การบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ด้วยจิตเลื่อมใส
การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุหรือพระธาตุไปประดิษฐานไว้ในสถูปเจดีย์ เพื่อทำการสักการบูชา ถือเป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่ ที่จะส่งผลต่อผู้กระทำโดยตรงอย่างจะนับจะประมาณมิได้ ดังมีเรื่องราวปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกมากมาย เช่น
เรื่องของนางเสสวดีที่ได้ทำการบูชาพระธาตุของพระสารีบุตร ด้วยอัญมณีและดอกไม้ทองคำในสมัยเป็นมนุษย์ ก็ส่งผลทำให้ไปเกิดเป็นเทพธิดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ (เสสวดีวิมานวัตถุ)
หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่มีเครื่องสักการะใดๆเลย แต่ได้ประกอบกุศลโดยการชักชวนผู้อื่นให้บููชาพระบรมสารีริกธาตุด้วยจิตที่เลื่อมใส ก็ส่งผลให้ไปเกิดป็นเทพบุตรชั้นดาวดึงส์ (อเนกวัณณวิมานวัตถุ)
หรือแม้เป็นเพียงผู้จัดดอกไม้ที่ผู้อื่นนำมาถวายพระสถูปให้ดูเรียบร้อยสวยงาม ก็ส่งผลให้ไปเกิดเป็นเทพบุตรชั้นดาวดึงส์ (สุนิกขิตตวิมานวัตถุ)
ตรงกันข้ามกับผู้ที่ห้ามญาติไปบูชาพระสถูปเจดีย์ และติเตียนการบูชาพระสถูป ซึ่งบาปส่งผลทำให้ไปเกิดเป็นเปรต ได้รับความทุกข์ทรมานต่างๆนานา (ธาตุวิวัณณเปตวัตถุ)
การบูชาพระบรมสารีริกธาตุด้วยจิตที่เลื่อมใสนี้ มีอานิสงส์เสมอกับการบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในขณะที่พระองค์ทรงมีพระชนม์อยู่
และด้วยอานิสงส์อันไม่มีประมาณนี้เอง หลังจากละโลกแล้ว ผลบุญนี้จะช่วยปิดอบาย ได้เสวยทิพยสมบัติในเทวโลก และครองจักรพรรดิสมบัติในมนุษยโลก วนเวียนอยู่แต่ในสุคติภูมิ จนกระทั่งบรรลุมรรค ผล นิพพาน....
อยู่ในบุญ เดือนพฤษภาคม ๒๕๕๗