รักฉัน…นิรันดร

วันที่ 14 กพ. พ.ศ.2547

 

 

.....ยามเย็นตะวันคล้อยดวงต่ำลงใกล้ขอบฟ้า ดิฉันชอบออกมาเดินเล่นริมสระน้ำใหญ่ใกล้บ้าน น้ำในสระสะท้อนแดดสุดท้ายของวัน ส่องประกายระยิบวิบวับงดงาม ฟ้ายามนี้มีหลากสี ถ้ามองแค่ผ่านจะเห็นฟ้าเป็นสีคราม เหลือง ส้ม หากมีเวลาทอดสายตามองฟ้าอีกครั้ง จะเห็นว่าส่วนฟ้าที่เป็นสีครามนั้น ถูกแต่งแต้มด้วยสีชมพูระเรื่ออยู่ ส่วนที่เป็นสีส้มก็ถูกพาดผ่านด้วยแดงเข้ม และบางส่วนก็อมเทา ยิ่งพิศยิ่งเพลิน ยิ่งเห็นความละเมียดละไมของธรรมชาติ

.....“ฟ้านั้นเป็นเช่นความรัก” ประโยคนี้ผุดขึ้นมา ขณะที่ตามองฟ้า และเท้าก้าวเดินไป ดิฉันกำลังนึกถึงเรื่องราวของตัวเองในอดีต

.....บางคนอาจคิดว่า ความรักนั้นซับซ้อนซ่อนเงื่อน เรื่องราวของความรักทำให้นักแต่งเพลงมีงานทำ นักร้องเป็นซุปเปอร์สตาร์ ดารามีชื่อเสียง กวีนิพนธ์ที่พร่ำพรรณนาถึงความรักยังขายได้ อีกมากมายที่เนื่องด้วย”รัก”

.....ความรักทำให้มีเธอ มีฉัน

.....ฉันรักเธอ เธอไม่รักฉัน ฉันอกหัก

.....เธอรักฉัน ฉันไม่รักเธอ...เสียใจ! เราเป็นเพื่อนกันดีกว่านะ

.....ถึงแม้ว่า ฉันรักเธอ เธอก็รักฉัน เราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ เพราะเธอหมายถึงใครอีกคนนอกจากตัวฉัน ที่ฉันจะมอบความรักให้ และรักตอบ เพราะอย่างนี้ความรักจึงกว้างใหญ่ดั่งผืนฟ้า ไม่ได้จำกัดจำเขี่ยอยู่แค่ประเด็นชายหนุ่มกับหญิงสาวเท่านั้น

.....ความรักหลากหลายที่ว่า หากจะจัดหมวดหมู่กันจริงๆ แล้ว ก็คงมีอยู่ ๒ ประเด็นเท่านั้น คือ รักคนอื่น กับ รักตัวเอง

.....ประเด็นรักคนอื่นนั้น ตั้งแต่รักคุณพ่อคุณแม่ รักครูบาอาจารย์ รักพี่น้อง ผองเพื่อน ญาติสนิทมิตรสหาย และสุดท้าย รักคนรัก ความรักอย่างหลังนี้ดูจะมีปัญหามากกว่าใคร มีให้เห็นเป็นข่าวหน้าหนึ่งเสมอ

.....ดิฉันนึกถึงคนที่ดิฉันรัก บางคนก็รักตอบ บางคนก็มอบความรักยิ่งใหญ่มหาศาลให้กับดิฉัน บางคนดิฉันรักเขาฝ่ายเดียว แต่ไม่ว่าอย่างไรดิฉันเชื่อว่าที่สุดของความรักของมนุษย์คือ ความรักตัวเอง

.....รักตัวเอง คือ ปรารถนาให้ตัวเองมีความสุข ดังนั้นหากจะกล่าวว่า ความสุขเป็นอีกชื่อหนึ่งของ ความรัก คงไม่ผิดนัก

.....รักใครต่อใครมามากแล้ว อย่างไรจึงจะได้ชื่อว่ารักตัวเองเล่าคะ? กินอร่อย นอนสบาย ใช้ของแพง ฯลฯ อย่างนี้จะได้ชื่อว่ารักตัวเองหรือยัง?

.....มาถึงบรรทัดนี้ดิฉันนึกถึงพุทธภาษิตที่ว่า อัตตาหิอัตโน นาโถ ตนเป็นที่พึงแห่งตน ดิฉันว่านี่เป็นแนวทางการรักตัวเองที่มั่นคง ยืนยาว เมื่อใดที่ตนเป็นที่พึง และที่พึ่งนั้นไม่ต้องเสาะแสวงหาจากใครที่ไหน มีอยู่แล้วในตัวเราเอง

.....เพราะรักนี้เท่านั้นที่ทำให้เรามีความสุขที่แท้จริง และสุขนั้นก็นิรันดรด้วยค่ะ

 

 

 



 

ภัทรา ประภาสชล

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.024813298384349 Mins