ฉบับที่ 96 ตุลาคม ปี2553

วันครูวิชชาธรรมกาย อัญเชิญรูปหล่อทองคำ

ทบทวนบุญ

เรื่อง : พระสมศักดิ์ จนฺทสีโล



วันครูวิชชาธรรมกาย อัญเชิญรูปหล่อทองคำ

เวียนรอบมหาธรรมกายเจดีย์

        ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๓ กันยายน ปีนี้ เป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ อันเป็นวันคล้าย วันที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านยอมสละชีวิตอุทิศเพื่อการปฏิบัติให้เข้าถึงธรรม และในที่สุดท่านก็ได้เข้าถึงธรรมกายเมื่อ ๙๓ ปีที่ผ่านมา พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยจึงดำริ ให้มีการสักการบูชารำลึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ด้วยการอัญเชิญ รูปหล่อทองคำกระทำทักษิณาวรรต คือ เวียนขวารอบมหาธรรมกายเจดีย์ โดยมีทั้งบรรพชิต และคฤหัสถ์มาพร้อมเพรียงกันเป็นจำนวนหลายแสนชีวิต ซึ่งการจัดขบวนแถวธงทิวและขบวนแห่ ได้มีการซักซ้อมเตรียมการมาเป็นอย่างดี เพราะจะมีผู้คนจากทุกสารทิศที่ ปรารถนาจะขอร่วมเดินในขบวนอัญเชิญหลวงปู่ทองคำรอบมหาธรรมกายเจดีย์ แม้จะรู้ว่าเป็นระยะทางที่ยาวไกล แต่ทุกคนหาได้ไหวหวั่น ใครเดินไม่ไหวก็ยังขอให้ลูกหลานช่วยจัดรถเข็นล้อเลื่อนลากจูงกันไป จนสำเร็จสมปรารถนาที่จะแสดงออกซึ่งสักการบูชาและความศรัทธา ในพระเดชพระคุณหลวงปู่ ภาพเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ของวันที่ ๒๓ กันยายน ปีนี้ ถือเป็น ภาพแห่งประวัติศาสตร์อันงดงาม โดยงดงามทั้งจิตใจที่ได้ถูกจารึกไว้แล้วว่าเป็นผู้หนึ่งที่ร่วม พิธีอัญเชิญรูปเหมือนหลวงปู่ และยังงดงามด้วยศรัทธาที่พร้อมใจกันมาเดินขบวนด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย ในมือถือ "สายศีล" ซึ่งเป็นสายเชือกแห่งศรัทธาที่ได้ร่วมกันฟั่นมาจากเส้นด้าย จนกลายเป็นเกลียวเชือกที่แข็งแรงแน่นเหนียว ประดุจดั่งศรัทธาที่เหนียวแน่น มั่นคงในพระรัตนตรัย



เราคือ...ผู้อัญเชิญพระเดชพระคุณหลวงปู่

พระผู้ปราบมาร

          ในวันอัญเชิญรูปเหมือนทองคำหลวงปู่วัดปากน้ำ ไม่เพียงมีชาวไทยจากทั่วประเทศเท่านั้น ยังมีชาวต่างประเทศหลายท่านเข้ามาร่วมในขบวนอัญเชิญ บางท่านก็ขอแบกเสลี่ยงอัญเชิญรูปหล่อทองคำด้วยตนเอง แม้จะหนักและระยะทางยาวไกล แทนที่จะบอกว่าเหนื่อยแต่กลับดีอกดีใจ บอกว่ามีความประทับใจสุด ๆ ชื่นชมว่าเป็นงานที่จะทำให้โลกตะลึง และยังได้สัมผัสถึงพลังบางอย่างที่มีพลานุภาพมาก อีกทั้งยังได้มาเห็นศรัทธาอันไม่มีประมาณ ที่ลูกหลานของพระเดชพระคุณหลวงปู่จำนวนมหาศาล จากทั่วทุกมุมโลกมุ่งมารวมตัวกันอย่าง สงบ และในแววตาของทุกคนฉายแววศรัทธา เต็มไปด้วยความเลื่อมใส มีความเคารพต่อ
หลวงปู่อย่างเต็มเปี่ยม บางท่านแม้เป็นสตรี แต่ก็เปี่ยมด้วยพลังแห่งบุญ ได้มาร่วมอัญเชิญจักรแก้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนรัตนะ ๗ มีท่านหนึ่งบอกกับนักข่าวชื่อดังที่กำลังเกาะติด สถานการณ์อยู่ว่า "รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะก่อนจะมางานอัญเชิญรูปหล่อหลวงปู่ เหมือนมีคำสั่งออกมาจากศูนย์กลางกายว่า ให้นั่งสมาธิอย่างเข้มข้นและทำใจใส ๆ ทั้งสัปดาห์อย่าง ต่อเนื่อง ซึ่งพอทำแล้ว ใจก็อะเลิร์ตเบิกบานสุด ๆ แต่พอถึงวันอัญเชิญจักรแก้วจริง ๆ ก็รู้สึกว่าหนัก จนนึกกังวลนิด ๆ ว่า เราจะเวียนประทักษิณครบรอบหรือเปล่า และจู่ ๆ ศูนย์กลางกายก็บอกเราว่า ให้นึกถึงหลวงปู่ไว้กลางท้อง ก็นึกไปเรื่อย ๆ อยู่ ๆ หลวงปู่ก็ขยายใหญ่ขึ้นคลุมตัวเรา รู้สึกปีติมาก จากนั้นจึงสวดสรรเสริญท่านไปด้วย พอทำอย่างนี้ ก็รู้สึกเบาทั้งกาย ทั้งใจ ปลื้มสุด ๆ และสามารถอัญเชิญจักรแก้วไปได้อย่างสบาย ๆ"
















เทิดครู บูชาธรรม และขอติดตาม

...ตามติดไปสู่...ที่สุดแห่งธรรม

         อย่างไรก็ตาม การจะแสดงออกถึงความเคารพนับถือต่อพระเดชพระคุณหลวงปู่ หรือจะด้วยการกล่าวพรรณนาคุณของมหาปูชนียาจารย์ผู้เลิศด้วยเมตตาและมีคุณธรรมอันวิเศษนี้ ย่อมกล่าวได้ไม่สิ้นสุด บุคคลใดมีสติปัญญาเท่าใด ก็พรรณนาสรรเสริญคุณท่านได้ตามกำลังสติปัญญา ของตนเท่านั้น แต่พระคุณอันมหาศาลของท่านเกินกว่านั้นหลายเท่านัก หากด้วยปัญญาอันน้อยนิด ประดุจแสงหิ่งห้อยเมื่อเทียบกับดวงตะวัน จึงเชื่อว่าทุกท่านย่อมจะขอนอบน้อมถ่อมใจที่จะศึกษาเรียนรู้ ประพฤติปฏิบัติตามคำสอนของท่าน แม้จะไม่บรรลุผลในชาตินี้ ก็หวังเพื่อให้เป็นอุปนิสัยติดตาม ไปในปรภพเบื้องหน้า โดยพวกเราเหล่าศิษยานุศิษย์กัลยาณมิตรทั้งหลายจะได้เจริญฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา ที่จะดำเนินตามแบบอย่างของท่านให้ก้าวหน้าเรื่อยไป สักวันหนึ่งก็ย่อมจะ เกิดผลและจะรู้ด้วยตัวของเราเองได้ในที่สุด








         ดังนั้น ในปีพุทธศักราช ๒๕๕๓ นี้ เมื่อถึงวาระวันสำคัญที่เนื่องด้วยพระเดชพระคุณหลวงปู่ โดยเป็นวันครบ ๙๓ ปี ของการเข้าถึงธรรมกายของท่าน และในวาระดังกล่าวนี้ ศิษยานุศิษย์และผู้มีบุญทั้งหลาย ย่อมจะถือเป็นโอกาสที่จะร่วมกันรำลึกถึงท่านด้วยการประพฤติปฏิบัติธรรม และจะได้น้อมสรรเสริญท่านด้วยความเคารพศรัทธา สมดังถ้อยพรรณนาในบทกวีทำนองสรภัญญะ อันเลิศด้วยความงดงามแห่งภาษาและความหมายอันลึกซึ้ง ที่จะตราตรึงอยู่ในดวงใจของมหาชน ตลอดไป




ก้มกราบมนัสน้อม วรจอมวิช์ชาจารย์          นบองค์พระทรงญาณ ชินะบุตรชิโนดม

เอกสงฆ์พระนาม"จัน- ทสโร"วิสุทธิ์สม          ทวยเทพมนุษย์พรหม อภิวันทนาการ

ท่านหวังวิมุตติ์พ้น ชนะกลพญามาร          มุ่งสุดนฤพาน อธิญาณพระนำชัย

พลีชีพถวายศาสน์ มุนินาถ ณ เพ็ญใส          หยุดนิ่งสนิทใน หฤทัย ณ กลางกาย

ดวงธรรมสว่างล้ำ พหุธรรมกายพราย          เห็นสุดตลอดสาย วรกายวิเศษศานต์

วิชชาพระชาญเชี่ยว มนะเดี่ยวผจญมาร          ปราบสิ้นกิเลสราน อภิบาลมหาชน

รู้แจ้งกระจ่างจินต์ พระถวิลจะรวมพล          หยุดนิ่งลุมรรคผล อนุสนธิ์พระต้นธรรม์

ยอมตายมิยอมแพ้ มนะแน่มิแปรผัน          กรำศึกทุกคืนวัน สละพลันอุทิศพลี

ใจท่านมิหวั่นไหว จะขยายพระศาสน์ศรี          สร้างพระและคนดี คุณะมีตลอดชนม์

ด้วยเดชะสรรเสริญ สุเจริญพิพัฒน์ผล          ขอพร"พระมงคล- เทพมุนี"พิชิตมาร

อวยชัยมลายโศก นิรโรคลุภัยพาล          สบสุขเกษมศานต์ ธนจักรพรรดิมี

รู้แจ้งพระธรรมา ลุวิช์ชาพระชินสีห์          เปี่ยมบุญญบารมี สุขะสันต์นิรันดร์กาลฯ

"ถึงแม้ท่านจะยัง มีชีวิตอยู่หรือ ล่วงลับไปแล้ว ก็เสมือนกับ นั่งอยู่ในหัวใจ ของมหาชน อยู่เสมอ"





วันครูวิชชาธรรมกาย (โอวาทคุณครูไม่ใหญ่)

การบังเกิดขึ้นของพระเดชพระคุณหลวงปู่บนโลกมนุษย์ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะว่าพญามาร กันนักกันหนาทีเดียว เนื่องจากการที่จะไปปราบมารประหารกิเลสให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษไปถึง ต้นเหตุของพญามารนั้น ต้องมีกายมนุษย์จึงจะเร็วแรง เพราะฉะนั้นพญามารจึงกลัวการบังเกิด กายมนุษย์ของพระเดชพระคุณหลวงปู่มากทีเดียว รวมทั้งกายของทุก ๆ คนในโลกด้วย แต่ว่าเรา แต่ละคนไม่ทราบว่าตนเองมีความสำคัญ เราทุกคนมีสิ่งที่เหมือนกันอยู่ภายในตัว ซึ่งจะเปิดเผย ความลับของชีวิตคือพระธรรมกาย แต่ความลับนี้ถูกปิดตายเหมือนเอากุญแจล็อกไว้ แล้วก็ขว้างกุญแจทิ้งไปเลย จนกว่าจะมีผู้รู้บังเกิดขึ้นในโลก มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น จึงจะมาแนะนำสั่งสอนให้เราเข้าใจ แล้วเราก็จะทิ้งทุกอย่าง ปล่อยวางทุกสิ่ง กลับไปหาเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต เพื่อจะได้หลุดพ้นจากการเป็นบ่าวเป็นทาสของพญามาร

         เมื่อพระเดชพระคุณหลวงปู่มาบังเกิดขึ้นในยุคของเรา ก็ถือว่าเรามีบุญลาภมาก อย่าให้โอกาสดีเป็นวิกฤตของชีวิต การที่เราได้มารู้หลักวิชชาเกี่ยวกับเรื่องการทำใจหยุดนิ่งให้เข้าถึงพระธรรมกาย ถือว่าเป็นบุญลาภของเรา ถ้าไม่มีท่านก็ยากที่เราจะรู้ได้ เพราะคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ถูกบันทึกเอาไว้ตามพระคัมภีร์นั้น เมื่อกาลเวลาผ่านไป ๒,๕๐๐ กว่าปี ก็กระจัดกระจายไปด้วยสาเหตุสงครามบ้าง ทุพภิกขภัยบ้าง ดังนั้น คำสอนจึงไม่ปะติดปะต่อกัน มีคำว่าพระธรรมกายหลงเหลืออยู่ในคัมภีร์เถรวาทบ้าง มหายานบ้าง กระจัดกระจายกันไป แปลความหมายที่แตกต่างกันไป และยากต่อการน้อมนำมาปฏิบัติเพื่อที่จะเข้าถึงได้




 

