สิ่งที่เกื้อหนุนการปฏิบัติธรรม ให้ใจเราหยุดนิ่งได้เร็ว
ประการแรก ต้องหัดเป็นคนมองโลกไปตามความเป็นจริง ไม่ใช่หมายความว่า ให้มองโลกในแง่ดีหรือแง่ร้าย แต่ให้มองโลกไปตามโลกธรรม 8 คือ มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ มีคนสรรเสริญมีคนนินทา มีสุขมีทุกข์ ธรรม 8 ประการนี้จะวนเวียนในชีวิตประจำวันของเราอยู่ตลอดเวลา ทีนี้เมื่อมันมากระทบ เราจะต้องไม่หวั่นไหว ทำใจให้เป็นกลาง ๆ
ประการที่ 2 ทำใจให้เป็นกุศล ให้เบิกบาน แช่มชื่นอยู่เสมอ ใครที่เป็นคนหงุดหงิด ฉุนเฉียว เจ้าอารมณ์ ใจร้อน แง่งอนอะไรต่าง ๆ ต้องทิ้งไปให้หมด อย่าไปอนุรักษ์มันไว้ แล้วทำใจของเรานี้ ให้ผ่องใส ให้เยือกเย็น สบาย ๆ
ประการที่ 3 มองทุก ๆ คน เหมือนเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม จะเป็นสามี ภรรยา พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย บุตร ธิดา หรือเป็นเพื่อนร่วมงานของเรา ให้มองว่า เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย มีความเสมอเหมือนกันหมดทุกคน และมีความปรารถนาดีให้กับเพื่อนเราทุก ๆ คน เมื่อเรามองอย่างนี้ สิ่งที่เราจะได้รับ คือ ใจเราสบาย ไม่หงุดหงิดง่าย ไม่ฉุนเฉียวง่าย ไม่เจ้าอารมณ์ง่าย จะนั่ง นอน ยืน เดิน มีความรู้สึกเหมือนมีมิตรสหายอยู่ห้อมล้อมตัวเรา เมื่อทำบ่อย ๆ ความรู้สึกนี้จะเกิดขึ้นมาเอง
ประการสุดท้าย มองโลกให้ว่างเปล่า ไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร จะทำมาหากิน หรือทำภารกิจอันใดเราก็ทำไปอย่างเต็มที่ แต่ไม่ติดอะไร เฉย ๆ นำสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอนมาเป็นอุปกรณ์ในการฝึก อย่างนี้เวลาเรานั่งสมาธิจะง่าย เพราะใจมันสบายซะแล้ว เนื่องจากเราไม่ติดเรื่องกระจุกกระจิก เรื่องปลีกย่อย มุ่งแต่เรื่องหลักใหญ่ คือ เราจะทำธรรมกายให้เกิดขึ้น หลักย่อย ๆ ที่ทำให้ใจเราขุ่นมัวก็หมดไป พอใจสบาย ใจเราก็เบิกบาน นั่งยังไม่ทันขัดสมาธิ ตายังไม่ทันหลับ ใจก็หยุดนิ่งลงไปเลย ทำอย่างนี้ได้แล้ว หยุด นิ่ง เฉย มันจะมาเอง จำไว้ว่า ธรรมกายเป็นเป้าหมายของชีวิต นอกนั้นเป็นเครื่องประกอบกันมา จับหลักตรงนี้ให้ได้แล้วจะมีความสุข สบาย และจะเข้าถึงธรรมภายในกันทุกคน
3 เมษายน 2535