130 ปี พระมงคลเทพมุนี
ในประวัติศาสตร์โลกยุคปัจจุบัน ไม่มีบุคคลใดและการค้นพบใดๆ จะยิ่งใหญ่และสำคัญไปกว่าการบังเกิดขึ้นของพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย อันเป็นวิชชาความรู้สูงสุดดั้งเดิมของพระพุทธศาสนาซึ่งเลือนหายไปให้หวนกลับคืนมาใหม่ เป็นที่พึ่งที่แท้จริงของมนุษยชาติ
พระมงคลเทพมุนี หรือหลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญเกิดที่จังหวัด สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2427 ในสมัยรัชกาลที่ 5 ออกบวชเมื่ออายุได้ 22 ปี ในเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2449 ณ วัดสองพี่น้องจังหวัดสุพรรณบุรี บวชอุทิศชีวิตเพื่อพระพุทธศาสนา ตั้งใจเจริญสมาธิภาวนา ควบคู่กับการศึกษาทางบริยัติ เชี่ยวชาญภาษาบาลี สามารถแปลคัมภีร์มหาสติปัฎฐานได้
ท่านทุ่มเทเจริญสมาธิภาวนาอย่างจริงจังไม่ขาดเลยแม้แต่วันเดียว กระทั่งกลางพรรษาที่ 12 ตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ท่านได้บรรลุธรรม ภายในอุโบสถวัดโบสถ์บน บางคูเวียง นนทบุรี
ท่านภาวนาว่า “สัมมาอะระหัง” กระทั่งเห็นดวงใสสว่างอยู่ตรงศูนย์กลางกาย ในตอนเย็น เมื่อนั่งสมาธิต่อท่านปักใจมั่นลงไปว่า หากไม่บรรลุธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจักไม่ลุกจากที่ น้อมใจหยุดนิ่งอยู่ในกลางดวงสว่าง
“มัชฌิมา ปฎิปทา” เสียงดังกังวานขึ้นกลางดวงสว่างนั้น พร้อมกับดวงสว่างเล็ก ๆ ผุดขึ้นกลางดวงใสเดิม ท่านจึง “ตามเห็น” กลางดวงนั้นเข้าไปเรื่อยๆ ด้วยใจหยุดนิ่ง เห็นกายในกายเข้าไปตามมลำดับในที่สุดก็เข้าถึงพระธรรมกายหรือกายตรัสรู้ธรรมที่มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปแก้วใสมีชีวิต เกตุดอกบัวตูมนั่งสมาธิอยู่ตรงศูนย์กลางกาย
ต่อมาท่านได้เทศน์สรุปสอนว่า “ หยุดเป็นตัวสำเร็จ” คือ ความเห็น จำ คิด รู้ ต้องรวมหยุดนิ่งอยู่เป็นหนึ่งเดียว “เอ กัคคตา” อยู่ตรงศูนย์กลางกาย จึงจะสามารถเห็นธรรมะภายในได้ เห็นพระธรรมกายหรือกายตรัสรู้ธรรมที่มีอยู่แล้วในตัวเองมนุษย์ทุกคน
วิชชาธรรมกาย หมายถึงวิชชาความรู้แจ้งเห็นแจ้ง คือเห็นด้วยธรรมจักษุ รู้ได้ญาณทัสสนะของกายธรรม รู้เห็นจนสิ้นลังเลสงสัย
หลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญท่านอาศัยพระธรรมกาย กายตรัสธรรมรู้ภายในตัวนี้แหละค้นคว้าวิชชาความรู้ภายในที่ลุ่มลึกเข้าไปตามลำดับ วิชชาความรู้ที่สามารถกำจัดทุกข์ กำจัดกิเลสได้เป็นชั้นๆ เข้าถึงบรมสุข คือพระนิพพาน เมื่อท่านรู้เห็นแล้วก็นำมาเทศน์สั่งสอนมหาชนชาวโลกโดยไม่ปิดบังอำพราง บอกให้พวกเรารู้ว่า
ศูนย์กลางกาย ฐานที่ 7 กลางท้องซึ่งอยู่เหนือสะดือขึ้นมา 2 นิ้ว เป็นที่ทรงพลังที่สุดของมนุษยชาติ เป็นแหล่งแห่งบุญ แหล่งแห่งความรู้อันบริสุทธิ์ เป็นต้นทางไปสู่อายตนนิพพาน
ในกายของมนุษย์ มีกายซ้อนกายเข้าไปตามลำดับ คือกายมนุษย์ละเอียด กายทิพย์ กายรูปพรหม กายอรูปพรหม และกายธรรม เข้าถึงได้เมื่อใจหยุดนิ่งเป็นสมาธิอยู่ตรงศูนย์กลางกาย เห็นทางสายกลางภายใน “มัชฌิมา ปฎิปทา” ทางดำเนินจิตสู่อริยมรรค ต้นนทางที่เห็นเป็นดวงใสสว่างดวงแรก ท่านเรียกว่า ดวงปฐมมรรค หากใครใจหยุดนิ่งกระทั่งเห็นดวงสว่างนี้และสามารถรักษาไว้ได้ตลอดชีวิตละโลกแล้วไปสู่สวรรค ปิดประตูอบายภูมิได้แน่นอน เพราะคนที่ใจใสเห็นดวงสว่างภายในได้ ย่อมเกิดหิริโอตตัปปะ ความละลายเกรงกลัวบาปเกิดขึ้นในใจ ใครเห็นไม่เห็นก็ไม่กล้าทำความชั่วอีกต่อไป ย่อมรักษาศีล 5 ได้เป็นปกติเป็นมนุสสเทโว มนุษย์ที่มีคุณธรรมในจิตใจเหมือนเทวดา
วิชชาความรู้เหล่านี้ เป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าที่สุดที่ทำให้เป็นสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า ขอเพียงเรานั่งลงหลับตาทำสมาธิ วางใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย จุดที่กิเลสมารครอบงำไม่ได้
วันที่ 10 ตุลาคม ของทุกปี ควรเป็นวันที่ชาวโลกหันมานั่งสมาธิ มุ่งสู่สันติสุขภายในโดยไม่เลือกเชื้อชาติผิวพันธ์ สำหรับชาวพุทธควรเป็นวันที่เรามานั่งสมาธิร่วมกัน กลั่นใจให้ใสบริสุทธิ์นึกถึงพระคุณอันไม่มีประมาณของพระเทพมงคลเทพมุนี หากไม่มีท่านเราคงไม่รู้ว่า ศูนย์กลางกายอยู่ที่ไหน สำคัญที่สุดกับชีวิตของเราอย่างไร
ชีวิตคงหลงทางมาร เกิดมาสูญเปล่า ตายฟรี แทนที่จะได้สั่งสมเสบียงบุญติดตัว กลับต้องแบกบาปติดตัวในตกอบาย
แต่เพราะมหากรุณา ของพระมงคลเทพมุนี ท่านเทศน์สั่งสอนให้เรานั้นรู้จนสิ้นสัยว่า นรก สวรรค์ นิพพาน นั้นมีจริง กายตรัสรู้ธรรมกายในตัวมนุษย์ทุกคนนั้นมีจริง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ ก็ทรงอาศัยกายธรรมนี้ตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อพระองค์ทรงสั่งสมบุญบารมีเต็มเปี่ยมทั้ง 30 ทัศ โลกนี้จึงจรัสแสงแห่งธรรมสว่างไสวขึ้นมาอีกครั้งเหมือนย้อนยุคพุทธกาล
บทสารคดี รัตนวนาลี
09/10/57