ในครั้งหนึ่ง มนุษย์มีความสุขอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักทุกข์เลย จนเป็นที่อิจฉาของปีศาจทั้งหลาย วันหนึ่ง เหล่าปีศาจเรียกประชุมกันเพื่อหาวิธีแกล้งมนุษย์ โดยเอาความสุขของมนุษย์ไปซ่อน
ปีศาจตนหนึ่ง อาสาทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ
ปีศาจผู้มีฤทธิ์เอาความสุขของมนุษย์ไปซ่อนในภูเขาที่ไกลสุดขอบฟ้า.....แต่ไม่นานมนุษย์ก็ค้นพบ
ปีศาจน้ำรับอาสาเอาความสุขไปซ่อนยังใต้ทะเลลึก.....แต่ในที่สุดมนุษย์ก็หาเจอ
ปีศาจอีกตนขอนำความสุขไปซ่อนยังอวกาศนอกโลก.....มนุษย์ยังเดินทางไปเอามาได้
ไม่ว่าจะเอาความสุขไปซ่อนที่ไหน มนุษย์ก็ยังค้นหาจนพบ พวกปีศาจเริ่มจนปัญญา
“ข้าขอรับอาสาเอง” ปีศาจทั้งหมดหันมองไปยังเจ้าของเสียง พอรู้ว่าเป็นปีศาจตัวน้อยๆก็ฮาลั่น ต่างนึกในใจว่า ช่างไม่เจียมตัวเอาเสียเลย หัวหน้าปีศาจถามอย่างเสียไม่ได้ว่า
“เจ้าจะเอาความสุขของมนุษย์ไปซ่อนไว้ที่ไหน”
“เอาไปซ่อนไว้ในใจของมนุษย์ไงครับ ถ้าเอาไปซ่อนที่นั่น มนุษย์ไม่มีวันหาเจอแน่” ปีศาจน้อยตอบ พร้อมกับยิ้มกว้างอย่างน่าสยดสยอง
จนมาถึงบัดนี้ กาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่าวิธีของปีศาจตนไหนได้ผล เพราะจะมีสักกี่คนที่ได้พบความสุขที่แท้จริง
ถ้าคิดว่าความสุขอยู่ในทะเล...ก็ไปหาที่ทะเล
ถ้าคิดว่าความสุขอยู่ที่ภูเขา...ก็ไปหาที่ภูเขา
ถ้าคิดว่าความสุขอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า...ก็ไปเดินช็อปปิ้ง
ถ้าคิดว่าความสุขอยู่ที่การมีเงินมากๆ...ก็ทุ่มเทชีวิตให้กับการหาเงิน
หรือหากคิดว่าความสุขอยู่ที่การมีชื่อเสียงโด่งดัง...ก็ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งชื่อเสียง
แต่สิ่งหนึ่งที่บุคคลเหล่านี้ได้ค้นพบเหมือนกัน ก็คือ ทะเล ภูเขา เงินตรา และชื่อเสียง ทั้งหลายในโลก ไม่สามารถช่วยให้เรามีความสุขได้ในยามที่เราซึมเศร้าหรือเจ็บปวดทรมานจากโรคร้าย
แม้สมบัติสิ่งสวยงามกองเท่าภูเขา ก็ไม่สามารถเติมเต็มความว่างเปล่าในใจได้ ว่ากันตามจริงแล้ว สิ่งเหล่านี้นำมาซึ่งความพอใจเพียงช่วงสั้นๆ สุดท้ายก็จบลงด้วยความเครียดและเหนื่อยล้า
โชคดีที่มนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับความสามารถอย่างหนึ่ง นั่นคือ การเป็นโรงงานผลิตความสุขได้ด้วยตนเอง ความสุขที่ไม่ต้องพึ่งพาบุคคลอื่นๆ หรือสิ่งภายนอกใดๆ มาทำให้เกิดขึ้น เป็นความสุขที่เป็นอิสระล้วนๆ มีอำนาจเหนือสถานการณ์ และสิ่งแวดล้อมปัจจัยภายนอก
แหล่งกำเนิดของความสุขที่ว่านี้มีอยู่แล้วภายในตัวของมนุษย์ทุกๆ คน และสามารถเข้าถึงได้ด้วยการนั่งสมาธิ
รวมเรื่องสั้นประทับใจ