ปีนี้นับเป็นปีมหามงคลของคนไทยทั่วประเทศ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ซึ่งถือว่าทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก ดังนั้นพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะใน ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้จึงรวมตัวกันเพื่อประกอบพิธีถวายสังฆทานแด่คณะสงฆ์ ๒๖๖ วัด ใน ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในวันที่ ๒๓ มิถุนายน ที่ผ่านมา ณ อาคารประวิช – สุคนธา เลาหะกุล อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส
พิธีกรรมได้เริ่มขึ้นเมื่อเวลา ๐๘.๐๐ น. พุทธศาสนิกชนพร้อมด้วยคณะสงฆ์ได้มาพร้อมกันที่บริเวณลานตักบาตร โดยมี นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานฝ่ายฆราวาส จุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัย พร้อมทั้งนำกล่าวคำถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน จากนั้นคณะสงฆ์แปรแถวเพื่อรับบาตร จากพุทธศาสนิกชน ที่ตั้งใจมาร่วมงานในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
สำหรับพิธีกรรมในภาคสายพุทธศาสนิกชนพร้อมเพียงกันที่บริเวณห้องประชุม เพื่อร่วมกันกล่าวคำสดุดีเฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีพระกวีวงศ์ รองเจ้าคณะภาค ๑๘ จุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัย และพุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันร้องเพลงสดุดีเฉลิมพระเกียรติต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ต่อด้วยการเสวนาธรรม โดยได้รับความเมตตาจาก พระครูสุทธิธรรมานุศาสก์ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดยะลา พร้อมด้วยนายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด และ นายบุญชวน บัวสว่าง ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม จังหวัดนราธิวาส
โดยพระครูสุทธิธรรมานุศาสก์ กล่าวขอบคุณคณะกัลยาณมิตรของวัดพระธรรมกายว่า “มีความรู้สึกอย่างหนึ่งว่า วัดพระธรรมกาย ให้ความสำคัญกับพวกเรา มีความปรารถนาดีกับพวกเราที่อยู่ในพื้นที่ด้วยความจริงใจ ก็ขอถือว่าเป็นพระคุณ เราคนไทยโชคดีที่ยังมีระบบอุปถัมภ์อยู่ แม้จะเป็นคณะสงฆ์ส่วนน้อย วัดพระธรรมกายก็ให้ความสำคัญกับพวกเราเป็นอย่างมาก ก็ขอบพระคุณคณะสงฆ์ทุก ๆ รูป และคณะกัลยาณมิตรมา ณ โอกาสนี้”
ด้าน นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้กล่าวว่า “คนมุสลิมที่นี่ ๙๙ เปอร์เซ็นต์ไม่เห็นด้วยกับการก่อการร้าย ถึงเวลาแล้วที่พี่น้องจะต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ ขอเพียงบอกเบาะแส บอกข้อมูล แต่ปัจจุบันก็เริ่มมีข้อมูลข่าวสารจากพี่น้องมุสลิมเข้ามา ซึ่งสามารถทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้รวดเร็วขึ้น และเพื่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชนในพื้นที่...”
ด้านนายบุญชวน บัวสว่าง ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม จังหวัดนราธิวาส กล่าวเพิ่มเติมว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นองค์ศาสนูปถัมภก ใน ๕ ศาสนา คือ พุทธ อิสลาม พราหมณ์ ฮินดู ซิก ท่านได้ให้การช่วยเหลืออยู่ตลอด เพราะฉะนั้นในวาระที่ในหลวงทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี พวกเราศาสนิกชน ควรมีความปรองดอง สมัครสมาน สามัคคีกัน เพื่อสันติสุขจะได้เกิดขึ้นใน ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว”
หลังจากนั้นเข้าสู่พิธีถวายสังฆทานแด่คณะสงฆ์ทั้ง ๒๖๖ วัด ใน ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีพระครูปลัดภูเบศ ฌานาภิญโญ ตัวแทนพระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ประธานสงฆ์วัดพระธรรมกาย กล่าวถึงความเป็นมาและความคืบหน้าของ
โครงการ
จากนั้นพุทธศาสนิกชน ได้ร่วมกันถวายปัจจัย ๔ แด่คณะสงฆ์ ๒๖๖ วัด และได้ร่วมกันถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ โดยมี ดร.ประกอบ จิรกิติ เป็นผู้แทนคณะกรรมการจัดงานมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจใน ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยพุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมงานบุญในครั้งนี้ต่างรู้สึกประทับใจและขอให้บุญที่ได้ร่วมกันในครั้งนี้ดลบันดาลให้ทุกคนรักและสามัคคีกัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว