ฉบับที่ 73 พฤศจิกายน ปี 2551

กตัญญูบูชาธรรม ครบรอบ ๑๒๔ ปี พระมงคลเทพมุนี

ทบทวนบุญ
เรื่อง : อุับลเขียว

 

 

      ชีวิตทั้งชีวิตของพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ท่านทุ่มเทเสียสละอุทิศตน เพื่อสั่งสอนสิ่งอันประเสริฐที่สุด มีค่าที่สุด แก่มวลมนุษยชาติ แม้ท่านจะมรณภาพไปนานแล้ว แต่ยังเมตตาถ่ายทอดมรดกธรรมอันทรงคุณค่าจากรุ่นสู่รุ่น ไว้ให้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องดีงามอย่างไม่เสื่อมคลาย ทั้งนี้ มีบุคคลจำนวนไม่น้อย เมื่อน้อมนำธรรมปฏิบัติไปฝึกฝนอย่างถูกหลักวิชาแล้ว ล้วนบังเกิดสัมฤทธิผลตามมามากมาย ทำให้มีผู้คนจากทั่วโลกตั้งใจเดินทางมาศึกษาวิชชาธรรมกายกันมากขึ้น แผ่ขยายวงกว้างทั้งภายในและต่างประเทศ

         ดังนั้น พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ จึงควรได้รับการเคารพยกย่อง และสักการบูชาอย่างสูงส่ง ในฐานะยอดมหาปูชนียาจารย์ ผู้ชี้นำหนทางอันประเสริฐยิ่ง ด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ถึงสองครั้งสองครา เพื่อค้นพบวิชชาธรรมกายซึ่งสูญหายไปหลังพุทธ ปรินิพพาน นับเป็นการเปิดประตูแห่งอวิชชา ก้าวล่วงสู่ขุมทรัพย์แห่งวิชชา คือ ความรู้แจ้ง ในการจุดประทีปแห่งปัญญาให้สว่างไสวแก่ทุกๆ ชีวิต

 

 

             พระคุณของท่านจึงยิ่งใหญ่เกินกว่าจะพรรณนา แม้จะสลักนามหรือรูปกายของท่านไว้ในภูเขา ทั้งลูกเพื่อกราบไหว้บูชา หรือเสาะแสวงหาสุดยอดอัญมณี นำรัตนชาติเท่าขุนเขาพระสุเมรุมาสลักรูปท่านไว้ แล้วตั้งเป็นอนุสาวรีย์แห่งการ ค้นพบแนวทางแห่งอิสรภาพอันยิ่งใหญ่ ก็คงไม่สมค่าแห่งศรัทธาและสักการบูชาอันยอดเยี่ยมได้

             แต่ในช่วงชีวิตของเราชาติหนึ่ง ความโชคดีที่ได้เกิดมาพบกับ ยอดทักขิไณยบุคคลอันเลิศ เช่นท่าน มีค่ายิ่งกว่ามีสมบัตินับหมื่นนับแสนล้าน ผู้มีปัญญาจึงไม่ยอมพลาดโอกาสสำคัญในการสร้างบุญใหญ่ในครั้งนี้ ทั้งปฏิบัติบูชา และอามิสบูชาอย่างเต็มที่ เต็มอิ่ม และเต็มกำลัง ให้เป็นผังสำเร็จแห่งชีวิตและเสบียงบุญติดตัวไปทุกภพทุกชาติ

          บัดนี้เป็นเวลา ๑๒๔ ปี แห่งการบังเกิดขึ้นแห่งรูปกายเนื้อ ของพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ค้นพบวิชาธรรมกาย เพื่อสืบสานมโนปณิธานอันสูงส่งของท่าน โดยดำริของพระเดชพระคุณ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) ได้เชิญชวนเหล่าศิษยานุศิษย์จากทั่วโลก ทั้งในอดีตและปัจจุบัน มารวมพลังแห่งศรัทธาอันยิ่งใหญ่ ให้เป็นหนึ่งเดียว ร่วมแสดงกตัญญูบูชาธรรมด้วยการหล่อ รูปเหมือนพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ด้วยทองคำบริสุทธิ์ ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งนับเป็นวันอภิมหากุศล ครั้งประวัติศาสตร์ที่โลกต้องจดจารึกไว้

 

 

