สุรา...เป็นสารเสพติดประเภทหนึ่ง ตัวอย่าง ผู้ป่วยชายวัย 40 ปี มารับการรักษาด้วยโรคติดสุรา เริ่มแรกตอนที่เขาย่างเข้าวัยรุ่น พ่อแม่ของเขาเริ่มกิจการร้านอาหาร ที่ขายสุราร่วมด้วย เขาเริ่มลองดื่มสุราเป็นครั้งแรก เนื่องจากความอยากรู้ อยากลอง และเอาเยี่ยงอย่างพ่อแม่ที่ดื่มสุราเป็นประจำ เพราะสามารถหยิบคว้ามาดื่มได้อย่างสะดวกง่ายดาย อีกทั้งลูกค้าที่มาดื่มสุราชอบพูดชักชวนให้ดื่มสุราร่วมด้วย ผู้คนที่ดื่มสุราเป็นภาพปกติที่พบเห็นทุกวัน ผู้ป่วยและน้องชายต่างก็ดื่มสุราด้วย เส้นทางที่วางไว้ เขาไม่ได้ดื่มสุรามากในช่วงแรก เพียงแค่ทดลอง และดื่มสุราเรื่อยมา พ่อแม่รู้เอาก็ตักเตือน แต่ไม่ได้ผล เพราะเขาเห็นว่าพ่อแม่ก็ดื่มสุราเช่นเดียวกัน และตัวเขาเองก็โตพอที่จะดื่มสุราได้เหมือนกันทุกคนดื่ม ค่านิยมของคนรอบตัวเขาถือว่า การดื่มสุราเป็นที่ยอมรับได้และยังจำเป็นในการเข้าสังคมบ้าง ก็ยังว่าแสดงความเป็นชายชาตรี วันหนึ่งการดื่มสุราเริ่มแสดงฤทธิ์กับเขา ขณะที่เขาขี่จักรยานยนต์ไปเที่ยวกับน้องชายด้วยฤทธิ์สุรา ทำให้สมาธิการขับไม่ดีนัก ทำให้เกิดอุบัติเหตุ มีผลให้น้องชายอันเป็นที่รักของเขาเสียชีวิตไป เขากลัดกลุ้มกับความรู้สึกผิดของตนเองตลอดเวลา เขาไม่อาจทนต่อความทุกข์ที่เกิดจากการกระทำของเขา แต่เขากลับเลือกวิธีเดิมที่จะหนีความทุกข์ใจ ด้วยการดื่มสุราให้เมาจนลืมและหายกลุ้มใจ เขาดื่มสุราหนักตลอดเป็นเวลายี่สิบกว่าปี กว่าจะรู้ตัวเขาก็พบว่า สุรามีผลกระทบต่อครอบครัว การงาน สังคม รวมทั้งสุขภาพร่างกาย จิตใจ จนเขาแทบเอาตัวไม่รอด เขาทะเลาะกับภรรยาทุกวี่ทุกวัน เพราะเขามัวแต่ดื่มสุราตลอดจนไม่มีเวลาให้ครอบครัว เงินเดือนทั้งหมดใช้จ่ายไปกับการซื้อสุรา อีกทั้งหนี้สินที่หยิบยืมจากเพื่อนฝูง เพื่อซื้อสุรา การเสพสุราทำให้เขาทำงานไม่ได้ดี เมาในเวลาทำงาน และพูดเล่นจนไม่มีใครเชื่อถือ ในที่สุด เขาเกิดอาการทางประสาทขึ้นมา เนื่องจากโรคติดสุราทำให้เขาอ่อนเพลียนอนซม จนไม่สามารถซื้อสุราตามเคย การหยุดสุรากะทันหัน มีผลให้ระบบประสาทปรับตัวไม่ทัน เกิดอาการแปรปรวนของความคิด อารมณ์ การรับรู้และพฤติกรรม เขามองเห็นภาพหลอนต่าง ๆ นานา และมีอาการหวาดกลัวคนทำร้าย หลังจากที่ผู้ป่วยรายนี้ได้รับการรักษา และฟื้นฟูสภาพร่างกาย เขาเห็นเพื่อนผู้ป่วยบางราย มีสภาพเช่นเดียวกับตน บางรายมีอาการหนักกว่าตน และบางรายถึงขั้นสมองพิการ หรือตับอักเสบเรื้อรัง จนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เขาเกิดแรงบันดาลใจว่าถ้าเขายังดันทุรังดื่มสุราต่อไป ก็ไม่พ้นสภาพอย่างผู้ป่วยอื่นๆภรรยาและบุตร ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ในการช่วยเหลือ และให้กำลังใจผู้ป่วยในการเลิกเสพสุรา เป็นอย่างดี ทุกวันนี้ เขาไม่ต้องทะเลาะกับภรรยาทุกวันเหมือนที่เคยเป็น เขาไม่ต้องเป็นหนี้สิ้นจากการซื้อสุรา เงินที่เหลือสามารถนำมาผ่อนซื้อบ้าน สำหรับตนเองและครอบครัว เขามีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น เพื่อนร่วมงานให้ความเชื่อถือมากขึ้น การงานก้าวหน้าขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน ทุกวันนี้เขารู้ดีว่า ถ้าเขาไม่เลือกเส้นทางใหม่สำหรับชีวิตตนเองแล้ว เส้นทางชีวิตของเขาก็คงไม่ต่างไปจากผู้ป่วยอื่น ที่อาการหนักกว่าเขา สำหรับผู้ที่กำลังเป็นโรคติดสุรา คุณต้องตัดสินใจเลือกเส้นทางสำหรับตนเอง ก่อนที่จะสายเกินไป
|
นพ.วีรวุฒิ เอกกมลกุล
ขอบคุณนิตยสารใกล้หมอ ที่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่