(เราทุกคนมีสิ่งที่เหมือนกันอยู่ภายในตัว ซึ่งจะเปิดเผยความลับของชีวิต

คือ พระธรรมกาย แต่ความลับนี้ถูกปิดตาย

เหมือนเอากุญแจล็อกไว้ แล้วก็ขว้างกุญแจทิ้งไปเลย)

 

         จนกระทั่งมีการบังเกิดขึ้นของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ซึ่งท่านได้เอาชีวิตเป็นเดิมพัน และค้นพบวิธีการเข้าถึงด้วยการทำใจหยุดนิ่ง เหมือนท่านเอากุญแจมาไขห้องที่เก็บความลับของชีวิตออก โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพันจากประสบการณ์ภายในของท่าน จึงมีถ้อยคำเป็นอมตวาจาว่า "หยุดเป็นตัวสำเร็จตั้งแต่เบื้องต้นจนกระทั่งเป็นพระอรหัต" ใครได้ยินคำนี้ก็ถือว่าเป็นบุญลาภ มีบุญหู บุญตัว บุญใจเหลือเกิน แต่เราจะมีวาสนาที่จะให้โอกาสตัวเองลงมือปฏิบัติไหมเท่านั้น

         วันใดที่มวลมนุษยชาติให้ความสนใจตรงนี้ แล้วลงมือปฏิบัติพร้อม ๆ กัน วันนั้นคือวันที่มารสะดุ้งทั้งภพ ถ้าวันใดมนุษย์เห็นความสำคัญของคำว่า "หยุดเป็นตัวสำเร็จ" หยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ วันนั้นจะเข้าถึงพระธรรมกายกันทุก ๆ คน ความแตกต่างภายนอกซึ่งเป็นสาเหตุของ ความขัดแย้ง การบาดหมางกัน การรบราฆ่าฟันกันก็จะหมดไป

         เพราะฉะนั้นวันนี้เป็นวันดี วันสว่าง กลางวันก็สว่างด้วยแสงอาทิตย์ กลางคืนก็สว่างด้วยแสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ กลางกายของเราก็ต้องสว่างด้วยแสงธรรม เช่นเดียวกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ของเรา เพราะฉะนั้นการอัญเชิญหลวงปู่รอบมหาธรรมกายเจดีย์ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อพวกเราและเพื่อนมนุษย์ รวมทั้งสรรพสัตว์ทั้งหลายมาก เราจึงต้องให้ความสำคัญกับวันนี้ และให้อาราธนาพระเดชพระคุณหลวงปู่เชื่อมสายบุญสายสมบัติจักรพรรดิให้เรา เราจะได้มีอุปกรณ์ ในการสร้างบารมีไปทุกภพทุกชาติตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม อย่าให้พญามารตัดบุญ ตัดสายสมบัติของเราได้ เพราะจุดหมายปลายทางยังยาวไกล จะไปถึงตรงนั้นได้ต้องมีบุญบารมีมาก จะมีบุญบารมีมากก็ต้องสร้างบุญบารมีมาก ๆ จะสร้างได้มากก็ต้องมีทรัพย์ในระดับสมบัติจักรพรรดิมาก ๆ เมื่อมีมากอย่างนี้ความสะดวกสบายก็เกิดขึ้นกับกายมนุษย์หยาบ เมื่อกาย มนุษย์หมดห่วง หมดกังวลกับเรื่องภายนอก ก็จะทำให้ใจกลับมาสู่ที่ตั้งได้ง่าย แปลว่า อำนวยความสะดวกให้กายมากเพียงใด ก็เท่ากับอำนวยความสะดวกให้ใจกลับมาตั้งที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ มากเพียงนั้น เราจึงจำเป็นต้องมีสายบุญและสายสมบัติมาก ๆ แต่อย่างไรก็ตาม มารก็คือมาร ไม่ใช่หมู เป็นคู่ต่อสู้สำคัญของฝ่ายพระ ฝ่ายบุญล้วน ๆ เราก็อยู่ในสายตาเขาเช่น เดียวกัน เขาก็พยายามจะตัดรอนสมบัติของเรา บุญของเรา ด้วยการทำให้เราหงุดหงิด ขัดเคืองใจ ในหลาย ๆ สาเหตุ หลาย ๆ ประการ ซึ่งเราต้องรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของพญามารให้ดี และก็ทำให้ถูกหลักวิชชา อย่าให้พญามารหัวเราะเยาะเราได้ ดังนั้นต้องรักษาใจให้ใส ๆ และนึกถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่อยู่กลางกาย

 
บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล