ฉบับที่ 91 พฤษภาคม ปี2553

สายตาไม่ดี

เรื่อง : โค้ก อลงกรณ์

 

 

สายตาไม่ดี

 

      สมมุติว่าเรื่องที่จะอ่านจากนี้ไปเป็นการทดสอบสายตา เราลองมาตรวจเช็กกันดูเลยนะครับว่า สายตาของเรานั้นยังดีอยู่หรือไม่ ถ้ายังดีอยู่ ดีมากหรือน้อยแค่ไหน?

      เดือนที่ผ่านมาวงจรชีวิตของผมได้โคจรเข้าไปใกล้ ๆ กับการทำงานของจักษุแพทย์ที่มาตรวจเช็ก ดวงตาและการมองเห็นของหลวงพ่อ เพราะก่อนหน้านี้หลวงพ่อท่านได้รำพึงเกี่ยวกับสายตาให้ได้ยิน

      คำรำพึงจากหลวงพ่อนั้นใช่ว่าจะได้ยินกันบ่อย ๆ เมื่อได้ยินแล้วผมชอบเก็บรวบรวมและนำมาคิด และถือเป็นธรรมเนียมส่วนตัวที่จะจัดระเบียบคำรำพึงที่ได้ยินนั้นให้เป็นหมวดหมู่ เพื่อให้ง่ายต่อการนำมาใช้และจดจำ

      บางทีอาจเป็นแค่รำพึงขึ้นมาลอย ๆ ไม่ได้มีความหมายในเชิงลึก หรือเป็นคำรำพึงเพื่อให้ได้นำไปคิดต่อ ให้จดจำนำไปปฏิบัติ หรืออาจเป็นแค่คำรำพึงในช่วงเวลาหนึ่ง ที่มีอารมณ์ความรู้สึกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงอย่างเดียว

      แต่ไม่ว่าคำรำพึงที่เกิดขึ้นจะเพื่อวัตถุประสงค์ใดก็ตาม ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะนำทุก ๆ คำรำพึง ที่ได้ยินจัดรวบรวมเข้าไปอยู่ในหมวดหมู่ที่ผมชอบให้หมด นั่นคือ หมวดหมู่คำรำพึงแห่งความสุขใจ

      คำรำพึงในหมวดหมู่นี้ถ้าหากเปรียบเป็นบทเพลง ก็จะมีท่วงทำนองที่ใครได้ยินแล้วจะเกิดความรู้สึกสบายใจ สดชื่น ชุ่มเย็น พร้อมกับมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า

     ส่วนเนื้อหาคำรำพึงก็คงเป็นเรื่องสายตาที่ยาวไกล เฉียบคม สามารถมองตามนกที่บินไปในอากาศได้ไกลหลายสิบกิโล หรือมองยอดสนบนภูเขาไกล ๆ ที่มองแล้วสามารถบอกได้ว่ายอดสนกำลังเอนไหวไปทางซ้ายหรือขวา หรือมองขึ้นไปแล้วนับจำนวนดวงดาวบนฟ้าได้ว่ามีทั้งหมดกี่ดวง

      แต่ปรากฏว่าคำรำพึงที่ได้ยินในครั้งนี้ผมจำเป็นต้องจัดให้ไปอยู่อีกหมวดหมู่หนึ่งเป็นหมวดเอสโอเอส

     เอสโอเอส (S.O.S.) สัญญาณขอความช่วยเหลือสากลที่รู้จักกันทั่วโลกแม้ความจริงS.O.S.ไม่ใช่คำย่อ และไม่ได้มีความหมายอะไรในตัวเอง เป็นแค่เพียงรหัสมอร์ส ที่ใช้ส่งโทรสารหรือสัญญาณวิทยุ ด้วยความที่โดดเด่นจากสัญญาณมอร์สอื่น ๆทำให้ผู้รับสัญญาณ จะเห็นข้อความนี้เด่นชัด และสามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันดังนั้นเมื่อจัดคำรำพึงอยู่ในหมวดนี้นั่น ก็หมายความว่าเราต้องรีบ เข้าช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด

    เมื่อทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นลำดับเริ่มตั้งแต่ค่ำที่หลวงพ่อเข้าสอนในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันฯ แล้วท่านต้องเพ่งมองตัวอักษรที่จะอ่านมากกว่าปกติ เมื่อหันมองซ้ายขวาหลวงพ่อเริ่มรำพึงว่าเห็นหน้าผู้ที่มาเข้าเรียนไม่ค่อยชัด

       หลังจากที่คุณหมอมาตรวจและสืบสาวจึงได้ทราบสาเหตุ คืนวันหนึ่งผงฝุ่นที่ปะปนมากับควันไฟได้ลอยมาปะทะขณะที่หลวงพ่อกำลังสอน หลังจากนั้นก็มีผลทำให้หลวงพ่อต้องรำพึงออกมาอย่างที่ได้ยิน

      สรุปความคำรำพึงให้กระชับก็จะได้ความว่า หลวงพ่อสายตาไม่ค่อยดี

      ถ้าย้อนกลับไปช่วง ๒ ปีที่ผ่านมา ผมได้ยินหลวงพ่อรำพึงเรื่องสายตาไม่ดีเป็นระยะ ๆ มาก่อนแล้ว แต่ในเวลานั้นผมกลับมีความรู้สึกว่าไม่น่าวิตกแต่อย่างใด ซ้ำยังดำเนินการจัดคำรำพึงที่ได้ยินเข้าไปไว้ในหมวดหมู่แห่งความสุขใจเป็นที่เรียบร้อยอีกด้วย

      ครั้งนั้นหลวงพ่อเพ่งมองจุดเล็ก ๆ สีดำบนฝ้าเพดานแล้วชี้ให้มองตามพร้อมกับรำพึงว่า สายตาหลวงพ่อไม่ดี ช่วยดูว่านั่นใช่ยุงหรือเปล่า

      เมื่อปีนเก้าอี้ขึ้นไปดูใกล้ ๆ ก็ปรากฏว่าเป็นยุงจริง ๆ แล้วสวิงจับยุงก็ปฏิบัติหน้าที่จับผู้ต้องสงสัยออกไปปล่อยนอกห้อง

    บ่อยครั้งที่เป็นเช่นนี้ บางทีท่านก็มองเห็นผู้ต้องสงสัยผอมบางเกาะที่กระจก เกาะที่มุ้งลวด ที่ ผ้าม่าน เห็นเขาบินเข้ามาในห้องปฏิบัติธรรม เกาะในทุก ๆ ที่ที่คนสายตาดี ๆ อย่างเราน่าจะมองเห็นก่อนหลวงพ่อ

       การมองเห็นก่อนหลังจะเกี่ยวข้องกับการมีสายตาดีหรือไม่ดีหรือไม่ หรือว่าการมองเห็นหรือไม่เห็นอยู่ที่ความสนใจและใส่ใจในสิ่งที่จะมอง

       เป็นเรื่องน่าแปลกที่บางทีท่านก็มองเห็นข้าวของเครื่องใช้ชำรุด มองเห็นสมบัติพระพุทธศาสนาทรุดโทรมเสียหาย เห็นแล้วก็บอกให้รีบมาช่วยกันซ่อมโดยด่วน

      ที่น่าทึ่งกว่าก็คือนอกจากท่านจะมองเห็นโทษภัยของอบายมุข สิ่งเสพติด ของมึนเมาต่าง ๆ แล้ว หลวงพ่อยังมองเห็นช่องทางแก้ไขที่ง่ายแสนง่ายและได้ผลยอดเยี่ยมอีกด้วย

     บ่อยครั้งที่หลวงพ่อรำพึงถึงวัดต่าง ๆ ที่มีหลวงตาอยู่ดูแลเพียงรูปเดียว คนไม่ค่อยเข้าวัดและการบวชน้อยลง ๆ ทุกปี พระพุทธศาสนาถูกรังแกและถูกทำให้อ่อนแอลงเรื่อย ๆ ภัยเงียบที่รุกคืบใกล้เข้ามาเช่นนี้ ทั้งที่รำพึงว่าสายตาไม่ดีแต่หลวงพ่อก็มองเห็นชัดเจน

     คำรำพึงอีกคำหนึ่งที่ได้ยินบ่อย ๆ นั่นคือ หลวงพ่อเป็นห่วงพระพุทธศาสนา แม้ว่าสายตาไม่ค่อยดี ก็ยังมองเห็นช่องทางเล็ก ๆ ที่คนส่วนใหญ่ยังมองไม่เห็นหนทางที่จะแก้ไขภัยเงียบที่ว่านี้

    ศีลธรรมเยาวชนเสื่อมหลวงพ่อก็ฟื้นฟูให้กลับคืนมาตามวิธีที่มองเห็น ชวนให้ชายไทยมาบวชและจัดให้มีการเดินธุดงค์เพื่อเรียกศรัทธาสาธุชนให้ตื่นตัวขึ้นมาทำบุญตักบาตรพร้อมกันทั่วประเทศ

    การมองเห็นภัยที่แอบซุ่มเงียบใช่ว่าเห็นได้ง่าย ๆ แต่ยังมองเห็นไปถึงวิธีการแก้ไขซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นยากยิ่งกว่า เพราะขนาดคนที่มีสายตาดี ๆ อย่างเรายังมองไม่เห็น ทำให้ชักไม่แน่ใจแล้วว่าใครกันแน่ที่สายตาไม่ดี

      นี่ขนาดหลวงพ่อบอกว่าสายตาไม่ดียังมองเห็นได้อย่างนี้ หากสายตาดี ๆ อะไรจะเกิดขึ้น จึงเป็น เรื่องยากต่อการตัดสินใจว่าควรจะจัดคำรำพึงที่ได้ยินเข้าไปไว้ในหมวดหมู่ใดดี โดยเฉพาะใน ครั้งนี้ ถ้าต้องจัดจริง ๆ ผมก็ยังอยากจะจัดให้เข้าอยู่ในหมู่ของคำรำพึงแห่งความสุขใจเช่นเดิม

     เหตุผลก็คือในขณะที่หลวงพ่อใช้สายตาได้ไม่เต็มที่ แต่ก็ทำให้หลวงพ่อได้พักสายตาและมีเวลา ปฏิบัติธรรมเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

     เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้ อย่าลืมว่าเรากำลังทดสอบสายตากันอยู่นะครับสังเกตเห็นหรือไม่ว่าที่ท่านอ่านผ่านมาได้พบคำผิดบ้างหรือไม่ถ้าพบรวมทั้งหมดได้กี่คำ

     ไม่ต้องย้อนกลับไปอ่านใหม่ หรือตรวจหาคำผิดให้เสียเวลาหรอกครับ ถึงจะพบหรือไม่พบคำผิด นั่นไม่สำคัญ สิ่งสำคัญยิ่งกว่าในตอนนี้ ก็คือ สายตาคู่นี้ของเรายังอ่านต่อไปได้เรื่อย ๆ หรือไม่ และยังมองเห็นชัดเจนดีอยู่ไหม

    ยังมองเห็นเส้นทางสร้างบารมีที่จะก้าวเดินชัดเจนอยู่ไหมยังมองเห็นบุญกุศลที่เราได้ทำมาและที่จะสั่งสมต่อไปชัดเจนดีอยู่หรือไม่ยังเห็นความดีของคนรอบข้างเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมใช่ไหมและยังมองเห็นคุณค่าในตัวของเราอยู่หรือเปล่าถ้ายังมองเห็นชัดเจนดีอยู่ ผลการตรวจสอบก็ออกมาว่า ท่านสายตาดีดีเยี่ยมจนน่าที่จะต้องรำพึงออกมา ส่วนจะจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ใดก็แล้วแต่ท่านตามอัธยาศัยครับ

..............................................................

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล