ฉบับที่ 93 กรกฎาคม ปี2553

ทำไมแม่คนนี้..ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกได้บวช

สัมภาษณ์

เรื่อง : ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์ e-mail : [email protected] ภาพถ่าย : ศูนย์ภาพนิ่ง

 





 

       หลังแต่งงานไม่กี่เดือนก็เริ่มมีอาการแพ้ท้อง คือ เวียนหัว หิวผิดปกติ จากอาหารที่เคยชอบ มาก ๆอยู่ ๆ ก็เกิดเหม็นกินไม่ได้ จนอยากอาเจียน พอได้ไปพบแพทย์จึงได้ทราบว่าตัวเอง ตั้งครรภ์ได้ ๒ เดือนแล้ว ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นตอนนั้น ตื่นเต้นมาก ..ตื่นเต้นที่กำลังจะได้เป็นแม่ และครั้งแรกที่ลูกในท้องดิ้นถีบเราจนท้องโย้ไปโย้มา ได้ตอกย้ำถึงความรู้สึกว่า มีอีกชีวิตหนึ่งที่จะมาอยู่กับเราจริง ๆ จนกระทั่งครบกำหนดคลอด ต้องเจ็บท้องเป็นชั่วโมง ทรมานมากจนทำให้เสี้ยววินาทีนั้น คิดถึงแม่ของเราเอง คิดถึงแม่จนน้ำตาไหล และเพิ่งเข้าใจอย่างซาบซึ้งว่า แม่ของเราเจ็บแค่ไหน เพิ่งเข้าใจถึงความรักที่แม่มีต่อเราตอนนั้นเองว่ามากขนาดไหน เพราะชีวิตน้อย ๆ ที่กำลังจะคลอดอยู่นี้ ทำให้เรารักเขาขึ้นมาอย่างท่วมท้นทันที อย่างที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่รู้เลยว่า โตขึ้นเขาจะเป็นคนดีหรือไม่ดี เขาจะดีได้สมกับความรักที่เราให้เขาหมดใจอย่างนี้ไหม

          ครั้งแรกที่พยาบาลอุ้มลูกมาให้ เราได้ฝึกเป็นคุณแม่มือใหม่ในการให้นมลูก ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลย เห็นลูกตัวแดง ๆ และอ่อนนุ่มนิ่มมาก จะประคองอุ้มลูกก็ยังไม่ชินมือ กลัวลูกเจ็บ กลัวลูกตกลงมา ช่วงที่เราให้นมลูก ๓ เดือนนี้ เป็นช่วงเวลาแห่งภาระแต่มีความสุขที่สุด เป็นช่วงแห่งความผูกพันกับชีวิตในอ้อมแขนอย่างแนบแน่น จนเผลอคิดไปไกลว่า ชั่วชีวิตนี้คงไม่มีความรักไหนเป็นรักแท้ ที่ทำให้เราผูกพันอย่างสามารถเอาชีวิตเข้าแลกได้เหมือนชีวิตน้อย ๆ ที่อยู่ในอ้อมอกนี้อีกแล้ว

วินาทีแห่งความพลัดพราก

          ความรักที่เรามีต่อลูกได้เพิ่มขึ้นทุกวัน ถึงขนาดคิดไปว่า แม้ความตายจะมาหยุดชีวิตเรา ณ ตอนนี้ ก็ไม่อาจหยุดความรักที่เรามีต่อลูกได้ แต่เพราะความจน และเราก็ไม่อยากอดตาย อีกทั้งเรามีภาระ คือ ลูก ทำให้ต้องจำใจกลับไปรับจ้างทำงานโรงงานที่กรุงเทพ เพื่อแลกกับค่าแรงงานขั้นต่ำ เราจึงต้องยกลูกให้ยายเขาเลี้ยงไปก่อน ตอนพรากจากลูกนั้น ทำใจแทบไม่ได้ นอนร้องไห้น้ำตาไหลอยู่เป็นเดือน ๆ เพราะคิดถึงลูกมาก พอเงินเดือนออก ก็รีบส่งธนาณัติไปให้ยายของเขาเพื่อเป็นค่านมลูก อีกทั้งยังเขียนจดหมายไปถามเรื่องลูกไม่เคยขาด