        จากเรื่องราวอานุภาพวิชชาธรรมกาย ที่ออกสู่สายตามหาชนทุกทวีปทั่วโลก ทางช่อง DMCอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำบุญญาภินิหารอันน่าอัศจรรย์ ซึ่งคนจำนวนไม่น้อยได้ประสบกับตนเอง สร้างความเชื่อมั่นในอานุภาพพระรัตนตรัย และกระแสแห่งศรัทธาอย่างเปี่ยมล้น จากผู้คนทั่วทุกสารทิศ ต่างตั้งใจเดินทางมาร่วมงานบุญใหญ่ ในครั้งนี้เป็นจำนวนเรือนแสน

          ทำให้เช้าวันศุกร์ที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๑ พื้นที่ทั่วบริเวณสภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี คลาคล่ำไปด้วยผู้คนทั้งภายในและต่างประเทศราว ๓๐๐,๐๐๐ คน ที่พร้อมใจมาสร้างบุญใหญ่ครั้งสำคัญ ทำให้พื้นที่กว้างขวาง ของสภาธรรมกายสากลกว่า ๑๕๐ ไร่ ดูคับแคบลงไปถนัดตา

          ๐๙.๓๐ น. พิธีปฏิบัติธรรมภาคเช้า เมื่อพระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ประธานสงฆ์ เดินทางมาถึงศูนย์กลางพิธี นำสาธุชนนั่งสมาธิ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสำคัญก่อนสร้างบุญทุกครั้ง ต้องกลั่นใจให้ใส สะอาด บริสุทธิ์เสียก่อน เพื่อให้ใจ ของเรานั้นเหมาะสม เป็นภาชนะทองรองรับบุญใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น

         แม้อากาศในวันนี้จะค่อนข้างอบอุ่น แต่ทุกคนต่างตั้งใจนั่งหลับตารวมใจ ณ กลางกายใสสว่าง ภาพสาธุชน ในชุดขาวมากมาย เรือนแสนมานั่งหลับตารวมใจด้วยความเงียบสงบ ทำให้ใครหลายคนที่มาเป็นครั้งแรกต่างรู้สึกทึ่ง เพราะไม่เคยเห็นความพร้อมใจของมหาชนอย่างนี้มาก่อน

 

 

       นอกจากนี้แม้หลายท่าน จะใช้เดินทางมาตลอดทั้งคืน ไม่ว่าจากเหนือสุดหรือใต้สุด ของประเทศไทย แม้จะรู้สึก เหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลียอยู่บ้าง แต่ก็พยายามอดทนไว้ เพราะคิดว่าคุ้มค่าเหลือเกินกับการได้มาซึ่งมหากุศลอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ที่ตลอดช่วงชีวิตไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า

         ๑๐.๔๕ น. พิธีกล่าวคำถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน และพิธีกล่าวคำถวายทองคำหล่อรูปเหมือน หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ซึ่งผู้แทนสาธุชนผู้ใจบุญในครั้งนี้ คือ กัลฯ บุญชัย เบญจรงคกุล

         เสียงที่ผู้แทนกล่าวเปล่งวาจาขอถวายทองคำ เป็นภาษาบาลีและภาษาไทย ดังก้องกังวานเข้าไปในใจอย่างปิติเบิกบาน เสียงที่เปล่งออกมานั้น เหมือนไม่ได้ดังออกมาจากปาก ทว่าดังก้องออกมาจากใจ เป็นเสียงแห่งถ้อยคำเพชร ถ้อยคำพลอยอันยิ่งใหญ่ ปรารถนาจะให้เหล่าเทพยดาบนสวรรค์ ทุกชั้นฟ้าได้ยินโดยทั่วกัน เหมือนว่าเราได้ถวายสิ่งล้ำค่า ด้วยมือของเราเองทุกคน

          ๑๓.๓๐ น. พิธีภาคบ่าย เป็นพิธีกล่าวสุนทรพจน์โดยแขกผู้มีเกียรติ คือ ดร.ไมเคิล โนเบล (Dr.Michael Nobel) ประธานกองทุนรางวัลโนเบล รางวัลโนเบลถือเป็นสุดยอดรางวัลของโลก ที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะ มีชื่ออยู่ในทำเนียบ ผู้ที่ได้รับรางวัลนี้ เพราะเป็นสิ่งที่เชิดชูเกียรติ และบ่งบอกถึงความเป็น ผู้อุทิศตนเพื่อความเจริญก้าวหน้า ความสงบ และสันติภาพของสังคมโลก รางวัลอันทรงเกียรตินี้ไม่ใช่เพียงรางวัลของคนทำงานหนัก หรือคนทำงานหามรุ่งหามค่ำเท่านั้น แต่เป็นรางวัลของนักสร้างสรรค์ ผู้ที่เปิดมุมมองใหม่ สามารถฝ่าทะลุกำแพงแห่งการค้นพบ เพื่อนำมนุษยชาติไปสู่สันติสุขอันแท้จริงได้

 

 

         ดร.ไมเคิล โนเบล (Dr.Michael Nobel) ประธานกองทุนรางวัลโนเบล (Nobel Chaitable Trust) ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ ๔ ของ อัลเฟรด โนเบล (Alfred Nobel) ผู้ก่อตั้งกองทุนรางวัลโนเบล (เช็คข้อมูลอีกทีนะคะ) ได้มีโอกาสมาเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมงานกล่าวปาฐกถาพิเศษหลายแห่ง นอกจากนี้ยังมีโอกาสเดินทางมายัง วัดพระธรรมกาย เพื่อร่วมพิธีหล่อรูปเหมือน พระมงคลเทพมุนี ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายด้วยทองคำบริสุทธิ์ และให้เกียรติขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ชื่นชม แนวทางการสร้างสันติภาพโลก ด้วยหลักธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยการนำของพระเดชพระคุณ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ประธานมูลนิธิธรรมกาย ซึ่งนับเป็นบทสุนทรพจน์อันน่าประทับใจ เรียกเสียงปรบมือดังกึกก้อง

        ตามด้วย กัลฯ ภิญญ์พลอย สัมภวคุปต์ ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด ต่างประเทศ Stamford International University พิธีกร DMC รายการ Smile World, รายการ Think Smart Work Smart SMEs Club ทางททบ.5 ได้แปลคำกล่าวสุนทรพจน์เป็นภาษาไทย

      จากนั้นพระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ได้กล่าวสุนทรพจน์ โดยมีไมเคิล หว่อง (Mr.Michael Wong) นักแสดง ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ แลพนักร้อง ที่มีชื่อเสียง แสดงภาพยนต์ฮ่องกงมาแล้ว ๖๔ เรื่อง ภายในระยะเวลา ๒๔ ปี (ตั้งแต่พ.ศ.๒๕๒๖-๒๕๔๙) เป็นผู้แทนกล่าวคำแปลสุนทรพจน์พระราชถาวนาวสุทธิ์ เป็นภาษาอังกฤษ

       ๑๔.๕๐ น. พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ประธานสงฆ์ ได้นำนั่งสมาธิเจริญภาวนา และนำอธิษฐานจิตหล่อรูปเหมือนทองคำ หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

      เมื่อถึงเวลาสว่าง ใจของพวกเราทุกคน ใสสะอาดดีแล้ว พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ได้อาราธนา พระภาวนาวิริยคุณ และพระครูปลัดภูเบศ ฌานาภิญโญ รับ "มหาสุวรรณนิธิ" แล้วมอบให้ผู้แทนคณะสงฆ์รับไปใส่ในเตาหลอม

 

 

 

         สิ้นเสียงสัญญาณฆ้องครั้งที่ ๑ พิธีกรกล่าวเชิญเจ้าภาพผู้มีบุญลุกขึ้นยืน เพื่อเตรียมประกอบพิธีหย่อน "มหาสุวรรณนิธิ" พร้อมกับเสียงบทสวด "สรรเสริญคุณพระมงคลเทพมุนี" ดังก้องกังวานไปทั่วบริเวณ เหล่าสาธุชนร่วมกันถือสายสมบัต ิจักรพรรดิสีขาวบริสุทธิ์ เชื่อมสายใยบุญจากพระนิพพานมายังผู้มีบุญทุกท่าน ดวงมหาสุวรรณนิธิสีทอง ถูกหย่อนลงบนรางรับดังเสียงใส คล้ายเสียงทิพยดนตรีของเหล่าเทวดานางฟ้า บนสรวงสวรรค์ ที่ร่วมกันอนุโมทนาบุญ ในมหากุศลครั้งนี้ จากนั้น ผู้แทนคณะสงฆ์อัญเชิญพาน "มหาสุวรรณนิธิ" มาใส่ในเตาหลอม เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันแจกภาพ ชูบังตั้งได้รูปพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย สีมันวาวสะท้อนแสงวิบวับ เหมือนมีเพชรพลอย จำนวนมาก เจิดจรัสรัศมีอยู่ทั่วบริเวณสภาธรรมกายสากล

    เมื่อบทสวด "สรรเสริญคุณพระมงคลเทพมุนี" จบลง เจ้าภาพผู้มีบุญได้กดปุ่มเพื่อประกอบพิธีเทน้ำโลหะ ลงในหุ่นองค์ต้นแบบหลวงปู่ฯ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ประธานสงฆ์ ได้นำอธิษฐานจิต แผ่เมตตา และถ่ายภาพประวัติศาสตร์ร่วมกัน

          ไม่ว่ากาลเวลาจะผันผ่านไปนานสักเท่าใด ภาพที่เราได้ร่วมกันหล่อรูปเหมือน ยอดมหาปูชนียาจารย์ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายในครั้งนี้ จะตามติดและติดตามเป็นกุศลกรรมนิมิตอันสว่างไสว ทุกครั้งที่ระลึกถึงเสมอ ตอกย้ำเส้นทางอันยาวไกลในวัฏสงสาร ไม่เคยทำให้ขุนพลกล้านึกระย่อท้อใจ เพราะตราบใดที่ธงชัยแห่ง พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย ยังคงโบกสะบัดพลิ้วปลิวไสว ตราบนั้นนักรบแห่งกองทัพธรรม ยังคงเดินหน้าต่อไป ด้วยเส้นทางสายนี้คือเส้นทางแห่งความดี เส้นทางมหาปูชนียาจารย์ที่ทุกคนมี เป้าหมายร่วมกัน โดยมีแนวทางปฏิปทาอันโดดเด่น ของท่าน เป็นต้นแบบต้นบุญให้เราดำเนินรอยตาม

        การผนึกพลังแห่งศรัทธา อันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ คือ จุดเริ่มต้นของการสร้างสิ่งที่เกิดขึ้น ได้ยากให้ปรากฏขึ้น เพราะนับตั้งแต่ มีการสรรค์สร้างพุทธศิลป์ จำลองรูปเคารพพระรัตนตรัย ในทุกยุคทุกสมัย ยังไม่เคยมีพลังแห่งศรัทธา ของมหาชนในยุคใดจะมากมายขนาดนี้ ประกาศความยิ่งใหญ่แห่งพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย ให้ทั่วโลกได้ประจักษ์ถึง พลังแห่งศรัทธาที่ยากจะมีผู้ใดทำได้ เป็นพยานแห่งจิตใจอันงดงาม และยังผลานิสงส์อันไพศาลแก่ผู้เป็นเจ้าของบุญ ไปอีกนานนับพันปี

 

 

          วันนี้เป็นวันมหามงคล เป็นวันครบรอบ ๑๒๔ ปี ของการบังเกิดขึ้นด้วยรูปกายเนื้อของพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ต่อตัวเราและชาวโลก ตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งหลาย

          ถ้าไม่มีการบังเกิดขึ้นของท่าน ก็จะไม่มีการบังเกิดขึ้นของ วิชชาธรรมกาย และก็จะไม่มีใครได้รู้จัก พระรัตนตรัยภายในที่แท้จริง ซึ่งเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด และก็เป็นสิ่งมีคุณค่าอย่างสูงสุดที่เร้นอยู่ภายใน ณ ตำแหน่งศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านได้ค้นพบ และก็เมตตานำสิ่งเหล่านี้มาเปิดเผย ทำให้เราได้รู้ว่า ภายในตัวของเรารวมทั้งของมนุษย์ทุกๆ คนในโลกมีพระธรรมกายอยู่ และก็สามารถเข้าถึงได้ ด้วยการทำใจหยุดนิ่ง โดยท่านได้สรุปวิธีการที่สำคัญว่า "หยุดเป็นตัวสำเร็จ" 

        ถ้อยคำนี้เป็นถ้อยคำอันประเสริฐ ที่จะเปิดเผยความจริงความลี้ลับ ของสรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งหลาย หมายความว่า ถ้าเราหยุดใจไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ได้ ก็จะพบกับความสำเร็จได้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน จะพบแผนผังชีวิต ๑๘ กาย และจะทำให้เรารู้เรื่องราวความเป็นจริงทั้งหมด ของสรรพสิ่งและสรรพสัตว์ทั้งหลาย แล้วในที่สุดเราก็จะมีใจมุ่งตรงต่อ หนทางมรรคผลนิพพาน รวมทั้งมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรม

         คำว่า "ที่สุดแห่งธรรม" นี้ ไม่ใช่ว่าจะรู้กันได้ง่ายๆ จะต้องเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยขณะ สมัยที่มีผู้มีบุญมีบารมีมาบังเกิด และก็ได้บรรลุวิชชาธรรมกาย กระทั่งบังเกิดธรรมจักขุและญาณทัสสนะ ที่พญามารเขาขวางกันไม่ได้ จึงจะสามารถไปรู้ไปเห็น เรื่องราวที่ละเอียดลึกซึ้งเหล่านี้ แล้วก็จะต้องเป็นบุคคลที่มีธาตุธรรมพิเศษ ที่มีบารมีกลั่นกล้า มีบุญญาธิการมาก ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงปู่ของเราท่านได้ค้นพบความจริงว่าตราบใดที่ยังไปไม่ถึงที่สุดแห่งธรรม สรรพสัตว์ทั้งหลายก็ยังต้องตกเป็นบ่าวเป็นทาสของพญามารอยู่ เขายังบังคับให้โลภ ให้โกรธ ให้หลง ให้เกิด แก่ เจ็บ ตายได้ ดังนั้นท่านจึงมุ่งมั่นที่จะไปแก้ไขสิ่งเหล่านี้ และก็มีมโนปณิธานแน่แน่วที่จะปราบมาร ไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม โดยท่านมุ่งไปขจัดที่ต้นเหตุแห่งกิเลสอาสวะของพญามาร ให้หมดสิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ และตราบใดที่มารยังไม่หมด ท่านก็จะปราบมารอยู่อย่างนี้เรื่อยไป จนกว่างานจะสำเร็จ

       การที่จะหาบุคคลผู้มี มโนปณิธานเยี่ยงท่านนี้ นับว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากในโลก ดังนั้นบุคคลผู้มีจิตใจประเสริฐสูงส่ง ดังเช่นพระเดชพระคุณหลวงปู่ของเรานี้ จึงเป็นบุคคลที่ควรบูชาอย่างยิ่ง และควรอย่างยิ่งที่เราจะแสดงออกถึง ความกตัญญูกตเวที ต่อท่านผู้เป็นมหาปูชนียาจารย์ของเรา ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้นนี้ ในวันนี้เราจึงพร้อมใจกันมาหล่อรูปของท่านด้วยทองคำ เพื่ออัญเชิญท่านให้หวนคืนมาสู่โลกนี้อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้มนุษย์และเทวดาได้กราบไหว้ เคารพสักการบูชา และก็จะได้เป็นทางมาแห่งบุญของเรา

       อานิสงส์แห่งการหล่อรูป ของท่านด้วยทองคำ ก็จะมีอานิสงส์ใหญ่สุดที่จะนับจะประมาณได้ เพราะทำบุญกับท่านก็จะได้ชื่อว่า ทำถูกตัวจริงแท้ของ พระรัตนตรัยนับอสงไขยไม่ถ้วน แล้วก็ทำถูกทักขิไณยบุคคลที่เลิศที่สุด ที่หาได้ยากยิ่งในธาตุธรรม แต่อานิสงส์อย่างน้อยก็จะทำให้เราเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยที่สุดแห่งรูปสมบัติ จะมีผิวพรรณวรรณะเปล่งปลั่งสว่างไสวประดุจทองคำ เกิดมาก็จะมีบุญลักษณะที่สวยงาม เหมือนทองที่งามตั้งแต่เกิด และเราจะเป็นผู้ที่ได้รับการเคารพยกย่องสรรเสริญ จากทั้งมนุษย์และเทวดา เพราะว่าได้สร้างบุญบูชาบุคคลที่ควรบูชา

          แล้วเราก็จะได้ที่สุดแห่งทรัพย์สมบัติ ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านจะเชื่อม สายบุญสายสมบัติให้กับเรา แล้วก็ช่วยรื้อผังจนสร้าง ผังรวยรวดตลอดไปทุกภพทุกชาติ เราจะได้มีสมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่อง รวมทั้งมีสมบัติอัศจรรย์ทันใช้ สร้างบารมีในปัจจุบันชาตินี้ และเราก็จะได้ที่สุดแห่งคุณสมบัติ จะมีความเฉลียวฉลาดมีปฏิภาณดี จะรู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอด ทั้งทางโลกและทางธรรม เราจะได้บรรลุธรรมกันตั้งแต่ยังเยาว์วัย 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล