กรณีตัวอย่างการทำหน้าที่กัลยาณมิตร
เรื่องเล่าจากคุณเล็ก แปดริ้ว
" ดิฉันทำงานเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง และในระหว่างปี 2540 ถึง2541 ที่ผ่านมานั้น ก็จะมีข่าวเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายตาม สื่อต่างๆ ทำให้เป็นหัวข้อวิพากษ์วิจารณ์ของเพื่อนๆ ที่ทำงานอยู่ด้วยกัน โดยเฉพาะเวลาหัวหน้าแผนกไม่อยู่ในห้องทำงาน แต่ว่าดิฉันก็ได้แต่รับฟังพร้อมทั้งเก็บข้อมูลที่เพื่อนๆพูดกันมาเรื่อยๆ และก็ไม่ได้ไปตอบโต้อะไรด้วย เพราะว่า ปกติดิฉันเป็นคนไม่ชอบคุยกับใครหรือชอบนินทาใครๆ และโดยส่วนตัวก็เป็นคนชอบเดินทางแสวงหาที่ ปฎิบัติธรรมตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งเพื่อนๆ ในที่ทำงานก็รู้จักดีเรื่องที่เพื่อนๆ เอามาพูดกัน ยกตัวอย่าง เช่น วัดนี้รวยแล้ว จ้างคน จ้างพระภิกษุมาวัด หลวงพ่อเจ้าอาวา ก็หล่อมาก ผิวพรรณก็งาม เพราะว่าท่านอาบน้ำแร่แช่น้ำนมมา หรือจะฉันอาหารก็ต้องสั่งจากภัตตาคารหรูๆ หรือบางคนก็บอกว่า พระในวัดนี้ จะต้องมีการศึกษาสูง ต้องผิวพรรณวรรณะดี ถึงจะมาบวชได้เพราะว่าท่านจะใช้ความงาม ใช้ ติปัญญาที่เรียนมา เข้าทำนองว่ามา เกลี้ยกล่อมหลอกลวง มาชักชวนให้ประชาชนทำบุญ หรือหลงเคลิ้มจนตามท่านมาที่วัดในที่ทำงานก็มีเพื่อนที่ นิทอีกคนหนึ่ง ที่ชอบการปฎิบัติธรรมเหมือนกันแต่ว่าไปวัดพระธรรมกาย เคยมาชวนเหมือนกัน ก็มาบอกว่า วัดดีอย่างนั้นดีอย่างนี้สารพัด พอได้ฟังก็หัวเราะใส่เขาแบบไม่เกรงใจ พร้อมทั้งบอกเพื่อนคนนั้นไปว่า "เธอจะไปไหนก็ไปเถอะ หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ไปหรอกวัดนี้" แล้วก็ถามเชิงดูถูกไปว่า "วัดนี้ให้ค่าจ้างเธอไปวัดเท่าไหร่ล่ะ" ซึ่งคำถามนี้ทำให้เขาโกรธมากจนเขาพูด วนกลับมาว่า "เสียดายนะ ที่มึงเป็นผู้หญิง ถ้าเป็นผู้ชายซะหน่อย กูต่อยปากมึงแน่" แล้วก็เดินจากไปหลังจากนั้น ดิฉันก็ยังเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่ต่างๆ เช่นเดิม"
จากหนังสือ DOU
วิชา DF 202 ทักษะการทำหน้าที่กัลยาณมิตร
กลุ่มวิชาการทำหน้าที่กัลยาณมิตร