ฉบับที่ 57 กรกฏาคม ปี 2550

We are all One เราทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน

สมาธิเปลี่ยนชีวิต
เรื่อง : Son Backhome E-mail: [email protected]


 

"เด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาว" วาทะของไอสไตน์ประโยคนี้แฝงความหมายที่ลึกซึ้งและเป็นอมตะเสมอเนื่องเพราะความเป็นไปของทุกสรรพสิ่งในโลกล้วนมีความสัมพันธ์กัน

        และในยุคที่คำว่า "สมานฉันท์" ติดหู ติดปาก เสียงไถ่ถามถึงสันติภาพอื้ออึงไปทุกตารางนิ้วบนแผนที่โลก หากทว่าภาพเหล่านั้น ยังห่างตาและห่างใจเพราะมนุษย์ยังมีเส้นแบ่ง หรือขีดเส้นแบ่งแยก หัวใจให้ห่างกันนั่นเอง

      มีเรื่องน่าเปรมปรีดิ์เกิดขึ้นในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เส้นแบ่งต่างๆ ถูกลบออกไปและพาหัวใจมาร่วมค้นหาความเป็นสันติสุขร่วมกัน

       คุณเจเนต เอลลิส ชาวอเมริกัน จากเมืองอาร์ลิงตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เธอนับถือศาสนาคริสต์ แต่หัวใจของเธอเปิดกว้างนับถือยอมรับข้อดีของทุกนิกายและทุกศาสนาด้วย 

        คุณเจเนต เล่าว่า "วันหนึ่งฉันขับรถผ่านวัดภาวนาเท็กซัส และเห็นป้ายคำว่า ศูนย์ปฏิบัติธรรม ก็รู้สึกปิ๊งขึ้นมาทันที จึงแวะเยี่ยมชมและตั้งแต่ครั้งที่มาเยี่ยมชมวัด ดิฉันก็มีโอกาสได้ร่วมปฏิบัติธรรมด้วย ความจริงดิฉันก็เคยนั่งสมาธิมาเป็นเวลากว่า๒๐ ปีแล้ว โดยวิธีการ คือ นึกถึงภาพที่ทำให้มีความสุข เช่น สายน้ำ ธารน้ำตก และในช่วงเวลาที่ใจสงบมากๆดิฉันจะรู้สึกว่าร่างกายหายไปสู่ในที่ที่สงบ แต่สถานที่นั้นรู้สึกเหมือนมีใครสักคนอยู่ แต่ดิฉันก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร ซึ่งดิฉันมักจะเห็นแสงสว่างเป็นประจำและทุกครั้งที่เกิดแสงสว่าง ภายในตัว ดิฉันจะรู้สึกมีความสุขมาก ซึ่งทำให้ดิฉันคิดว่า ไม่ว่าที่มาของความสว่างนั้นจะเป็นพระเจ้า(God) หรืออะไรก็ตาม แต่นี่คือแหล่งแห่งสันติสุข ที่ดิฉันอยากให้คนทั้งโลกได้เข้าถึงความรู้สึกนี้

ดิฉันได้ชักชวนเพื่อนคริสต์ศาสนิกชนจากที่ต่างๆ มาฝึกสมาธิ โดยได้นิมนต์พระอาจารย์จากวัดภาวนาเท็กซัส ไปแนะนำสมาธิและพระพุทธศาสนาเบื้องต้น เพื่อนๆทุกคนให้ความสนใจ และส่วนใหญ่ยังไม่มีความรู้เรื่องศาสนาพุทธมากนัก จึงอยากจะเรียนรู้และทำความเข้าใจให้มากขึ้น เพื่อจะนำสิ่งดีๆ มาใช้ดำเนินชีวิตและอยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุข

 

 

ปัจจุบันดิฉันนั่งสมาธิทุกวัน ถ้าวันไหนยุ่งมากๆ ดิฉันก็จะ " Movment Meditation" หรือตรึกสมาธิในทุกอิริยาบถ ฉันหยุด การทำสมาธิไม่ได้ แต่ฉันสมารถ หยุดใจในสมาธิได้

       หลังจากที่ดิฉันได้ศึกษาสมาธิตามคำสอน ของพระอาจารย์ ดิฉันได้ลองมานั่งด้วยวิธีการเอาใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย ทำให้ใจของดิฉันเข้าสู่ภายในได้เร็วขึ้นกว่าที่เคยปฏิบัติมา มีความสุขอย่างง่ายๆ ได้รับความสุขมากยิ่งขึ้น อย่างที่ไม่เคย เป็นมาก่อน มีแสงสว่างเกิดขึ้นภายในตัว แต่เป็นความสว่างที่ไม่ร้อน กลับรู้สึกสดชื่นมากๆ และ ทุกครั้งที่ดิฉันเห็นความสว่างเกิดขึ้น ดิฉันมีความสุขมาก แตกต่างกว่าที่เคยเป็นมาก่อน สมาธิทำให้ดิฉันรู้ว่า ไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาอะไร เพียงแค่ คุณหลับตา นำใจเข้าสู่ภายในตัว คุณก็สามารถพบกับความสุขที่แท้จริงได้ และทุกครั้งที่นั่งสมาธิ ทำให้ดิฉันรู้สึกหายเหนื่อย เหมือนกับว่าเราได้ชาร์จ แบตเตอรี่ ทำให้สดชื่นขึ้นมาทันที ทำให้ดิฉันรัก การนั่งสมาธิมากขึ้นเรื่อยๆ

       จากจุดเริ่มต้นแสงสว่างภายในที่เธอมองเห็น นำไปสู่ความปรารถนาที่จะแบ่งปันเรื่องราวแหล่งแห่งสันติสุขภายในให้แก่ผู้คน

