ประเพณีลอยกระทงมีมาตั้งสมัยสุโขทัย เป็นการจัดแต่งเครื่องสักการบูชาแล้วใส่กระทงปล่อยลอยไปตามน้ำ เพื่อระลึกถึงญาติพี่น้องที่อยู่ห่างไกล ส่วนการจุดโคมลอยฟ้าเป็นการ จุดโคมประทีปเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีอานิสงส์อันยิ่งใหญ่
เนื่องในโอกาสวันลอยกระทงในปีนี้ ทางศูนย์อบรมเยาวชนผาสุกวนิช จ.ราชบุรี ได้จัดให้มีงานประเพณีทอดกฐินและประเพณีลอยกระทงขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2549 ที่ผ่านมา ซึ่งวันนั้นได้มีงาบุญเกิดขึ้นถึง 2 งานด้วยกัน คือ มีการจัดพิธีทอดกฐินตามประเพณีหลังจากวันออกพรรษาในช่วงเวลากลางวันและงานลอยกระทง จุดโคมประทีปบูชาในช่วงค่ำคืน
พิธีทอดกฐินเริ่มเวลา 10.40 น. เป็นพิธีถวายสังฆทานแด่พระภิกษุสงฆ์ จากนั้นคณะสงฆ์เริ่มพิธีทอดกฐินและพิธีปล่อยปลา สาธุชนมาร่วมกันปล่อยปลาเพื่อเป็นการให้ทานแก่สัตว์และอธิษฐานจิตร่วมกัน ต่อจากนั้นเวลา 16.30 น. คณะสงฆ์ทำพิธีกรานกฐิน เป็นอันเสร็จพิธี และสาธุชนมารับประทานอาหารเย็นร่วมกัน
หลังเสร็จพิธีทอดกฐินในช่วงกลางวันแล้วเริ่มเข้าสู่ประเพณีงานลอยกระทง ซึ่งก่อนที่จะมีการทำพิธีจุดโคมประทีปบูชา ในงานมีการประกวดกระทง ซึ่งสาธุชนต่างพากันชื่นชมกับกระทงที่ส่งเข้าประกวดที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก และยังมีการเล่นพื้นเมืองที่หาชมยากมาให้ได้ชมกันอีก ถือเป็นการรักษาวัฒนธรรมไม่ให้สูญหายไป
เมื่อถึงเวลา 19.00 น. เริ่มทำพิธีบูชาพระรัตนตรัย ปฏิบัติธรรม ต่อด้วยการจุดประทีปบูชาถวายเป็นพุทธบูชาและการจุดโคมลอยฟ้า จากนั้นสาธุชนเริ่มทยอยกันไปลอยกระทง บางส่วนก็พากันไปปล่อยกระทงสายลงบนผืนน้ำ และต่างสงบนิ่งอธิษฐานจิตแผ่เมตตาระลึกถึงผู้ที่อยู่หากไกลและผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
ค่ำคืนนั้นสาธุชนมาร่วมงานกันอย่างมากมายทั้งพิธีในช่วงเช้าและช่วงค่ำ บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความรื่นเริงสนุกสนานกับงานที่มีสีสันสวยงามตระการตา ซึ่งในหนึ่งปีมีให้ได้ชมเพียงครั้งเดียว พร้อมกับการได้สร้างมหาทานบารมีด้วยการทอดกฐินเพื่อสร้างกุฏิที่พักสงฆ์ และได้ร่วมกันจุดโคมประทีปถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในงานลอยกระทงอีกด้วย นับว่าได้รับทั้งบุญและความสนุกสนานกันไปทั้งวันทั้งคืนเลยทีเดียว
อนุธิดา