          นับจากนั้น... เราต้องเร่ร่อนทำงานโดยไม่ได้อยู่กับลูก จึงมีความรู้สึกว่า ลูกจะเข้าใจแม่อย่างเราไหม ลูกจะคิดกับเราอย่างไร ลูกรักเราเหมือนกับที่เรารักเขาไหม ตลอดเวลาที่ผ่านมานานถึง ๒๑ ปี สิ่งหนึ่งที่อยู่ในใจเรานับตั้งแต่คลอดเขา คือ เราไม่เคยได้ยินคำว่า รักแม่ ออกจากปากเขาเลย แต่สำหรับเราแล้ว เราก็ไม่เคยรักลูกลดลงเลย แถมยังทรมานใจที่ครอบครัวเราไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอย่างมีความสุขเหมือนกับครอบครัวอื่น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เราเป็นห่วงลูกมากกว่าแม่ปกติทั่วไป เพราะกลัวลูกจะกลายเป็นเด็กมีปัญหา

          พอเขาโตเป็นวัยรุ่น เป็นช่วงที่ลูกเกเรที่สุด จนเรารู้สึกทุกข์มาก วัน ๆ ต้องมานั่งกังวลว่า ลูกจะไปตั้งวงเหล้าที่ไหน จะไปก่อเรื่องกับใคร จะไปนอนค้างบ้านเพื่อนคนไหน ห่วงจนอดโทร.หาลูกไม่ได้ เพราะเราเห็นมานักต่อนักแล้วว่า คนกินเหล้าสุดท้ายก็ขาดสติ ทำเรื่องที่ไม่คาดคิด บางครั้งก็ต้องมาเสียชีวิต และถ้าลูกเราต้องเป็นอย่างนั้นไปจริง ๆ แม่อย่างเราจะทำอย่างไร และพอเราโทร.ไปหาลูก เราบอกลูกว่า อย่ากินเหล้านะลูก เขาก็ตอบเราว่า ครับแม่ แต่ไอ้ครับ ๆ นี่แหละ กำลังเมาแป้คาขวดอยู่ และพอเราบอกลูกว่าอย่าดื้ออย่าเกเร เขาก็ว่าแม่ไม่เข้าใจวัยรุ่น

          ช่วงนั้น..ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนเป็นแม่อย่างเราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร จนกระทั่งเราได้มารู้จัก วัดพระธรรมกาย ทำให้เราซาบซึ้งในธรรมะ เห็น ข้อวัตรปฏิบัติของหลวงพ่อ เห็นพระที่มีศีลาจารวัตรงดงาม ทำงานให้พระพุทธศาสนาอย่างทุ่มชีวิต อย่างนี้ เราจึงเกิดความคิดขึ้นมาว่า อยากให้ลูกชายเรา ได้บวชเป็นพระวัดนี้กับเขาบ้าง จะได้ฝึกตน แก้ไขในสิ่งไม่ดี และนับจากนั้นไม่ว่าจะทำบุญอะไร ก็อธิษฐานขอให้ลูกชายเราได้บวช จนกระทั่งหลวงพ่อจัดให้มีโครงการบวช ๑๐๐,๐๐๐ รูป เราจึงคิดว่า คราวนี้เป็นอย่างไรเป็นกัน ต้องเกลี้ยกล่อมให้ลูกชายบวชในโครงการนี้ให้ได้ เพราะเราอยากให้เขาเป็นคนดี เราไม่อยากเป็นห่วงลูกไปจนวันสุดท้ายของชีวิตความเป็นแม่

          จากนั้นเราก็โทร.ไปหาลูก บอกให้เขามาหาแม่หน่อย พอเขามาเราก็พาเขาไปวัด พาลูกเข้าไปกราบรูปหล่อหลวงปู่วัดปากน้ำ อธิษฐานบอกท่านว่า นี่คือ ลูกชายของลูก วันนี้ลูกจะมายกลูกคนนี้ถวายให้เป็นลูกหลวงปู่ กราบขอบารมีหลวงปู่ดูแลให้เขาอยู่ในเส้นทางบุญ ขอให้เขาได้บวชด้วย และช่วงที่เราพาลูกมากราบรูปคุณยายอาจารย์ฯ เราก็ได้บอกให้เขาสัญญากับเราว่า นับจากนี้เขาจะไม่ทำตัวเกเรอีก เกิดมาชาตินี้แม่ไม่ขออะไรมาก ขอให้ลูกบวชให้แม่ที่วัดนี้สักครั้งได้ไหม ลูกก็ตอบเราออกมาว่า บวชก็ได้...