        "ดิฉันได้ชักชวนเพื่อนคริสตศาสนิกชนจากที่ต่างๆ มาฝึกสมาธิ โดยได้นิมนต์พระอาจารย์จาก วัดภาวนาเท็กซัส ไปแนะนำสมาธิิและพระพุทธศาสนาเบื้องต้น เพื่อนๆ ทุกคนให้ความสนใจ และส่วนใหญ่ ยังไม่มีความรู้เรื่องศาสนาพุทธมากนักจึงอยากจะเรียนรู้และทำความเข้าใจให้มากขึ้น เพื่อจะนำสิ่งดีๆ มาใช้ดำเนินชีวิตและอยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุข

        เมื่อทุกคนตอบ "OK" รวมถึงพระอาจารย์ก็ "OK" ใจเราตรงกัน จึงได้มีการรวมตัวกันนั่งสมาธิครั้งแรกที่บ้านเพื่อนของดิฉันในวันนั้นมีเพื่อนๆ มาเรียนการนั่งสมาธิ มีทั้งกลุ่มเพื่อนๆ ทั้งบาทหลวง และชาวคริสต์จากนิกายแคทอลิค และแบ๊บติสท์ รวม ๑๖ คน

         กล่าวได้ว่า ภาพของการประชุมรวมกันและนั่งสมาธิด้วยกันของผู้คนต่างศาสนา เพื่อค้นหาโลกใบเดียวกัน คือ โลกแห่งความสุขภายในในครั้งนี้เป็นภาพอันงดงามที่สุดภาพหนึ่งของโลก เพราะภาพนี้เต็มไปด้วยความสงบอันสว่าง และความสงัดอันเปี่ยมสุข

        "เมื่อนั่งสมาธิเสร็จทุกคนต่างก็พูดเหมือนกันว่า "Peaceful" รู้สึกสงบภายใน อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และเพื่อนก็บอกว่า "ศูนย์กลางกายนี่ล่ะ คือแหล่งรวมของความสุขภายในอย่างแท้จริง"บาทหลวงจาก ยูนิตี้ เชิร์ช บอกว่า จะนิมนต์พระไปนำปฏิบัติธรรม ที่โบสถ์ทุกวันเสาร์ตอนเย็นด้วย

 

       ดิฉันคิดว่า ข้อปฏิบัติบางประการของศาสนาคริสต์มีส่วนคล้ายคลึงกับหลักพระพุทธศาสนา โดย เฉพาะข้อที่ว่า"ความรักอันบริสุทธิ์นั้นอยู่ภายใน และทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเริ่มต้นจากภายในตัวของเรา" ดิฉันรู้สึกชอบมาก ซึ่งตรงกับสิ่งที่หลวงพ่อบอกว่า "สันติภาพเริ่มต้นจากสันติสุขภายใน" ทำให้ดิฉันมีความรู้สึกยอมรับในคำสอนของพุทธศาสนา และเวลาที่มาที่ศูนย์ ดิฉันและเพื่อนๆ ก็ปฏิบัติตามวัฒนธรรมชาวพุทธโดยไม่เคอะเขิน เช่น การสวดมนต์ ไหว้พระ เป็นต้น

        หลังจากได้เข้าถึงแหล่งแห่งความสุขภายในคุณเจเนตก็ไม่ได้ละเลยการปฏิบัติธรรม ยังคงใส่ใจที่จะเอาใจใส่ดูแลความสงบ สว่างภายในอยู่เสมอ

        "ปัจจุบันดิฉันนั่งสมาธิทุกวัน ถ้าวันไหนยุ่งมากๆ ดิฉันจะ "Movement Meditation" หรือ ตรึกสมาธิในทุกอิริยาบถฉันหยุดการทำสมาธิไม่ได้ แต่ฉันสามารถหยุดใจในสมาธิได้ สมาธิสามารถช่วย แก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวันของดิฉันได้เป็นอย่างดีี และช่วยทำให้ใจของดิฉันสงบมีสมาธิ มีสติอยู่เสมอเนื่องจากดิฉันจะต้องพูดและถ่ายทอดความรู้แก่นักเรียน นักศึกษา ผู้เข้าฟังบรรยายต้องเจอคำถาม มากมาย พบปะคนหลายแบบด้วยความสุขที่เกิดจากภายใน จึงทำให้ดิฉันไม่เหนื่อยเลย สุดท้าย ดิฉันอยากจะบอกคนทั้งโลกว่าเราทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน เมื่อใจของทุกคนมาหยุด ณ จุดเดียวกัน คือที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗

       ใช่แล้ว..เราทั้งผองเป็นหนึ่งเดียวกัน หากใจ ของทุกคน เข้าถึงโลกภายในที่ทำให้ชีวิตมีความสุขและเมื่อใดที่โลกภายในใบนั้นแผ่ขยายห่มคลุมโลก ใบนอกที่เรายืนอยู่ โลกใบนี้จักเย็นลงได้ โดยอานุภาพ แห่งโลกภายในที่แผ่ขยายออกมานั้น

       เมื่อเด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาว ประโยชน์ อันใดเล่า ที่เราจะเด็ดให้ดาวสะเทือน เลิกเด็ดดอกไม้เลิกทำร้ายกันและกันแล้วมานั่งหยุดใจ ดอกไม้จะยังงามอยู่กับต้น ดวงดาวไม่สั่นไหว ผู้คนไม่ร้องไห้และความสงบสุขอันสว่างไสวจักเกิดขึ้นบนโลกทุกตารางนิ้ว

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล