ฉบับที่ 58 สิงหาคม ปี 2550

ธรรมะอินเทรนด์ : วันแม่ .. วันลูก

ธรรมะอินเทรนด์
เรื่อง : ชนนี e-mail: crystalball072 @ hotmail.com
     "ปีหนึ่งมีวันแม่วันเดียว อีก ๓๖๔ วันเป็นวันลูก" เสียงรำพึงเหล่านี้อาจไม่ได้เป็นเรื่อง จริงจังอะไรนัก แต่ก็สื่อให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของแม่ลูกในสังคมปัจจุบันได้ไม่น้อยทีเดียว

       ตามธรรมชาติแล้วแม่และลูกมีความสัมพันธ์ กันอย่างลึกซึ้งตั้งแต่ลูกถือกำเนิดขึ้นมาในครรภ์ ของแม่ สารอาหารที่ผ่าน
มาทางเลือดของแม่ค่อยๆ เสริมสร้างส่วนต่างๆ ในร่างกายลูก จนกระทั่งเวลาผ่านไป ๒ สัปดาห์ปากน้อยๆ ของลูกก็เกิดขึ้น
๓ สัปดาห์ลูกเริ่มมีตา ปลายสัปดาห์ที่ ๓ หัวใจเริ่มเต้น ในสัปดาห์ที่ ๘ ลูกมีอวัยวะทุกอย่างครบถ้วน สัปดาห์ที่ ๔๐ นัยน์ตาม
ีสีเฉพาะตามเชื้อชาติ ร่างกายสมบูรณ์เต็มที่พร้อมจะออกมาดูโลก

       เมื่อลูกคลอดออกมาแล้ว แม่ก็มีหน้าที่ ที่ต้องทำเพื่อลูกมากมาย ที่สำคัญที่สุด คือ เลี้ยงดูและอบรมสั่งสอนด้วยความรัก
อย่างเต็มที่ เต็มกำลังของท่าน จนลูกเติบใหญ่โดยไม่มีค่าจ้างหรือสัญญาตอบแทนใดๆ เรียกได้ว่า ในฐานะที่เป็นลูก เราได้รับสิทธิมากมายมหาศาลจากแม่

       แต่มนุษย์เราเกิดมาไม่ได้มี "สิทธิ" เพียงอย่างเดียว แต่ยังมี "หน้าที่" ตามมาด้วยเป็นของคู่กัน และหน้าที่ระหว่างแม่ลูกนั้น ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ดีเสมอไป บางคนเมื่อเป็นลูกอาจจะเป็นลูกที่ดี แต่เมื่อมาเป็นแม่ อาจจะไม่ใช่แม่ที่ดีก็ได้ เพราะการ
เลี้ยงลูกให้ดีไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงแม้ว่าโดยปกติแล้วแม่ทั่วโลกต่างก็รักลูกและอยากเลี้ยงลูกให้ดีก็ตาม

        แต่..ความรักอย่างเดียวคงยังไม่พอ ความพร้อมในด้านต่างๆ ของแม่ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ
อีกมากมาย ที่แตกต่างกันไปตามสภาพสังคม ประเพณี วัฒนธรรม ฯลฯ สิ่งเหล่านี้มีส่วนกำหนดให้แม่แต่ละคนทำหน้าที่
ได้แตกต่างกันดังตัวอย่างของแม่ชาวจีนใน ๒ ยุค ที่ต่างก็มีความรักลูกเช่นกัน แต่การเลี้ยงลูกกลับต่างกันราวดินกับฟ้า

       ในอดีต ประชากรจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วไปต่ำกว่ามาตรฐานมาก ปัญหาต่างๆ รุมเร้า ทำให้แม่ไม่มีความพร้อมที่จะดูแลลูกๆ ได้อย่างทั่วถึง ลูกจึงขาดแคลนทั้งเรื่องอาหารการกิน การศึกษา การอบรมสั่งสอน การดูแลด้านสุขอนามัย ฯลฯ ต่อมาในค.ศ. ๑๙๗๙ รัฐบาลจีนมีนโยบายให้แต่ละครอบครัวมีลูกคนเดียว เพื่อควบคุมจำนวน
ประชากร ภาพเด็กจีนผู้หิวโหยเข้าแถวรอการปันส่วนอาหารจึงหมดไป

      ปัจจุบันพ่อแม่ชาวจีนจำนวนมหาศาลต่างก็มีลูกกันเพียงคนเดียว เป็นครอบครัวแบบ ๔-๒-๑ (ปู่ย่า ตายาย ๔ คน พ่อแม่ ๒ คน ลูก ๑ คน) ทุกคนในบ้านต่างทุ่มเททุกอย่างเพื่อปรนเปรอ "หนึ่งเดียวคนนี้" โดยปู่ย่า ตายาย และพ่อแม่ ต่างทำ "หน้าที่"
ของตนอย่างเต็มกำลัง จนกระทั่งเด็กเหล่านี้ ได้ชื่อว่า จักรพรรดิน้อย (The Little Emperors) แต่..ในยุคที่จักรพรรดิน้อยกำลัง
รุ่งเรืองนี้ ตำนานลูกกตัญญูก็ถึงกาลอวสานลงไปพร้อมๆ กัน

        แล้วอะไรคือแนวทางในการทำหน้าที่ของแม่อย่างเหมาะสม? เรื่องนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกล่าวถึงหน้าที่ของแม่
รวมทั้งหน้าที่ของลูกไว้ในสิงคาลกสูตร เรื่อง ทิศ ๖ ซึ่งหลักการนี้สามารถ นำไปใช้ได้กับคนในทุกสังคม

       พระองค์ตรัสไว้ว่า แม่มีหน้าที่อนุเคราะห์ลูก ๕ ประการ คือ ห้ามลูกไม่ให้ทำชั่ว ให้ทำความดี ให้การศึกษาแก่ลูก หาสามี-ภรรยาที่สมควรให้ และมอบทรัพย์สินให้ลูกในเวลาอันควร

        ส่วนลูกก็มีหน้าที่ ๕ ประการเช่นกัน คือ เลี้ยงดูแม่เป็นการตอบแทน ช่วยทำการงานของท่าน ดำรงวงศ์ตระกูล
ประพฤติตนให้สมควรที่จะได้รับมรดก ทำบุญอุทิศให้ท่านเมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว

         ถ้าทั้งแม่และลูกต่างก็มีความชัดเจนว่าตนเองมีหน้าที่อะไร และทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดโดยอาศัยทุนเดิม คือ
ความรัก ความเมตตาที่มีต่อกันเป็นพื้นฐาน บวกกับความเข้าใจว่า แม่ หรือลูกของเรา ก็คือ มนุษย์ธรรมดาที่ยังมีกิเลส
และยังมีปัญหาต่างๆในชีวิตอีกมากมาย อาจจะทำสิ่งที่ ผิดพลาด หรือสิ่งที่ไม่ถูกใจเราบ้างในบางครั้ง แต่ถ้าเรามองอีก
ฝ่ายหนึ่งด้วยความเมตตาและเข้าใจ เราก็จะสามารถรักษาความสัมพันธ์อันงดงามที่มีต่อกันไว้ได้ตลอดไป

       
ไม่น่าเชื่อว่า วันเวลาที่ได้มาเป็นแม่ลูกกัน ช่างผ่านไปรวดเร็วนัก ดวงตะวันสาดแสงสดใสได้ไม่นานก็ต้อง
ลับขอบฟ้าเสมือนชีวิตของแม่ที่กำลังนับถอยหลังลงทุกวัน.. ใช้เวลาด้วยกันบ้าง.. ให้หลายๆ วันเป็นวันของแม
่และลูก เพราะวันแม่ครั้งต่อไป มาลัยดอกมะลิพวงงามของลูกอาจไม่ถึงมือแม่ก็ได้ !!

 
บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล