จังหวะความคิด

วันที่ 02 เมย. พ.ศ.2546

จังหวะความคิด

 

.....ดิฉันเป็นแฟนเพลงเหนี่ยวแน่นของ วง"เฉลียง" เพลงที่ชอบมากเป็นพิเศษคือ เพลง "ต้นชบากับคนตาบอด" ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ จับดวงใจแม้ใครบังเอิญได้เดินมองมา อาจพบเห็น เห็นด้วยตา ต้นชบาขึ้นในโรงเรียนสอนคนตาบอด

 

.....แต่ไม่ว่าจะชอบเพลงนี้มากขนาดไหน หากได้ยินเฉพาะดนตรีตอน Intro ดิฉันก็จำไม่ได้ว่าเป็นเพลงอะไร จะร้อง อ๋อ! ก็ต่อเมื่อนักร้องเปล่งเสียงออกมาแล้วนั้นเอง ถือเป็นความบกพร่องทางการได้ยินอย่างหนึ่ง ดังนั้นเวลาอยู่ในแวดวงเพื่อนฝูง ดิฉันจะแสดงอาการ "กรี๊ด" ที่ได้ฟังเพลงถูกใจช้ากว่าเพื่อนๆ ไป step หนึ่งเสมอ

 

.....ท่อนสุดท้ายของเพลงโปรดของดิฉันว่าไว้ ...สิ่งจะงามอยู่กับใจ บอดที่ใจเห็นไปอย่างไรไม่มีวันงาม โลกจะสวย สวยไปตามจิตที่งามมองโลกสดใสไปในทางดีวันหนึ่งดิฉันเริ่มต้นทำงานแต่เช้า รู้สึกสดชื่น อาหารเช้าและกาแฟแก้วแรกยังส่งพลังงานให้ความคิดแล่น การงานลื่นไหล หลายชั่วโมงผ่านไป ร่างกายเริ่มอ่อนแรง งานที่กองอยู่ตรงหน้ายังสะสางไปได้ไม่มากนักได้เวลาอาหารกลางวัน ดิฉันวางมือจากงาน พักทานอาหาร หลังอาหารกลางวันดิฉันไม่ได้กระปรี้กระเปร่าเหมือนตอนเช้า หนังตาหนักอึ้ง สมองทำงานช้าลง ช้าลง รู้สึกว่าดินสอในมือมีน้ำหนักมากขึ้น ดิฉันยกดินสอขึ้นมองดู แล้วคิดอะไรไปต่างๆ นานา กว่าจะรู้ตัวอีกที แขนซ้ายชาดิก เพราะน้ำหนักของศีรษะตนเองที่กดทับไว้

 

.....ดิฉันลืมตามองดูงานที่ค้างอยู่ตรงหน้า ด้วยความละเหี่ยใจ นึกไม่ออกว่าไร้เรี่ยวแรงขนาดนี้ จะทำงานให้เสร็จได้อย่างไรดิฉันเดินออกจากห้องทำงานตั้งใจจะไปล้างหน้าให้สดชื่น ชะโงกหน้าออกไปทางหน้าต่างเห็นดอกชบาสีแดงริมรั้ว แกว่งไกวไปมาล้อลม ดูน่ารักดี ดิฉันฮัมเพลงโปรดขึ้นในใจ แล้วฉุกคิดขึ้นได้ว่าถ้าเรามองงานที่สุมอยู่ตรงหน้าว่าเป็น "งาน" แค่คิดก็เพลียแล้ว

 

.....หากดิฉันปรับจังหวะความคิดใหม่ ว่าเอกสารที่กองอยู่นี้ คือสมบัติล้ำค่าของดิฉัน กำลังแรงกาย แรงใจที่หยิบจับเริ่มมีมากขึ้น แต่ถ้าปรับอีกจังหวะหนึ่ง แล้วคิดว่า งานกองนี้คือคุณความดีที่เพิ่มขึ้นในตัวเราเอง และพร้อมที่จะแบ่งปันให้กับคนอื่นคิดได้เท่านี้ก็รู้สึกสดชื่น มีกำลังแรงใจที่จะทำงานตรงหน้าอย่างเต็มกำลังเลย ถึงแม้ว่าดิฉันจะมีปัญหาเรื่องการจังหวะดนตรี แต่เรื่องจังหวะความคิดแม้ไม่เร็วเท่าไร แต่ก็ไม่สายเกินแก้

 

.....หลังล้างหน้าจนสดชื่นดีแล้ว ดิฉันเอาใจจรดไว้ในฐานที่ตั้ง มองเอกสารตรงหน้า แล้วลงมือสะสางอย่างมีความสุข เวลาผ่านไปนานเท่าใดไม่ทราบ มารับรู้ต่อเมื่อดิฉันตวัดดินสอลากเส้นสุดท้าย ปิดท้ายคอลัมน์ เป็นอันว่า "งาน" กับ "บุญ"ของดิฉันวันนี้สำเร็จลงได้ด้วยจังหวะที่สวยงาม และที่สำคัญมีความสุขมากค่ะ

ภัทรา ประภาสชล

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0010699033737183 Mins