โอวาทหลวงปู่วัดปากน้ำ
ตอนที่ 38 โดยสิงหล 6 ก.ย. 58 (ต่อจากตอนที่36)
ทีนี้เราก็เลยฟื้นขึ้นมา พอกลับมานี่นะหิวแต่น้ำ ดื่มเอาๆ ตอนที่สลบไป สลบไปถึง 14 วันนะ แต่ไม่แข็งนะไม่เน่า แต่โลงนะมีแล้วเขาซื้อมา แต่แม่ไม่ให้ใส่โลง แม่ก็จุดแต่ธูป จุดธูปเป็นกระบุงเลย แม่บอกว่าซื้อธูปที 200 บาท แล้วตอนที่เรานอนสลบอยู่นั้น แม่ก็ไปหาหลวงพ่อองค์หนึ่งชื่อหลวงพ่อทอง วัดสุน หลวงพ่อองค์นี้ได้เรียนวิชชาธรรมกายมาจากหลวงพ่อวัดปากน้ำ แล้วทีนี้ท่านก็ใช้ให้เด็กไปตามมา มีหลวงพ่อวัดปากน้ำไปด้วย จึงเห็นเด็ก เห็นพระธรรมกาย เห็นหลวงพ่อวัดปากน้ำ พระธรรมกายท่านก็เหมือนนั่งอยู่บนแผ่นกลม หลวงพ่อวัดปากน้ำก็อยู่บนแผ่นฌานอันเดียวกับพระธรรมกาย รัศมีสว่างมาก โชคดีที่หลวงพ่อไปตามมา ผมถึงอยู่ได้ทุกวันนี้ ตอนที่เราขาดใจไป เตี่ยก็ช่วยเราไม่ได้ แม่ก็ช่วยเราไม่ได้ ได้แต่กอดเราไว้ อุ้มเราไว้ ผมซึ้งใจหลวงพ่อมาก เพราะตอนที่เราไปลาหลวงพ่อสึกออกมาเมื่อครั้งเป็นเณรนั้น ท่านบอกว่า "
เอ็งนี่ต้องสึกว๊ะ ไม่สึกแล้วอยู่ไม่ได้ ถ้ามึงอยู่ได้แล้วมึงสบาย หลวงพ่อต้องห่วง ยังไงพ่อไม่ทิ้งเอ็งแน่ แต่เอ็งอย่าทิ้งพ่อก็แล้วกัน"ท่านพูดอย่างนี้วันที่ลาสึกนะ
หลังจากที่เราสลบไปตอนนั้น แม่อายุ 60 ปี แม่ก็ป่วย แกเบื่อก็เลยมาบวช ส่วนผมก็ทำงานมากขึ้นก็เลยป่วยอีก แม่จึงไม่ให้ทำงานให้มาอยู่วัดปากน้ำ อายุ 19 ก็มาบวชอีกที ตอนนั้นหลวงพ่อวัดปากน้ำท่านมรณภาพแล้ว ตอนมาบวชแล้วก็เรียนนักธรรม เนื่องจากเคยได้นักธรรมตรี แล้วจึงต่อนักธรรมโท นักธรรมเอกเลย แล้วลุงก็มาติดต่อกับหลวงพ่อช่วง เอาผมมาฝากไว้ที่วัดพระเชตุพนฯ ผมก็ชักอีกนะ ชักบ่อย จนกระทั่งมาเรียนธรรมะ มาฟื้นฟูอีกจนอายุ 21 หลังจากบวชเณรมา 3 พรรษา ก็บวชเป็นพระอีก 4 พรรษา ชักอยู่จนถึงอายุ 32 ปีก็หายขาด
แล้วที่หลวงพ่อบอกว่าจะไม่ทิ้งเราก็ไม่ทิ้งเราจริงๆนะเพราะจนอายุ 49 แล้วผมก็ยังป่วยอีก ก็เลยรู้ว่าสิ่งที่หลวงพ่อพูดเป็นเรื่องจริง ท่านมาแต่ไม่ได้มาเป่าอะไรให้ หลวงพ่อท่านมาให้เห็นเป็นรัศมีที่ศูนย์กลางกาย ทำให้เราชื่นใจ ท่านมาบ่อย ตอนจะชักก็ไม่ชัก พอท่านมาก็หาย ช่วงก่อนเคยไปชักในรถ แต่พอช่วงหลังเห็นแสงก็หาย ตอนหลังหายจากโรคนี้เลย พอเราหายดีแล้วหลวงพ่อท่านก็หายไป ส่วนเรื่องการมีครอบครัวหลวงพ่อท่านเคยพูดไว้ว่า ผมจะไม่ได้มีเมียคนเดียว ต้องมี 3 คน หรือไม่ก็ 5 คน ทุกวันนี้ผมมี 3 คนแล้ว เรื่องผู้หญิงต้องเจอเพราะต้องใช้กรรม ปกติแล้วหลวงพ่อท่านจะไม่พูดเรื่องอย่างนี้เท่าไหร่ แต่จะให้เราปฏิบัติ หลวงพ่อท่านจึงเมตตาสั่งสอนให้ และในช่วงสุดท้ายของชีวิตผมจึงตัดสินใจ เข้ามาบวชในร่มเงาของพระพุทธศาสนา เพื่อใช้เวลาที่เหลือในการปฏิบัติภาวนาให้มากที่สุด
นี้คือเรื่องราวบางช่วงของ ชีวิตสามเณรจุลณี เณรน้อย หรือพระเตชวันในปัจจุบัน ที่หลวงพ่อได้ช่วยชีวิตให้พ้นจากความตายและมีโอกาสได้ปฏิบัติ วิชชาธรรมกายกับท่าน นอกจากนี้ยังเป็นพยานเอกสำคัญยืนยันถึงทายาทคนสำคัญ ที่จะสืบทอดวิชชาธรรมกาย ให้คงอยู่จนถึงยุคของอายุพระพุทธศาสนา กว่า2500 ปี
(เรื่องเล่าโดย พระเตชวัน อาภากโร บุคคลยุคต้นวิชชาเล่ม1)