ฉบับที่ ๒๑๙ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๖๔

อัญเชิญมหารัตนอัฐิธาตุคุณยาย STORY ที่โลกต้องจำ!

บุญพิเศษ
เรื่อง : ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์

 

อัญเชิญมหารัตนอัฐิธาตุคุณยาย STORY ที่โลกต้องจำ!
อ่านแล้วคุณจะรู้ว่า..
ทำไมต้องอัญเชิญมหารัตนอัฐิธาตุของท่านมาไว้ด้วยกัน ?

640317_001.jpg

        ทันทีที่ทราบข่าวว่าจะอัญเชิญมหารัตนอัฐิธาตุคุณยายทองสุข (คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาทองสุข สำแดงปั้น) ไปประดิษฐาน ณ มหาวิหารคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ร.ลิ่วฯ รู้สึกทันทีเลยว่า นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเสียแล้ว !!!

         เพราะ STORY ของคุณยายอาจารย์ทั้งสองได้ผุดขึ้นมาในใจเป็นฉาก ๆ อย่างชัดเจน จนรู้สึกอยากลุกขึ้นมาบันทึกเรื่องราวอันแสนวิเศษนี้ไว้ให้คนรุ่นหลังรับรู้บ้าง

        ก็คิดดูเถิด จะมีมนุษย์สักกี่คนที่เป็นกัลยาณมิตรชวนกันสร้างบารมีอย่างเข้มข้นข้ามชาติได้ดังเช่นคุณยายอาจารย์ทั้งสอง ที่แม้ชาติก่อน ๆ ก็ได้เกิดเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แล้วชวนกันออกบวช มาชาตินี้คุณยายทองสุขก็ยังมาสอนสมาธิจนคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์เข้าถึงพระธรรมกาย แล้วไปช่วยพ่อขึ้นมาจากยมโลก แล้วท้ายที่สุด คุณยายทั้งสองก็ชวนกันบวชทำวิชชาอยู่กับหลวงปู่วัดปากน้ำเหมือนภพชาติก่อน ๆ อีก


640317_002.jpg

      ตลอดเวลาที่ท่านทั้งสองสร้างบารมีมาด้วยกัน ท่านอยู่ด้วยกันเหมือนพี่เหมือนน้อง ช่วยเหลือเกื้อกูลกันทุกสิ่งทุกอย่าง บางครั้งก็เป็นครูบาอาจารย์ของกันและกัน เพราะในช่วงที่หลวงปู่วัดปากน้ำสั่งให้คุณยายทองสุขออกจากวัดปากน้ำไปเผยแผ่ธรรมะ ทั้ง ๆ ที่คุณยายทองสุขเองก็ไม่อยากไปเลย เพราะกลัววิชชาจะละเอียดไม่ทันเพื่อน แต่ท่านก็ต้องไป เพราะมีหน้าที่ประดุจมือเผยแผ่มือหนึ่งของหลวงปู่เลยทีเดียว แต่ครั้นคุณยายทองสุขกลับมาวัดทุกครั้ง ก็จะมาเล่าโน่นนี่นั่นให้คุณยายอาจารย์ฯ ของเราฟัง พร้อมกับให้คุณยายอาจารย์ฯ ของเราช่วยถ่ายทอดสิ่งที่หลวงปู่สอนในโรงงานทำวิชชาให้ฟังโดยละเอียด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คุณยายทองสุขทำวิชชาก็เยี่ยม เผยแผ่ก็ยอด สมกับเป็นมือหนึ่งด้านเผยแผ่ของหลวงปู่จริง ๆ


640317_003.jpg

        มาภายหลังเมื่อหลวงปู่วัดปากน้ำมรณภาพแล้ว คุณยายทองสุขท่านป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก คุณยายอาจารย์ฯ ของเราจึงได้ดูแลท่าน คอยซักผ้า เช็ดน้ำเลือด น้ำเหลือง คอยหาข้าว หายา ปรนนิบัติอย่างดีด้วยความเต็มอกเต็มใจทุกอย่าง เพราะคุณยายอาจารย์ฯ ของเรารักและมีความกตัญญูต่อคุณยายทองสุขมาก ๆ เนื่องจากคุณยายทองสุขเป็นครูคนแรกที่สอนสมาธิให้ท่าน และชักนำให้ท่านมาทำวิชชาอยู่กับหลวงปู่วัดปากน้ำ

