่คือสัญลักษณ์ของผู้ช่วยชีวิตให้หลุดพ้น เหมือนเจ้าชายสิทธัตถะ เห็น เทวทูต 4 (คนแก่ คนเจ็บ คนตาย สมณะคือพระ นักบวช) จนนำตนเองออกจากวัฏสงสาร หลุดพ้นจากกองทุกข์พบสุขที่แท้จริง ไม่ต้องกลับทุกข์อีก ฉันนั้น.
สวัสดี/เจริญพร
มนวีโร ภิกฺขุ
21 มีนาคม พุทธศักราช 2568
ณ อุทยานแห่งชาติเกาะลันตา จังหวัดกระบี่
#ธรรมะริมทางไปที่สุดแห่งธรรม