.....การที่เรารู้จักทางเดินกับการที่เรากำลังเดินอยู่บนทางนั้นผมว่ามันต่างกันนะ ต่างกันทั้งด้วยอารมณ์และความรู้สึก ก็เหมือนกับเรารู้จักทางที่จะไปเชียงใหม่ กับการที่เรากำลังเดินทางไปเชียงใหม่นั้นแหละครับ มันไม่เหมือนกัน
คนที่เคยกินส้มตำปลาร้ากับคนที่กำลังกินส้มตำปลาร้าผมว่ามันก็ต่างกันนะ ถึงแม้ว่าจะเป็นสูตรเดียวกัน ร้านเดียวกัน ใส่เครื่องปรุงหรือเวลาที่รับประทานก็เป็นเวลาเดียวกัน ความแซบในรสที่สัมผัสมันย่อมต่างกันอยู่แล้ว ยิ่งถ้านำทั้งสองประเภททั้งที่เคยกินกับที่กำลังกินมาเทียบกับผมแล้ว มันยิ่งต่างกันอย่างสิ้นเชิง ก็เพราะผมกับปลาร้านั้น เราเลิกคบไปนานแล้วด้วยเหตุผลง่ายๆ สั้นๆ ครับผมแพ้กลิ่นอันรัญจวนของมัน
ผมชอบโฆษณาโทรศัพท์มือถือยี่ห้อหนึ่ง เขาบอกว่าทะเลเหมือนกันแต่ใสไม่เหมือนกัน ฝาแฝดที่หน้าตาเหมือนกันก็ยังนิสัยต่างกัน หนังสือเล่มเดียวกันเวลาแปลแล้วก็สนุกต่างกัน แล้วยังมีต่อครับแต่ผมขอกล่าวถึงแค่นี้ก็คงจะพอจำกันได้ ผมชื่นชอบแนวคิดนี้ที่มันทำให้ความคิดแตกกระจายไปได้หลายอย่างสำหรับความเหมือนที่แตกต่างดังกล่าว ยกตัวอย่างนะครับ สุนัขเหมือนกันแต่ดุต่างกัน แมวหน้าเหมือนกันแต่ความรู้ประสาแมวก็ต่างกัน ดูภาพยนต์เรื่องเดียวกันยังสนุกกันคนละช่วงคนละตอน มีอีกมากครับลองคิดเรื่องราวของคุณดูบ้างก็ได้ครับ
เพราะความรู้สึกและความจริงที่แตกต่างกันนี้มันมีข้อจำกัดและนิยามง่ายๆ ที่ว่าถ้าเป็นคนละคนกัน คิด ทำ พูดอะไรก็ย่อมต่างกันครับ หาน้อยรายเหลือเกินที่จะบังเอิญถูกรสนิยมกันชนิดเหมือนกันทุกประการ
ผมรู้สึกเป็นห่วงคนที่ชอบคิดว่าไม่เป็นไรหรอกน่าเหมือนกันแหละ ตัวอย่างหนึ่งที่ผมพบอยู่เสมอคือชวนทำบุญ หรือชวนกันทำความดีมักได้รับการปฎิเสธอย่างนุ่มนวลว่าเหมือนกันแหละ พ่อทำก็เหมือนกับแม่ทำ หรือถ้าลูกทำแม่คงได้บุญด้วยอยู่แล้วแม่ไม่ต้องทำหรอก บุญใครทำคนนั้นจึงจะได้บุญครับ จะบอกว่าคนใดคนหนึ่งของครอบครัวทำบุญแล้วจะเหมือนกัน ผมขอปฏิเสธครับ ข้าวใครกินคนนั้นย่อมรู้รสและอิ่มตามลำพังของผู้ได้ลงมือตักข้าวเข้าปาก และกลืนให้ถึงท้อง พ่อแม่ญาติพี่น้องแม้อยู่บ้านเดียวกันกินข้าวหม้อเดียวกัน จะทำให้อิ่มหรือรับรสของข้าวนั้นเหมือนกันได้ก็ต้องกินเหมือนกัน บุญถ้าจะได้เหมือนกันก็ต้องทำบุญเหมือนกันด้วยสิ จริงมั้ย
นายตั้ม