ลักษณะมหาบุรุษ ประการที่ ๒ ฝ่าเท้ามีลายจักร มีซี่กำข้างละพันพร้อมทั้งกงและดุม
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า...
“เมื่อตถาคตเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ได้เป็นผู้นำสุขมาให้แก่มหาชน เป็นผู้บรรเทาภัยคือความสะดุ้งหวาดเสียว จัดการคุ้มครองรักษามนุษย์ทั้งหลายโดยธรรมะ ได้ถวายทานมีเครื่องบริวารเพราะได้กระทำกรรมนั้นๆ ไว้ ครั้นมาสู่ความเป็นมนุษย์ จึงได้มหาปุริสลักขณะข้อนี้คือ ภายใต้ฝ่าเท้ามีจักรทั้งหลายเกิดขึ้น มีซี่ตั้งพัน พร้อมด้วยกงและดุม บริบูรณ์ด้วยอาการทั้งปวง มีระยะอันจัดไว้ด้วยดีย่อมเป็นผู้มีบริวารมาร อันได้แก่ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา เทวดา มนุษย์ อสูร นาค คนธรรพ์ย่อมเป็นบริวารของตถาคต”
การถวายทานมีเครื่องบริวาร อาจดูตัวอย่างได้จากการถวายอาหารพระ แล้วมีดอกไม้ธูปเทียนเป็นบริวาร หรือการถวายสบงจีวรแล้วมีข้าวปลาอาหารเป็นบริวาร นั่นคือ ถ้าเรามุ่งทำทานด้วยอะไร ทานนั้นก็เป็นประธาน เป็นหลัก สิ่งอื่นๆ ที่นำมาเสริมก็เป็นของบริวารไป พระองค์ทรงทำทานแต่ละครั้งต้องมีของบริวารเต็มพร้อมหมด เพราได้กระทำกรรมเช่นนี้ไว้ซ้ำแล้วซ้ำอีก เมื่อมาสู่ความเป็นมนุษย์ จึงได้ลักษณะมหาบุรุษข้อที่ ๒ และยังมีอานิสงส์ต่อไปอีกเป็นของแถม คือ มีบริวารมาก ทั้งที่เป็นพระภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา แม้เทวดา อสูร นาค คนธรรพ์ ก็ยังมาเป็นบริวารของพระองค์
อานิสงส์ในลักษณะนี้พอจะอธิบายได้ว่า เมื่อมีชีวิตอยู่ทางโลกในชาติก่อนๆ เคยเป็นผู้นำทางโลก อย่างไรก็ดี ตำแหน่งเหล่านี้ไม่จีรังยั่งยืน เปรียบเสมือนหัวโขนที่สวมไว้ชั่วคราว ถ้าเป็นคนอื่นอาจฉวยโอกาสใช้อำนาจเบียดบังประโยชน์ผู้อื่น แต่พระองค์กลับใช้โอกาสนั้น ทำความดีอย่างเต็มที่ คือ นำความสุขมาให้แก่มหาชน เป็นผู้บรรเทาภัยให้มหาชน ให้พ้นจากความสะดุ้งหวาดกลัวต่างๆ มิหนำซ้ำ ยังจัดการคุ้มครองรักษาโรคโดยยุติธรรมอีก
ดังนั้น จะเห็นว่า ถ้าทำอะไรให้ถูกดี ถึงดี พอดีจริงแล้ว จะต้องได้ดีจริงๆ ถ้าใครบ่นว่าทำดีแล้วไม่ได้ดีก็ฟ้องว่า ยังทำโง่ ๆ อยู่
* * ติดตามวิธีสร้างบุญอย่างไรให้ได้ลักษณะมหาบุรุษ ประการที่ ๓ ได้ในตอนต่อไป * *
ขอขอบคุณ หนังสือ “ลักษณะมหาบุรุษ”
ปาฐกถาธรรมของพระเดชพระคุณพระภาวนาวิริยคุณ หลวงพ่อทตฺตชีโว
สงวนลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
ห้ามนำไปใช้ประโยชน์ทางการค้าหรือหากำไร ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดและต้องรับโทษตามกฎหมาย