❤รัตนอัฐิธาตุ
คำว่า "รัตนอัฐิธาตุ" ที่หลวงพ่อเรียกขึ้นมา ไม่ใช่ว่าจู่ๆ จะตั้งขึ้นมาลอยๆ แต่เป็น "เนมิตกนาม" ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงธาตุหยาบของคุณยายให้มีลักษณะเป็นรัตนชาติ (เนมิตกนาม คือ นามที่เกิดจากลักษณะและคุณสมบัติที่มี) เหมือนคำว่า"พระนางมัลลิกา" เพราะตอนพระนางเกิด มีดอกมะลิร่วงลงมาจากในอากาศ หรือคำว่า "พุทโธ" ก็เป็นเนมิตกนามของการบังเกิดขึ้นของพุทธรัตนะ หรือคำว่า "ธรรมกาย" ก็เป็นเนมิตกนามของการเกิดขึ้นของกายธรรม
หลวงพ่อเป็นคนขี้สงสัย ตอนคุณยายมีชีวิตอยู่ พอมีอะไรก็จะซักถามคุณยายอยู่เรื่อย หรืออย่างอัฐิธาตุของท่าน ชิ้นทีี่เปลี่ยนเป็นทองคำ ในตอนแรกเป็นแผ่นบางๆ ของขี้เถ้า ซึ่งตรงนี้น่าทึ่งทีเดียว คือ ในชิ้นเดียวกันเป็นทองครึ่งแผ่น แต่อีกครึ่งเป็นเถ้า เป็นการแสดงเพื่อไม่ให้ใครสงสัยว่า ไปเอาทองคำเปลวมาใส่อะไรอย่างนั้น เพราะว่าโถแก้วที่บรรจุอัฐิธาตุของคุณยายเก็บไว้อย่างดี เอาผ้ามาผูกเอาไว้ ไม่ให้ใครเข้าไปยุ่ง ซึ่งการที่ใครจะเอาทองมาโปรย หรือว่าเอาเพชรมาโปรย คงทำไม่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากอานุภาพแห่งความบริสุทธิ์และบุญบารมีของท่าน ที่จะเป็นกำลังใจให้กับลูกหลานของท่านในการสร้างบารมี
รัตนอัฐิธาตุของท่านใสพราวเหมือนเพชรพราวแสง บางชิ้นแดงเหมือนทับทิม บางชิ้นสีน้ำเงิน เหมือนไพลินเป็นรัตนชาติ แต่จะซ่อนอยู่ลึกๆ ต้องดูตามช่องให้ดี ดูให้ทั่วถึง แต่ชิ้นที่เปลี่ยนต่อหน้าต่อตาก็คือ ชิ้นที่มีขนาดใหญ่ประมาณสัก 1 ตร.ซม. ที่เป็นแผ่นบางๆ ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นทองคำ ทีละน้อยๆ แล้วก็เปลีี่ยนพรึบเต็มไปเลย ซึ่งการเปลี่ยนเป็นทองคำคงมาจากการที่ท่านได้กลั่นธาตุของท่านอยู่เรื่อยๆ
หลวงพ่อได้รับความรู้เพิ่มเติมจากลูกหลานของหลวงพ่อบางรูปทีี่มรณภาพไปแล้ว ซึ่งเคยไปทำบุญมากับครูบาอาจารย์ผู้มีคุณวิเศษในกาลก่อนว่า เมื่อถึงกาลที่ท่านละสังขาร หลังจากสลายร่างท่านแล้ว อีกหลายปีต่อมาอัฏฐิธาตุของท่านจะรวมตัวกันเป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์ แตกต่างจากอัฐิธาตุของปุถุชนธรรมดาทั่วไป ซึ่งปรากฏการณ์อย่างนี้แสดงให้เห็นถึงคุณธรรม คุณวิเศษ ข้อวัตรปฏิปทาและการประพฤติตนอันบริสุทธิ์บริบูรณ์ของพระอาจารย์ผู้มีคุณวิเศษท่านนั้นๆ
แต่อัฐิธาตุของคุณยายเรา ก็น่าแปลก!...น่าอัศจรรย์! ...ตรงที่ไม่ต้องผ่านกาลเวลาเป็นปีๆ หรือ หลายๆ ปี เป็นสิ่งที่เม่่ื่อเห็นแล้ว ทำให้เกิดกำลังใจในการที่จะสร้างบารมี แต่นี่ไม่ใช่หมายความว่า เราจะเอาครูบาอาจารย์ของเราไปเบ่งทับ หรือไปข่มใคร ไม่ใช่อะไรอย่างนั้นนะ แต่เป็นความไม่เข้าใจของหลวงพ่อต่างหากที่เดิมไม่ทราบว่า ต้องมีกาลเวลา ต้องใช้เวลาหลายๆ ปี สิ่งนี้จึงจะเกิดขึ้น
คุณครูไม่ใหญ่
จาก หนังสือความทรงอภิญญา ของผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกาย