ฉบับที่ 97 พฤศจิกายน ปี2553

พิธียกยอดมหาวิหารพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)

ทบทวนบุญ

เรื่อง : พระสมศักดิ์ จนฺทสีโล







พิธียกยอดมหาวิหารพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)

พระผู้ปราบมาร

ณ แผ่นดินดอกบัว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรบุรี

..............................

โอวาทพระราชภาวนาวิสุทธิ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------

          วันนี้เป็นวันสำคัญที่เนื่องด้วยพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) พระผู้ปราบมาร เป็นวันคล้ายวันเกิดด้วยรูปกายเนื้อของท่าน ที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี หากท่านยังมีชีวิตอยู่ก็จะครบวาระ ๑๒๖ ปี

           วันนี้มีพิธีกรรมที่สำคัญในภาคเย็น ที่เราจะไปร่วมกันประกอบพิธีสถาปนาอนุสรณ์ สถานแดนเกิดด้วยรูปกายเนื้อของท่านเป็นแห่งแรกในเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ ด้วยการ อัญเชิญยอดมหาวิหารขึ้นไปประดิษฐาน ณ มหาวิหารพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) พระผู้ปราบมาร และร่วมกันประกอบพิธีเปิดม่านมงคลรูปหล่อทองคำพระมงคลเทพมุนี เพื่อเป็นที่เคารพสักการะแก่มนุษย์และเทวา

           พระเดชพระคุณหลวงปู่ คือมหาปูชนียาจารย์ที่มีพระคุณต่อชาวโลกเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากไม่มีการบังเกิดขึ้นของท่านในวันนี้ เมื่อ ๑๒๖ ปีที่ผ่านมา เราก็คงต้องควาน หาหนทางที่จะปฏิบัติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ถูกหลักวิชชาด้วยตัวของ เราเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยาก ไม่ใช่ง่ายเลย

           แต่เมื่อมีการมาเกิดขึ้นด้วยรูปกายเนื้อของท่าน ทำให้เราได้ทราบถึงวิธีการ ในการปฏิบัติธรรม เพื่อเป็นพยานในการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั่นคือ "หยุดเป็นตัวสำเร็จ" ซึ่งถ้อยคำอมตวาจานี้บังเกิดขึ้นเมื่อพระเดชพระคุณหลวงปู่ได้ ออกบวช เกิดใหม่ในเพศสมณะ เมื่อตอนอายุ ๒๒ ปี บวชมาได้ถึงกลางพรรษาที่ ๑๒ อายุประมาณ ๓๓ ปีเศษ ท่านสละชีวิตอุทิศเป็นพุทธบูชา ในการบำเพ็ญสมณธรรม ที่วัดโบสถ์บน บางคูเวียง จังหวัดนนทบุรี ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ โดยตั้งสัตยาธิษฐานว่า วันนี้จะเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ถ้าท่านไม่พบหนทางแห่งการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านจะไม่ลุกจากที่ ยอมตาย คำของท่านคือ "ไม่ได้ตายเถอะ"

            แล้วในที่สุดด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพันของท่าน ใจจึงหยุดนิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ แล้วก็เห็นไปตามลำดับ เห็นกายในกาย เห็นเวทนาในเวทนา เห็นจิตในจิต เห็นธรรมในธรรม หรือพูดง่าย ๆ ว่าท่านเห็นกายต่าง ๆ ซ้อนกันอยู่ภายใน อย่างที่ไม่เคยรู้เห็นมาก่อน และที่สำคัญได้เข้าถึงพระธรรมกาย ซึ่งเป็นกายตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นกายที่ประกอบไปด้วยลักษณะมหาบุรุษครบถ้วนทุกประการ สวยงามมาก เกตุดอกบัวตูม โดยผ่านเส้นทางสายกลางภายใน ด้วยการนำใจมาหยุดนิ่ง จนกระทั่งกายกะเทาะร่อนหลุดถอดออกเป็นชั้น ๆ เหมือนเราลอกเปลือกหัวหอมออกเป็นชั้น ๆ อย่างนั้นเข้าไปเห็นกายในกายซ้อน ๆ กันอยู่ ท่านก็ถอดกายได้เป็น ชั้น ๆ กระทั่งเข้าถึงธรรมกาย

           แล้วหลังจากนั้นท่านก็เป็นพยานแห่งการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ศึกษาค้นคว้าเรื่อยมาทั้งภาคปริยัติและภาคปฏิบัติ เพื่อให้สอดคล้องกันว่า ในภาค ปริยัติ หรือภาคทฤษฎีที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า ธรรมกาย คือ พระตถาคตเจ้า พระตถาคตเจ้า คือ ธรรมกาย ส่วนกายหยาบนั้นเป็นกายมหาบุรุษ ส่วนกายที่ทำให้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น คือ ธรรมกายที่อยู่ภายในองค์ท่าน

           กายมหาบุรุษเหมือนแค่เป็นเปลือก เป็นตัวถัง เป็นทางผ่านให้เข้าถึงธรรมกาย กายมหาบุรุษยังไม่ใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะได้มาตั้งแต่วันแรกประสูติแล้ว เจริญวัยขึ้นมาเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ องค์รัชทายาทแห่งกรุงกบิลพัสดุ์ แต่สิ่งที่ทำให้ท่านดับกิเลสอาสวะทั้งหลายทั้งปวงได้ก็ขจัดด้วยธรรมกาย ด้วยวิธีการทำใจหยุดนิ่ง ตั้งแต่เบื้องต้นจนกระทั่งเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า หยุดนิ่งอย่างเดียวที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตรงนี้ ไม่ได้ทำอะไรที่นอกเหนือจากนี้ แล้วพระองค์ก็เทศนาสั่งสอนอย่างนี้เรื่อยมา จนกระทั่งดับขันธปรินิพพาน

           มีถ้อยคำบางประโยคที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ เช่น คำว่า "สมณะหยุดแล้ว" ที่ตรัสแก่องคุลิมาล "หยุด" ในที่นี้ ไม่เพียงแค่หยุดการทำบาปทั้งปวง แต่หมายถึง ใจหยุดนิ่งแน่นอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ กลางกายธรรมอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า หยุดอย่างเดียว คำ ๆ นี้ลึกซึ้งนัก

           เมื่อกาลเวลาผ่านมา คำว่า "ธรรมกาย" ถูกแปลไปตามความเข้าใจของนักคิด นักทฤษฎี ซึ่งมีมากมาย ทำให้ผู้มาภายหลังยากต่อการปฏิบัติที่จะเป็นพยานในการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ จนมีการบังเกิดขึ้นของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ของเราเมื่อ ๑๒๖ ปี และ ๙๔ ปีที่ผ่านมาท่านก็ได้บรรลุธรรมกาย เป็นพยานแห่งการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลังจากนั้นท่านก็เทศน์สอนโปรดผู้มีบุญที่ วัดบางปลาเป็นปฐมเริ่ม ให้ได้บรรลุธรรมกายตามท่านได้อย่างอัศจรรย์ทีเดียว คล้ายกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดท่านปัญจวัคคีย์

           ต่อมาท่านได้เป็นสมภารวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และได้ศึกษาค้นคว้าเรื่อยไปด้วย วิธีการหยุดนิ่งในกลางธรรมกายเข้าไปเรื่อย ๆ ศึกษาไปด้วย สอนไปด้วย จนกระทั่งท่านได้ค้นพบเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตที่ยิ่งกว่าที่ท่านเคยพบ คือเรื่องของพญามาร ที่ปล่อยมาร ๕ ฝูง ตั้งแต่กิเลสมาร เทวบุตรมาร มัจจุมาร ขันธมาร และอภิสังขารมาร มาปกครองสรรพสัตว์สรรพสิ่งทั้งหลายให้ตกเป็นบ่าวเป็นทาสของพญามารเรื่อยมา ตั้งแต่ เริ่มมีธาตุ มีธรรม มีเห็น จำ คิด รู้ มีกุศลาธรรมมา อกุศลาธรรมมา อัพยากตาธรรมมา คือ ธรรมที่เป็นกุศล ธรรมที่เป็นอกุศล และธรรมที่เป็นกลาง ๆ ไม่บุญ ไม่บาป

           ท่านปะทะกับมารตั้งแต่ตอนนั้น จนรู้เรื่องราวว่า การบังเกิดขึ้นของท่านด้วยกายมนุษย์ในแต่ละภพแต่ละชาติ เกิดมาเพื่อมาปราบมารประหารกิเลสให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษด้วยการทำใจหยุดนิ่งเรื่อยไป ตั้งแต่นั้นมาท่านก็ได้สู้รบปรบมือกับพญามาร สอนศิษยานุศิษย์จนเป็นทีม ทำกันไปเป็นทีม เหมือนกองทัพธรรมที่สู้รบโดยไม่ต้องใช้อาวุธยุทโธปกรณ์แบบทหาร หรือการรบทางโลก ไม่มีการสูญเสีย ไม่มีการพลัดพราก ไม่มีความเศร้าโศกเสียใจแบบการรบทางโลก

           แต่การรบกับพญามารภายใน รบด้วยอารมณ์บันเทิง ผ่อนคลาย มีความสุข มีความบริสุทธิ์เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ สู้รบปรบมือกับพญามารด้วยการทำใจหยุดนิ่งแน่นเข้าไปเรื่อย ๆ ยิ่งหยุดยิ่งนิ่งก็ยิ่งดิ่งไม่หยุด ดิ่งไม่ยั้ง ยิ่งหยุดยิ่งเร็ว ยิ่งหยุดยิ่งสว่าง ยิ่งมีความสุข ยิ่งเห็นแจ้งรู้แจ้งแทงตลอดในธรรม แทงตลอดเหมือนเข็มที่ร้อยลงไปในพวงดอกมะลิ แต่นี่ร้อยเข้าไปในไส้กลางของกลางภายในของตนเอง ของสรรพสัตว์ สรรพสิ่งทั้งหลาย ตลอดจนกระทั่งพญามาร รบด้วยอารมณ์บันเทิง ความบริสุทธิ์ยิ่งเกิดขึ้น เพิ่มขึ้น ขยายมากขึ้นไปตามกำลังแห่งการหยุดนิ่งที่ทำตลอด ๒๔ ชั่วโมง โดยแบ่งออกเป็น ๒ กะ ทำกันไปอย่างนี้ทั้งปราบมารทั้งเทศน์สอนจนกระทั่งท่านหมดอายุขัย

           และเนื่องจากวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดด้วยรูปกายเนื้อของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ของเรา ซึ่งเรามีพิธีกรรมสำคัญคือพิธียกยอดมหาวิหารขึ้นไปประดิษฐานที่มหาวิหารของท่าน แล้วก็จะพร้อมใจกันเปิดม่านมงคลรูปหล่อทองคำ เพื่อให้มนุษย์และเทวา ผู้มีบุญทั้งหลายได้เคารพสักการบูชาพระผู้ปราบมาร

           เพราะฉะนั้น วันนี้เป็นวันที่เนื่องด้วยท่าน และมีพิธีกรรมอันเป็นประวัติศาสตร์ ในการสถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ ก็ขอให้ผู้มีบุญทุก ๆ ท่าน นึกน้อมเอาภาพพระเดชพระคุณหลวงปู่ จะเป็นภาพใดก็ได้ โดยเฉพาะภาพพระเดชพระคุณหลวงปู่ทองคำ ที่เราได้ปิดแผ่นทองที่องค์ท่าน นึกน้อมอาราธนาท่านให้มาสถิตอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ ให้ท่านหันหน้าออกไปทางเดียวกับตัวของเรา

           อาราธนาท่านให้กลั่นกาย วาจา ใจ ของเราให้ใส สะอาด บริสุทธิ์ จะได้เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ แล้วก็จะได้คุมบุญเชื่อม สายสมบัติ ทั้งโลกิยทรัพย์และอริยทรัพย์ให้ติดตัวเราทั้งในปัจจุบันนี้ และในภพชาติเบื้องหน้าไปทุกภพทุกชาติตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม

           ทำจิตให้เลื่อมใส ด้วยความเคารพบูชาในพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร ที่การบังเกิดขึ้นของท่านทำให้เราได้เข้าใจแจ่มแจ้งในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้เราดำเนินชีวิตได้ถูกต้อง ปิดอบาย ไปสวรรค์ และมีความสุขในปัจจุบัน

           ให้มีปีติภาคภูมิใจที่เราเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ที่มีส่วนร่วมในการสถาปนามหาวิหาร อนุสรณ์สถานที่ประดิษฐานรูปหล่อทองคำองค์ท่าน เป็นต้นทางในเส้นทางของมหาปูชนียาจารย์

 
บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล