ซักวันอาจเป็นเรา.. !!
ในร้านอาหารแห่งหนึ่งบริกรสาวคนหนึ่งไม่ทันระวังทำน้ำซุปในจานหกใส่กระเป๋าลูกค้าที่วางอยู่บนเก้าอี้ ลูกค้าหงุดหงิดจนเกือบจะลุกขึ้นมาอาละวาด แต่ยังไม่ทันจะได้เริ่ม ลูกสาวที่มากับคุณแม่เจ้าของกระเป๋าก็ลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปหาพนักงานเสิร์ฟคนนั้น พร้อมตบบ่าของเธอแล้วพูดว่า....
"ไม่เป็นไร"
พนักงานตกใจหน้าตาตื่นบอกว่า จะรีบไปหาผ้ามาเช็ดทำความสะอาดให้เดี๋ยวนี้ ลูกสาวตอบว่า
"ไม่เป็นไรคะเดี๋ยวเอากลับบ้านซักให้สะอาดก็โอเคแล้วไปทำงานต่อเถอะ ไม่เป็นไรจริงๆ"
ลูกสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเหมือนคนที่ทำผิดนั้นคือเธอเอง แม่จ้องลูกสาวแทบจะอดกลั้นความโกรธเอาไว้ไม่ไหว
...คืนวันนั้นเองพอกลับถึงโรงแรม เธอและลูกนอนลงบนเตียง ลูกสาวของเธอถึงได้เล่าให้ฟังว่า.....
ตอนเรียนอยู่ลอนดอนเป็นเวลา 3 ปีนั้น ที่พ่อและแม่ไม่ยอมให้ลูกกลับบ้านตอนซัมเมอร์ เพราะอยากจะให้ลองใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ให้ลองหางานทำและเที่ยวเล่นระหว่างปิดเทอม
...ลูกสาวของเขา เป็นคนร่าเริงชอบเที่ยวเล่น แต่ไม่เคยทำงานบ้าน แต่พอต้องมาอยู่อังกฤษเธอเลือกที่จะรับจ๊อบเป็นพนักงานเสิร์ฟ เพื่อหาเงินค่าขนม วันแรกที่ทำงานก็โชคร้ายซะแล้ว เธอถูกแบ่งหน้าที่ให้ไปล้างแก้วไวน์ แก้วไวน์ของที่ร้านเป็นแก้วไวน์อย่างดีใสและบาง แค่ใช้แรงเยอะนิดหน่อยก็เหมือนจะแตกคามือยังไงอย่างงั้น
...ลูกสาวล้างแก้วอย่างระมัดระวังจนเสร็จ แค่เธอเผลอหันตัวไปนิดเดียวชนเข้าที่แก้วใบหนึ่ง เท่านั้นล่ะแก้วทั้งหมดก็แตกเต็มพื้น
"แม่รู้มั้ย ตอนนั้นความรู้สึกของหนูมันเหมือนตกนรกทั้งเป็นเลยล่ะ"
ลุกสาวเล่าต่อ ว่าแล้วเจ้าของร้านก็เดินเข้ามาพูดกับเธอว่า
"เธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย"
แล้วก็รีบบอกให้พนักงานคนอื่นๆ รีบมาช่วยกันเก็บเศษแก้วที่พื้นให้สะอาด
...อีกครั้งหนึ่ง... ตอนลูกสาวกำลังเทเหล้า เธอไม่ทันระวังเทไวน์ไปเลอะกระโปรงสีครีมของลูกค้าเข้า ตอนแรกเธอคิดว่าจะต้องโดนลูกค้าเอาเรื่องจนออกจากงานแน่ๆ ไม่คิดเลยว่าลูกค้าจะบอกว่า....
"ไม่เป็นไรหรอกคราบเหล้าเองซักไม่ยาก"
แล้วก็ลุกขึ้นมาตบบ่าลูกสาวและเดินไปห้องน้ำ
"แม่คะหนูเคยได้รับการให้อภัยจากการกระทำที่หนูไม่ได้ตั้งใจมาหลายต่อหลายครั้ง หนูอยากให้แม่คิดว่าพนักงานคนนั้นก็เหมือนลูกสาวของแม่ ให้อภัยเขาเถอะนะคะ"
...คนเราก็มีโอกาสทำผิดพลาดกันได้ทั้งนั้น แต่สิ่งที่ทุกคนอยากได้นั้นบางครั้ง.....ก็แค่เพียงโอกาสค่ะ...
@ ที่มา เรื่องดีๆ ของชีวิต @