        ต่อมา อาการของคุณยายทองสุขเริ่มหนักขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งท่านไปเข้าห้องน้ำแล้วออกมาบอกคุณยายอาจารย์ฯ ของเราว่า “ตอนนี้ไส้ฉันทะลุแล้ว” พอคุณยายทองสุขพูดเสร็จก็ยิ้ม แล้วก็พูดอีกว่า ตอนท่านตาย ท่านจะให้คุณยายอาจารย์ฯ ของเราอยู่กับท่านเท่านั้น คนอื่นไม่ต้องอยู่


640317_004.jpg

        ในวันสุดท้ายก่อนที่คุณยายทองสุขจะจากโลกนี้ไป ท่านนอนหนุนตักคุณยายของเราโดยลำพังสองคน

       แม้ร่างกายคุณยายทองสุขเจ็บปวดทรมานมาก แต่ใจของท่านติดอยู่ในกลางตลอด และก่อนจากไปท่านก็ลืมตาขึ้นแล้วพูดครั้งสุดท้ายว่า “ฉันจะไปแล้วนะ เห็นพระเต็มไปหมดเลย” ซึ่งคุณยายอาจารย์ฯ ของเราก็ตอบไปว่า “พี่พุ่งเข้าไปในนิพพานเลยนะ” (นี่เป็นคำพูดระหว่างผู้รู้กับผู้รู้คุยกัน) ซึ่งหมายถึงการจรดใจไปในอายตนนิพพาน จากนั้นคุณยายทองสุขก็จากไปด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๖

       ณ วันนี้ ก็เท่ากับเวลาผ่านไปนานถึง ๕๘ ปีแล้ว ที่คุณยายทองสุขจากไป และในวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ปีนี้ ร.ลิ่วฯ รู้สึกเป็นสุขใจอย่างบอกไม่ถูก ที่ได้มีการอัญเชิญอัฐิธาตุคุณยายทองสุขมาประดิษฐานไว้ในมหาวิหารคุณยายอาจารย์ฯ ของเรา เพราะเหมือนท่านได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง


640317_005.jpg

      มหาวิหารคุณยายอาจารย์ฯ แห่งนี้ ใครจะให้นิยามว่าอะไรก็เป็นสิ่งดีทั้งนั้น แต่สำหรับ ร.ลิ่วฯ แล้ว นับตั้งแต่ประดิษฐานมหารัตนอัฐิธาตุคุณยายทองสุขแล้ว ที่นี่..ไม่เป็นเพียงแค่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้นึกถึงคุณยายอาจารย์ฯ ของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นตำนานยอดกัลยาณมิตรของโลก ที่มีความรักความผูกพันกันอย่างเหนียวแน่นข้ามชาติ


640317_006.jpg

     แม้ท่านทั้งสองละสังขารไปสวรรค์ชั้นดุสิตด้วยกันแล้ว มหารัตนอัฐิธาตุของท่านทั้งสองที่อยู่บนภพมนุษย์ก็ยังได้มาอยู่ด้วยกัน และไม่พรากจากกันตลอดไป

    ปลื้มใจจังเลยค่ะที่ได้เข้าร่วมงานอัญเชิญมหารัตนอัฐิธาตุผ่าน Zoom เพราะอยากเห็นภาพที่มหารัตนอัฐิธาตุคุณยายทั้งสองอยู่ด้วยกัน อยากให้ภาพนี้ติดตาจนติดใจ และได้อธิษฐานว่าด้วยบุญที่ข้าพเจ้าได้มาร่วมพิธีอัญเชิญนี้ ขอให้ข้าพเจ้ามีคุณวิเศษและมีคุณธรรมอย่างคุณยายทั้งสอง ขอให้ข้าพเจ้าได้มียอดกัลยาณมิตรที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในการสร้างบารมีอย่างนี้บ้างและให้มีอย่างมากมาย เพื่อสร้างบารมีเป็นทีมตามคุณยายไปตราบถึงที่สุดแห่งธรรมเทอญ

 

640317_007.jpg

ทบทวนโอวาทที่หลวงพ่อทัตตชีโว
นำมาอ่านในพิธี

       คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาทองสุข สำแดงปั้น ท่านเป็นบุคคลที่มีความสำคัญมาก เมื่อพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร ท่านสละชีวิตจนกระทั่งค้นพบพระธรรมกาย แล้วก็ศึกษาวิชชาธรรมกาย แล้วถ่ายทอดความรู้นี้ให้แก่คุณยายทองสุข สำแดงปั้น ในตอนนั้นคุณยายทองสุขยังเป็นคฤหัสถ์อยู่ ยังไม่ได้บวช ทำมาค้าขาย แต่แล้วเมื่อไม่ประสบความสำเร็จ และได้ยินกิตติศัพท์พระเดชพระคุณหลวงปู่ที่วัดปากน้ำ ก็เลยเข้าไปกราบขอบารมีท่านและไปเล่าเรื่องให้ท่านฟัง ตอนที่ท่านออกมารับแขก


640317_008.jpg

         หลวงปู่พูดกับคุณยายทองสุขสั้น ๆ ว่า “เขาไม่ได้ให้มึงมาทำอย่างนี้” คุณยายทองสุขก็เลยเกิดกุศลศรัทธาอยากปฏิบัติธรรมที่วัดปากน้ำ ท่านพยายามทำความเพียรควบคู่ไปกับการค้าขาย แต่นั่งเท่าไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ

       จนกระทั่งวันหนึ่ง ท่านได้ข้อคิดว่า กิเลสเรามันคงหนาคล้าย ๆ กับกระโถนในหอฉันที่อยู่ตามวงฉันภัตตาหารของพระ เพราะฉะนั้นเดี๋ยวเราจะขัดกิเลส โดยเริ่มต้นจากการขัดกระโถนก่อน ท่านก็เลยไปรวบรวมกระโถนทั้งหมดในหอฉันมาล้างน้ำจนสะอาด พอท่านสบายใจ ปลื้มอกปลื้มใจในบุญนี้มาก ท่านก็ไปนั่งธรรมะ นั่งนิ่ง มีความสบายใจ นึกอะไรก็นึกไม่ออก ปรากฏว่ากระโถนที่ท่านขัด มีอยู่ใบหนึ่งโผล่ขึ้นมา แล้วใบนั้นก็นำท่านเข้าไปสู่ดวงธรรมภายใน ขัดกระโถนจนเห็นธรรม

       ตอนเห็นองค์พระก็คือ ตอนที่ท่านเดินข้ามสะพานไปรับประทานอาหารอีกฝั่งหนึ่งของประตูน้ำปากคลองภาษีเจริญ ท่านก็ภาวนา “สัมมาอะระหัง” ไปเรื่อย ๆ ๆ ใจอยู่ตรงกลาง ใจสบาย พอไปถึงตรงสะพานนั้น พอขาก้าวขึ้นสะพาน ก็เห็นองค์พระเกิดขึ้นมาเลย


640317_009.jpg

      ท่านดูองค์พระในตัวไปเรื่อย ๆ กระทั่งถึงร้านอาหาร ก็สั่งอาหารมาทาน แต่ว่าท่านเพิ่งเห็นองค์พระ และเห็นชัดมาก ลืมตาก็ยังชัดแจ่ม ท่านก็เกรงว่าอาหารที่ท่านรับประทานเข้าไปจะหล่นไปถูกเศียรพระ กลัวจะบาป จนกระทั่งหมดอารมณ์ที่จะทานอาหาร ก็เลยกลับมาปฏิบัติธรรม

        ในตอนนั้น ท่านยังห่วงที่บ้าน แต่ตัดใจทิ้งทุกอย่าง ปล่อยวางทุกสิ่ง คิดว่า “ถ้าเราตายวันนี้ เขาก็อยู่กันได้” จึงตัดสินใจนั่งคืนนั้นทั้งคืนเลยที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เพื่อรักษาองค์พระให้มีความมั่นคง จนกระทั่งต่อมาก็ได้ทำวิชชาสู้รบปรบมือพญามารกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร อีกด้วย


640317_010.jpg

       คุณยายทองสุขท่านมีความสามารถหลายอย่าง พระเดชพระคุณหลวงปู่ส่งท่านไปเผยแผ่ แม้ท่านอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ก็ตาม แต่เพราะว่าท่านมีญาณทัสนะแม่นยำมาก ไปนรก ไปสวรรค์ได้ มีความคล่องแคล่วเชี่ยวชาญในวิชชาธรรมกายมาก แม้ในช่วงสงครามโลกคุณยายทองสุขก็ได้สู้รบปรบมือกับพญามาร ปัดลูกระเบิดอีกด้วย และคุณยายทองสุขยังถือว่า “เป็นปฐมาจารย์ของคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ของเราอีกด้วย”

       ต่อมา ท่านค้นวิชชาบูชาข้าวพระ ซึ่งเป็นวิชชาที่มีความสำคัญมากต่อพวกเราทุกคน เป็นบุญใหญ่ การบูชาข้าวพระเป็นจุดเริ่มต้นของการรวมคน รวมทุกสิ่ง วัดเราสร้างมาได้ก็ด้วยการบูชาข้าวพระ

        ดังนั้น คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาทองสุข สำแดงปั้น จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล