ฉบับที่ 47 กันยายน ปี 2549

อุไรศรี เอกเศวตอนันต์

 

 

 

        อุไรศรี เอกเศวตอนันต์ หรือ คุณแดง แม้เธอจะอยู่ในวงการสื่อมวลชน ทำหน้าที่โดยตรงในการเป็นผู้สื่อข่าว และผู้ประกาศข่าวเศรษฐกิจประจำสถานีข่าวแห่งหนึ่ง แต่เธอก็เป็นผู้มีประสบการณ์ตรง เกี่ยวกับหลักในการรอดชีวิต ที่เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวเธอที่สุด มาเล่าสู่กันฟัง

 

 

     "คุณพ่อคุณแม่พาเข้าวัดตั้งแต่อายุ ๒ ขวบ และปลูกฝังเรื่องศาสนา เรื่องการมาวัด นั่งสมาธิพร้อมๆ กันทั้งครอบครัวตั้งแต่แดงยังเล็กๆ ดังนั้นการมาวัดของครอบครัวเรา จึงเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของชีวิต แม้ในช่วงที่วัดโดนโจมตีหนักๆ ครอบครัวเราก็ยังคงมาวัด เพราะตั้งแต่ครอบครัวเราเข้าวัดก็มีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้นตลอด อย่างกรณีคุณพ่อของแดง ท่านป่วยเป็นมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลือง ทำให้คุณพ่อเจ็บปวดทรมานมาก จนโรงพยาบาลที่คุณพ่อ รักษาตัวอยู่ในช่วงแรกๆ เขาบอกว่าไม่รับรอง โรคนี้เป็นแล้วต้องทำใจ เพราะเพิ่งมารู้เมื่อตอนที่คุณพ่อเป็นหนักมาก มีอาการถึงขนาดนี้แล้ว หากผ่าเอามะเร็งออก คุณพ่ออาจจะพูด ไม่ได้อีกเลย จึงทำให้ทุกคนในบ้านเป็นกังวลกันมาก เพราะขึ้นชื่อว่าโรคมะเร็งแล้ว ใครๆ ก็คิดว่า ยังไงคนที่เป็นก็ไม่มีทางรอด ในช่วงนั้นนอกจากคุณพ่อต้องใช้พลังใจ และต้องใช้ทรัพย์ในการรักษาตัวมาก เพราะคุณพ่อใช้วิธีการรักษาหลายอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่คุณพ่อทำมากเป็นพิเศษ และไม่ขาดเลยคือ คุณพ่อทำแต่บุญ คุณพ่อได้สร้างพระธรรมกายประจำตัวเพิ่ม ทั้งๆ ที่เคยทำไปหลายองค์แล้ว อีกทั้งยังทำบุญโน้นบุญนี้ จนลูกๆ ต้องบอกคุณพ่อว่า " ป๊าไม่สบาย..ป๊าต้องใช้ เงินเยอะในการรักษาตัวเอง.. ป๊าไม่ต้องทำบุญเยอะก็ได้" แต่คุณพ่อกลับตอบกลับมาว่า " ป๊าต้องทำ..และทำให้มากๆ เพราะการเป็นโรคนี้ บุญเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยป๊าได้..." และที่สำคัญ แม้คุณพ่อจะป่วยแค่ไหน ท่านไม่ทิ้งการทำสมาธิเลย บางทีลุกนั่งขัดสมาธิ ไม่ไหว ก็นอนทำสมาธิ อธิษฐานให้องค์พระช่วยให้หาย คือเรียกได้ว่า แม้กายจะถดถอยอ่อนแรงทรมานปานใด แต่ใจคุณพ่อกลับมีกำลัง เพราะ ท่านอยู่ในบุญตลอดเวลา ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่า อัศจรรย์ใจสำหรับครอบครัวเรา เพราะไม่นานต่อมาทุกคนก็พบว่าร่างกาย คุณพ่อสามารถตอบรับ กับวิธีการรักษาของหมอได้ และอาการเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ มะเร็งก็ชะงักและหยุดแพร่ไปยังร่างกายส่วนอื่น ทั้งๆ ที่การเป็นมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลือง มีโอกาสแพร่ไปสู่ส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้สูง จากนั้น คุณพ่อก็หายสนิท ร่างกายเริ่มฟื้นฟูแข็งแรงขึ้น เหมือนได้ชีวิตใหม่กลับคืนมา แดงรู้สึกว่าที่คุณพ่อหายป่วย เป็นเพราะใจของท่านอยู่ในบุญตลอดเวลา ซึ่งคงเป็นเพราะท่านได้สร้างเหตุโดยการสั่งสมบุญให้เป็นทุนชีวิต โดยการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เพื่อสู้กับสิ่งที่ไม่คาดฝันที่จะบังเกิดกับชีวิต หาก ผู้ป่วยคนนั้นไม่ใช่คุณพ่ออาจจะรอดยาก เพราะคนป่วยโดยทั่วไปขาดความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องการสั่งสมบุญ และการทำใจให้อยู่ในบุญอย่างถูกต้อง ดังนั้นขณะป่วยเขาจะเคว้งคว้าง ขาดสติ ไร้ที่พึ่ง ทรมานทั้งกายและหมดหวังทั้งใจ โดยที่ไม่รู้วิธีการว่าจะต้องทำใจอย่างไรกับอาการป่วยด้วยโรคที่ไม่มีทางรอดอย่างนั้น จากข้อคิดตรงนี้ "แดงว่า คนเราทุกคนควรจะเตรียมตัวโดยการศึกษาธรรมะอย่างครอบครัวเราก็ติดจานดาวธรรม ดู DMC ซึ่งจะมีรายการที่สอนธรรมะด้วยวิธีการง่ายๆ ไม่น่าเบื่อ สนุกสนาน และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ได้จริงเหมือนมีวัดอยู่ที่บ้าน รายการนี้จะสอนหลักการดำเนินชีวิตให้เราอยู่อย่างมีความสุข สอนเรื่องกฎแห่งกรรม สอนวิธีการนั่งสมาธิอย่าง ถูกต้อง มีทั้งรายการเด็ก รายการวัยรุ่น จนถึงวัยชรา ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีสำหรับทุกคน..."

           ทุกวันนี้เธอทำงานด้านสื่อมวลชนอย่างมีความสุข และที่สำคัญได้มาช่วยเป็นผู้ประกาศข่าวในช่อง DMC อีกด้วย

 

 

     "ที่แดงเลือกสายอาชีพด้านสื่อสารมวลชน ทำงานด้านข่าวโดยตรงนี้ ทำให้แดงได้นำความรู้ความสามารถ ในการนำข่าวสารที่เป็นประโยชน์ มาเสนอให้กับคนทั่วไปได้รับรู้ ซึ่งวันนี้แดงก็ภูมิใจที่ได้มาเป็นผู้ประกาศข่าวช่อง DMC เพิ่มอีกช่อง เพราะเป็นการทำให้ชาวพุทธที่อยู่ทั่วโลก ได้รับทราบความเป็นไป ทั้งในแวดวงพระพุทธศาสนา และข่าวสำคัญที่เกิดขึ้นในประเทศไทย"

            แม้งานเธอจะหนัก จะเหนื่อย แต่เธอก็ ไม่ทิ้งการนั่งสมาธิและมาวัดปฏิบัติธรรม ได้อย่างต่อเนื่องพร้อมครอบครัวอย่างไม่เคยขาดเลย"

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล