ข. การยิ้ม
การยิ้ม เป็นภาษากายที่สำคัญที่สุด เป็นการเปิดประตูของหัวใจเพื่อรับความสุข และให้ความสุขแก่ผู้อื่น ถือว่าเป็นการลงทุนเพื่อให้ได้ความสุขและมิตรภาพที่ถูกและง่ายที่สุดการยิ้มให้ดีต้องยิ้มด้วยจิตใจที่ชื่นชมคนอื่น และชื่นชมตัวเองได้ด้วย จงคิดว่าเรายิ้มให้กับความดีของคนอื่น จึงควรยิ้มอย่างสดชื่น อารมณ์ดี มีชีวิตชีวาเวลายิ้มควรยิ้มทั้งตัว อย่ายิ้มเฉพาะปาก กล่าวคือให้ยิ้มด้วยใจ ด้วยแววตา ด้วยการแสดงสีหน้าและท่าทาง ซึ่งจะมีลักษณะเป็นแบบ ฯ คือ บุคลิกภาพแบบเปิสัมพันธภาพกับผู้อื่นให้มองโลกในแง่ดี และทำให้ผู้ที่เราจะไปหา ได้รับรอยยิ้ม รู้สึกเป็นสุข อบอุ่น ร่าเริง เบิบานการยิ้มและหัวเราะนี้ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าได้ผ่อนคลาย ป้องกันรอยย่นของใบหน้าได้คนที่ทำใบหน้าเครียดหรือบึ้งตึงบ่อยๆ จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้ารัดเกร็ง เกิดเป็นริ้วรอยย่นบริเวณหน้าได้ง่ายเวลาเครียด มองจะถูกกด ทำให้คิดอะไรเป็นเหตุเป็นผลไม่ค่อยออก แต่ถ้ายิ้มแล้ว มองจะคลายตัว ทำให้คิดอะไรได้ดีและสร้างสรรค์คนจะยิ้มได้ดีก็ต้องมีสุขภาพกายดีและแข็งแรง นอนหลับพอเพียง กินอาหารถูกส่วน หายใจถูกต้องมีออกซิเจนไปเลี้ยง มองพอเพียงการยิ้ม มีมากมายหลายชนิด เช่น
1. ยิ้ม ชวนทำความดี เป็นยิ้มที่ยิ้มอย่างจริงใจ เป็นยิ้มที่ชวนทำความดีโดยไม่
ต้องการสิ่งใดตอบแทน
2. ยิ้ม ให้เกียรติ เป็นการยิ้มแบบยกย่อง ให้การยอมรับนับถือ
3. ยิ้ม พิมพ์ใจ เป็นรอยยิ้มซึ่งทำให้ผู้รับประทับใจ
4. ยิ้ม กระชับมิตร เป็นรอยยิ้มที่สร้างมิตร
ยิ้มทั้งดวงตาและใจ เป็นรอยยิ้มที่ยิ้มทั้งหน้า ด้วยใจที่เบิกบานยิ้มแย้มแจ่มใสประทับใจตลอดกาล เป็น รอยยิ้มที่จริงใจยิ้มได้ตลอดทุกอารมณ์ และประทับใจผู้พบเห็นตลอดกาล
จากหนังสือ DOU
วิชา DF 202 ทักษะการทำหน้าที่กัลยาณมิตร
กลุ่มวิชาการทำหน้าที่กัลยาณมิตร