 

 

ลูกหนีบวช

          หลังจากที่ลูกรับปากเราว่าจะบวชก็จริง แต่สิ่งที่เขาทำกลับตรงกันข้ามทุกอย่าง จนตอนหลังเรามารู้ว่า ลูกตอบเราไปอย่างนั้นเอง แต่หากเขามาแอบรู้ความรู้สึกของผู้เป็นแม่ที่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้า ที่จะให้ลูกชายได้บวชอยู่กับหลวงพ่อแล้ว เขาจะรู้ว่า คำพูดของเขาในวันนั้น ทำให้เราดีใจมากที่สุดในชีวิตเหมือนไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แต่พอเหตุการณ์กลายเป็นแบบนี้ ใจมันเจ็บแปลบ รู้สึกสะเทือนใจ เสียใจ แต่ก็บอกใครไม่ได้ เพราะรู้ว่า ถ้าพูดไป เขาจะหาว่าเราเป็นแม่ที่เวอร์ หรือบังคับลูกจนเกินไป แต่หากทุกคนได้มายืนในสถานะเดียวกับเรา คือ เป็นแม่จน ๆ ที่ไม่มีสมบัติอะไรจะให้ลูก แต่สิ่งเดียวที่จะให้เขาได้ คือ ทำให้เขาเป็นคนดี ซึ่งหากสิ่งนี้แม่อย่างเรายังให้เขาไม่ได้อีก เราคงตายตาไม่หลับ

          ตอนนั้นเรากังวลมากจนต้องลางานไปลพบุรี ยอมขาดรายได้ไปช่วงหนึ่ง เพื่อไปพูดให้ลูกยอมบวชให้ได้ พอไปถึงลูกชายก็ถามเราว่า แม่มาทำไม แต่เขามองตาเรา เขาก็รู้ว่าเราจะมาเอาเขาไปบวช ลูกชายก็เลยรีบโทร.หาเพื่อน ให้ขับรถมารับพาเขาหนีไปนครสวรรค์ทันที

          การกระทำของลูกในครั้งนั้น ได้ทำให้แม่สะเทือนใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า การที่ลูกรับปากแม่แล้วไม่ยอมบวชให้และหนีไปอย่างนี้ ทำให้ทุกอย่างคลาดเคลื่อนเลือนรางไปหมด แม้เราโทรศัพท์ไปหาลูก เขาก็ไม่ยอมรับสาย หายหน้าหายตาไปเลย และขณะเดียวกัน ยายเขาก็โทร.มาว่า ลูกชายเราไปอยู่กับเพื่อนไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องอีกแล้ว ไปตั้งวงเหล้า เป็นไอ้ขี้เมาอีก เราจึงคิดในใจว่า หากเราเอาลูกบวชได้ จะไม่ให้เขาบวชที่ลพบุรี เพราะเพื่อนต้องไปชวนให้สึกออกมากินเหล้ากันต่อ กลัวลูกอยู่ไม่จบโครงการ ช่วงนั้นจึงนั่งสมาธิอธิษฐานขอหลวงปู่ และทำทุกวิถีทาง เดินสายหาคนไปช่วยพูดกับลูกชาย เพื่อให้เขายอมบวช และสุดท้ายก็ไปปรึกษาพระอาจารย์หัวหน้าศูนย์อบรมที่ จ.ขอนแก่น บอกท่านว่า อยากให้เขาบวชไกล ๆ บ้าน ให้บวชที่ขอนแก่น จะได้หนีกลับบ้านไม่ได้ ท่านก็รับปากว่าจะช่วย จากนั้นเราจึงโทร.ไปนัดแนะกับยายว่า ทำอย่างไรก็ได้ให้หลานอยู่บ้านคืนนี้ให้ได้ จากนั้น.. เราผู้เป็นแม่ก็แอบเตรียมชุดนาค เตรียมเครื่องใช้ ในการอบรมทุกอย่างให้ครบ และคืนนั้นเอง.. พระอาจารย์ก็ให้คนขับรถตีรถจาก จ.ขอนแก่นไป จ.ลพบุรี ไปถึงบ้านเราเที่ยงคืน ปรากฏว่าลูกหลับไปแล้ว แต่ก็ไปปลุกเขาขึ้นมา และให้พระอาจารย์พูดชวนไปขอนแก่นในคืนวันนั้นทันที ซึ่งทันเข้าโครงการอบรมธรรมทายาทเพราะเป็นวันเปิดการอบรมพอดี

          นับจากนั้นเราก็นั่งภาวนาทุกลมหายใจว่าให้ลูกเราบวชให้ได้ ให้เขาอยู่จนครบโครงการให้ได้ นับวันรอจนถึงวันที่ต้องไปทำพิธีขอขมาด้วยใจที่ตุ๋ม ๆ ต่อม ๆ ตลอดเวลาว่า ลูกจะหนีไปหรือยัง แต่พอเราเห็นลูกอยู่ในขบวนแถว ก็รู้สึกดีใจ เต็มตื้นน้ำตาซึม อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และกราบแรกที่ลูกก้มกราบเรา เรานึกขอบพระคุณหลวงปู่ที่ช่วยให้เรามีวันนี้ เป็นวันที่แม่อย่างเรารอคอยมาชั่วชีวิตก็ว่าได้ ซึ่งก็เหลือเชื่อค่ะ ที่สุดท้ายลูกชายยอมบวชจนจบโครงการ และก็ตัดสินใจบวชเป็นพระพี่เลี้ยงช่วยงานบวชอุบาสิกาแก้วต่อทั้ง ๒ รุ่น

          ตอนลูกบวชอยู่ เรารู้สึกหมดห่วงในทุกสิ่ง หากเป็นไปได้เราอยากให้เขาบวชอย่างนี้ตลอดไป สิ่งนี้เราไม่ได้ปรารถนาเพื่อตัวเอง แต่เราอยากให้ลูกบวชเพื่อให้เขามีชีวิตที่ปลอดภัยในวัฎสงสาร เพราะความรักจากแม่แม้มากขนาดไหน หรือจะเอาหัวใจของความเป็นแม่มาเดิมพัน ก็ช่วยให้ลูกไม่ให้ตกนรกจากความผิดพลาดที่เขาเคยทำมาไม่ได้ แต่หากเราทำให้ลูกได้บวช บุญบวชนี่แหละจะอุ้มไม่ให้ลูกเราตกนรก เพราะไม่มีแม่คนไหนอยากให้ลูกตัวเองตกนรก และถ้าลูกเป็นพระเราก็ไม่ต้องห่วงอะไรมากว่า วัน ๆ เขาจะไปกับใคร ไปไหน เพื่อนที่เขาคบดีไหม ขับรถดึก ๆ จะไปชนไหม วันที่ลูกกินเหล้า เขาจะไปมีเรื่องไหม เพราะขณะบวชในโครงการของหลวงพ่อนี้ เขาต้องเอากำลังกาย กำลังใจมาช่วยงานพระศาสนา ช่วยงานหลวงพ่อ ซึ่งตัวเขาเองก็ได้บุญ พระศาสนาก็เจริญ

 


 

คำว่ารักจากลูก ที่แม่รอคอยมาถึง ๒๑ ปี

          มีวันหนึ่งที่พระลูกชายโทร.มาหาเรา ได้บอกเราว่า ท่านได้อะไรดี ๆ จากการบวชมากมาย ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ท่านภูมิใจที่ได้เป็นพระอาจารย์เทศน์สอนด้วย และท่านได้มาสารภาพกับเราว่า ตลอดเวลาก็รู้ว่าโยมแม่รักและเป็นห่วง แต่ที่ผ่านมาขอดื้อบ้าง เพราะเป็นช่วงวัยรุ่น และท่านก็บอกโยมแม่ว่า รักโยมแม่นะ พอเราฟังตรงนี้ เราเต็มตื้นมาจุกอยู่ที่คอ เพราะตลอดเวลา ๒๑ ปีเท่าอายุลูก เราไม่เคยรู้เลยว่า ลูกคิดอย่างไรกับเรา แต่วันนี้เรารู้แล้วว่า เขารักแม่

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล