ฉบับที่ 51 มกราคม ปี 2550

เมื่อมาจึงรู้ เมื่อรู้จึงเข้าใจ

อะไรที่ทำให้ต้องเปลี่ยนใจ

เรื่อง : ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์ e-mail : [email protected] ภาพ : เจริญ เพ็ชรกิจ

 

 

 

             น้องสาวสองคนได้เข้าวัดตั้งแต่สมัยเป็น นักศึกษาและได้พูดถึงวัด หลวงปู่ หลวงพ่อ และคุณยายอาจารย์ ว่าท่านดีอย่างไร พูดจนรู้สึกว่าทำไมน้องถึงได้ศรัทธาอะไรท่านมากขนาดนี้ และยังชวนเราให้ทำบุญ ให้มาวัด เราก็ร่วมบุญด้วย ทุกครั้ง แต่ตัวไม่ยอมมา เพราะไม่ได้รู้สึกศรัทธาอะไรวัดนี้เป็นพิเศษ และไม่เห็นความจำเป็นว่าทำไมเราต้องเข้าวัดนี้ด้วย น้องทั้งสองก็ไม่เคยละความพยายามในการชวนเลย ปกติเราเป็นคนชอบทำบุญบ่อยแต่ทำเล็กๆ น้อยๆ ชอบอ่านหนังสือธรรมะ และเรื่องราวของพระอริยสงฆ์ จนเมื่ออายุได้ ๔๐ ปี เกิดความรู้สึกว่าเริ่มแก่แล้วนะ จึงไปกราบพระบนบ้านอธิษฐานว่า "ลูกมีชีวิตอยู่มาจนบัดนี้ยังไม่ได้ศึกษาแก่นแท้ พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแท้จริงเลย ขอให้ลูกได้พบเส้นทางธรรมะที่ถูกต้อง อย่าให้ต้องเสียเวลาค้นหา และขอให้ได้พบครูอาจารย์ที่ถูกต้อง ที่จะพาลูกไปสู่แสงสว่างที่แท้จริงของชีวิตด้วยเทอญ" ในเวลาเดียวกันเป็นช่วงที่แม่ป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล น้องได้เอ่ยปากชวนให้ทำบุญถวายมหาสังฆทาน ๓ หมื่นวัดให้แม่ เราก็ยินดีทำเพราะอยากให้แม่หายป่วย พอน้องเห็นเรายอมทำบุญให้แม่ จึงถือโอกาสชวนทำบุญให้ตัวเราเองเพิ่มอีก ๓ หมื่นบาท เราปฏิเสธทันที โดยบอกว่าหากจะให้ทำ ต้องพาเราไปดูวัดของเธอก่อน ถ้าไปดูแล้วพอใจก็จะทำ หากไม่พอใจก็ไม่ทำ..!!

 

 

             ด้วยความเป็นคนช่างสังเกตและมาวัดเพื่อมาดู ก็เกิดคำถามขึ้นทันทีว่า วัดอะไรทำไมใหญ่โตขนาดนี้ แต่กลับสะอาด สงบ เป็นระเบียบ ผู้คนอ่อนน้อม พระสงฆ์มีศีลาจารวัตรที่งดงาม สิ่งก่อสร้างต่างๆ ไม่วิจิตรหรูหราฟุ่มเฟือย แต่เน้นความแข็งแกร่งคงทน และเรียบง่ายเป็นหลัก ดูแล้วรู้สึกพอใจ จากนั้นก็บอกน้องสาวว่า ไหนพาไปหาคุณยายของเธอหน่อย ที่เธอว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ตอนนั้นคุณยายเพิ่งละสังขารไปไม่นาน น้องสาวจึงพาไปกราบร่างท่านแทน พอได้เห็นรูปท่านเท่านั้น แววตาที่เด็ดเดี่ยว และมีเมตตาของท่าน ทำให้รู้สึกเหมือนถูกสะกด ให้สงบอย่างบอกไม่ถูก จึงได้กราบท่านว่าคุณแม่นอนป่วยหนัก อยู่ที่โรงพยาบาลธนบุรี ๑ ด้วยโรคประสาทไขสันหลัง แม่ปวดทรมานมาก จนต้องให้มอร์ฟีน ทำอย่างไรก็ไม่หาย หมอจึงต้องนัดผ่าตัดหลังในอีก ๒ วัน แต่เราไม่อยากให้แม่ผ่าเลย เพราะอายุมากแล้ว จึงอธิษฐานขอบารมีคุณยาย ช่วยให้แม่หายป่วยโดย ไม่ต้องผ่าตัดด้วยเถิด

           จากนั้นก็กราบลาท่านกลับไปหาแม่ที่โรงพยาบาล เมื่อมาถึงก็เข้าไปเขย่าตัวแม่ซึ่งกำลังสลึมสลือด้วยฤทธิ์มอร์ฟีน อยู่ๆ แม่ก็พูดขึ้นว่า ยายเป็นแม่ชีมา...แม่ชีลอยอยู่บนเพดาน โยนหมอนมาให้บอกว่าให้เอาหนุนใต้น่องแล้วจะหายปวด คำพูดของแม่ ตอนนั้นทำให้เราขนลุกซู่ จึง ย้ำถามแม่ใหม่ว่า แม่พูดอะไรนะ แม่ก็บอกเหมือนเดิมอีก เรา จึงมั่นใจว่าคุณยายตามเรา จากวัดมาช่วยแม่จริงๆ ทำให้เราศรัทธาคุณยายมากว่า ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ เพราะแม่ก็ ไม่เคยไปวัดพระธรรมกาย ไม่เคยรู้จักคุณยายมาก่อน หลังจากเหตุการณ์นี้เอง อย่างทันควันก็มีคนรู้จักกันมาเยี่ยม แม่ แล้วบอกว่า แม่ไม่ต้องผ่าตัดหรอก เพราะเขาเคยเป็นโรคนี้มาก่อน ให้หมอใช้เครื่องมือช่วยดึงขาดึงหลังเดี๋ยวก็ดีขึ้น เมื่อลองทำดูปรากฏว่า แม่หายจริงๆ อย่างน่าอัศจรรย์ โดยไม่ต้องผ่าตัดเลย และอาการ นั้นก็ไม่ปรากฏอีกเลยจนถึงปัจจุบัน เดือนต่อมา เราได้ไปร่วมงานสลายร่างคุณยาย และทำบุญถวายสังฆทาน ๓ หมื่นวัดทั่วประเทศ วันนั้นรู้สึก อลังการมาก เพราะไม่เคยเห็นงานบุญอะไรยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต ทั้งพระทั้งคนให้เกียรติมาร่วมงาน หลายแสนคนอย่างล้นหลาม งานที่ ยิ่งใหญ่แบบนี้ไม่ใช่ใครมีเงินอยากจัดก็จัดได้ แต่เกิดขึ้นได้ด้วยหัวใจ ของความทุ่มเทของหลวงพ่อ ทีมงาน และกัลยาณมิตร ทำให้เรารู้ว่าคุณยายเป็นบุคคลสำคัญเพียงไร และได้สร้างคุณงามความดีไว้มากมายเป็นอนันต์ หลวงพ่อ ท่านจึงแสดงความกตัญญูกตเวทิตา ต่อครูบาอาจารย์ได้อย่างงดงามถึงเพียงนี้ ในระหว่างพิธี น้ำตาของ ความรักและเทิดทูนคุณยายหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย รู้สึกเสียดายวันเวลาที่ผ่านไปกับการปฏิเสธน้องไม่ยอมเข้าวัด ทำให้ต้องพลาดโอกาส อันยิ่งใหญ่ที่จะได้กราบ คุณยายในวันที่ท่านยังมีชีวิต อยู่
 

 

              เหตุการณ์ในครั้งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้น ทำให้เราเข้าวัด และทำบุญกับหลวงพ่อมาก ขึ้น เพราะเมื่อศึกษาข้อมูล ของวัดนี้อย่างจริงจัง ด้วย การชักชวนและแนะนำ ของเพื่อนกัลยาณมิตรประภาภัทร ศิวพร น้องอุบาสิกาจินดา และปิ่นรัฐ ว่าทำไมต้องสร้างวัดใหญ่ ทำไมคนมามาก ท่านเจ้าอาวาสมีมโนปณิธานอย่างไร พอเราเข้าใจแจ่มแจ้ง ทำให้เราซาบซึ้ง และศรัทธา ในสิ่งที่ท่านกำลังทำ แต่มีคนอีกจำนวนหนึ่ง ที่ยังไม่เข้าใจเพราะความไม่รู้ เรารู้แล้วเราขอเป็น ฝ่ายสนับสนุนด้านกำลังเงิน เพื่อให้ท่านนำไปทำสิ่งดีงาม ให้บังเกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนา และชาวโลก ด้วยความคิดดังนี้ จึงทำบุญถี่และมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นจำนวนเงินที่มากจนหลายๆ คนตกใจ แล้วต่างพากันสงสัย และตั้งคำถามกับเราต่างๆ นานาว่า เราเพิ่งเข้าวัดมาไม่นาน ทำไมทำบุญ มาก เราโดนหลอกรึเปล่า ระวังหมดตัว ทำไมทำบุญกับวัดนี้เยอะ ทำไมไม่เอาไปทำกับวัดจนๆ บ้าง ซึ่งเราก็ขอตอบให้กระจ่างในวันนี้เลย คือ เราทำบุญอย่างมีสติ ต้องการทำบุญกับเนื้อนาบุญ ที่นำเงินไปใช้ในการสืบอายุพระพุทธศาสนาได้อย่างแท้จริงและยาวนาน ถ้าเรามีเงิน ๑๐ ล้าน กระจายไปทำบุญกับหลายๆ วัด วัดละนิดละหน่อยให้ได้เยอะวัดมากที่สุด เงินของเราก็จะช่วยแต่ละวัดได้เพียงแค่ทาสีกุฏิ หรือซ่อมหลังคา ซ่อมประตูนิดๆ หน่อยๆ แล้วก็จบกันไป เรากระจายการใช้เงินจนไม่สามารถเอาไป ทำสิ่งที่มีค่าเป็นชิ้นเป็นอันได้ แต่หากเราเอาเงิน ๑๐ ล้านนั้นมาถวายให้หลวงพ่อ เพื่อทุ่มเทสร้างศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ อันมิได้เป็นไปเพื่อความสวยงามหรืออลังการ แต่เป็นไปเพื่อการรองรับ มวลมนุษยชาติจากทั่วโลกโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ วรรณะ ศาสนา เพศ ผิวพรรณ เพื่อให้คลายทุกข์ และแสวงหาความสุขภายในตน และด้วยวิสัยทัศน์ของหลวงพ่อ ที่ได้สร้างความยิ่งใหญ่นี้ให้มีความแข็งแรงคงทน สามารถรองรับการใช้งานได้นานนับพันปี นั่นหมายถึงเงินของเราที่หามา ด้วยความยากลำบากนั้น จะก่อให้เกิดพยานทางวัตถุในพระพุทธศาสนา ให้ลูกหลานในอนาคตได้ใช้ประโยชน์ ยาวนานนับพันปี ที่สำคัญเราเห็นว่าวัดนี้เขาทำจริงๆ เราเห็นการเจริญเติบโตของวัด ทั้ง ศาสนสถาน และการเผยแพร่ธรรมะอย่างเข้มแข็ง ทุกงานบุญใหญ่มีคนมาใช้สถานที่ที่เราสร้างครั้งละหลายๆ แสนคน และมาใช้บ่อยๆ จนเราปลื้มทุกครั้ง ที่ได้เห็นว่าวัดสร้างใหญ่ไว้ใช้ ไม่ได้สร้างไว้โชว์ และนั่นคือ เราได้สร้างศูนย์กลางที่เข็มแข็งให้ พระพุทธศาสนาไว้จุดหนึ่งก่อน เพื่อเป็นแม่แบบที่แข็งแรง งดงาม และทรงคุณค่า เพื่อเชื่อมต่ออาณาจักรพระพุทธศาสนา ให้งดงามและงอกงามออกไปทั่วโลก เงินที่เราทำบุญดูว่ามากสำหรับชีวิต เรา แต่เป็นเพียงผงธุลี เมื่อเทียบกับมโนปณิธาน ของหลวงพ่อในการสร้างวัด ให้เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนา เพื่อรวมใจคนทั่วโลกให้เกิดสันติสุข และเราก็ไม่เคยผิดหวังเลย เพราะเงินที่ทำบุญนั้น นอกจากหลวงพ่อจะใช้สร้างวัดแล้ว ที่สำคัญท่าน ยังได้สร้างพระให้เป็นพระแท้และสร้างคนให้เป็นคนดี เกิดขึ้นในสังคมอีกด้วย โดยผ่านทางโครงการ ดีๆ มากมาย เช่น จานดาวธรรม อบรมธรรมทายาท ตอบปัญหาธรรมะทางก้าวหน้า ช่วยเหลือพุทธบุตร ๒๖๖ วัดภาคใต้ และวัดที่ประสบภัยจากน้ำท่วม และ อีกมากมายนับร้อยโครงการ

              หากใครได้มีโอกาสมารับรู้ข้อมูล เรียนรู้และสัมผัสชีวิตของหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย และ วัดพระธรรมกายแล้ว จะรู้ได้เองว่า นี่คือ บุคคล ในฝันและวัดในฝันที่เป็นของจริง เมื่อมาจึงรู้ เมื่อรู้จะเข้าใจ เมื่อเข้าใจแล้วจะซาบซึ้ง... จนถึงขั้นเกิดศรัทธา บุคคลผู้เข้ามาพิสูจน์อย่างถ่องแท้เท่านั้นจึงรู้ว่า คำนี้เป็นคำจริงโดยแท้...

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล