ฉบับที่ 43 พฤษภาคม ปี 2549

บินไปสู่ความสุข

สัมภาษณ์พิเศษ

: ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์    e-mail : [email protected]
 

 

 

     เวลาเฉลี่ยของการอ่านคอลัมน์นี้คือ ๗ นาที และใน ๗ นาทีนี่เองจะเป็นช่วงเวลาที่จะทำให้คุณได้รับรู้ถึงเรื่องราวของคนๆ หนึ่ง ที่ยอมจ่ายเงินค่าเครื่องบินถึงสัปดาห์ละ ๔,๕๕๐ บาท เพื่อเดินทางมาวัดให้ได้ทุกอาทิตย์ ทั้งๆ ที่เธอเป็นเพียงคนทำมาหากินคนหนึ่ง ที่ไม่ร่ำรวยอะไรแต่ทว่า..เป็นเพราะเธอมาวัดเป็นประจำอย่างนี้หรือเปล่า ถึงทำให้เธอมีสิ่งที่คนรวยและคนจนหลายคนไม่มี นั่นคือ "เวลาแห่งความสงบสุขของชีวิต"...

     จากข้อมูลข้างต้น ก่อให้เกิดคำถามตามมาอย่างมากมายว่า สิ่งที่เธอทำโอเว่อร์(over)เกินไปหรือเปล่า..? ทำไมเธอต้องลงทุนจ่ายค่าเครื่องบินไปกลับกรุงเทพ-เชียงใหม่ในการมาวัดต่อปีนับแสนบาท... เธอได้สิ่งตอบแทนที่คุ้มค่ากว่านั้นหรือ..? และทำไมเธอไม่นั่งดูรายการธรรมะที่ถ่ายทอดผ่านจานดาวเทียมหรือที่เรียกว่าจานดาวธรรมที่บ้านล่ะ ทั้งๆ ที่ประหยัดเงินและเวลากว่ากันเยอะเลย..!!
        เราป้อนคำถามให้กับเธอ อย่างไม่ขาดสายแต่กลับสู้คำตอบอย่างเย็นๆ ที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุขและความเบิกบาน ภายใต้บุคลิกอันกระตือรือร้นของเธอไม่ได้...
        คุณจิราภรณ์ อุครานันท์ เจ้าของธุรกิจส่งออกสินค้าหัตถกรรมของภาคเหนือ วันนี้เธอจะมาพูดถึงความโดดเด่นในชีวิต ที่ทำให้เธอมีความสุขอย่างเหลือเฟือ...

 

 

       "จากการที่ได้เข้าวัดพระธรรมกาย โดยการแนะนำของน้องชายคือคุณหมอประภาส อุครานันท์ ทำให้ได้มาวัดนานกว่า ๑๘ ปีแล้ว และในแต่ละครั้งที่มาวัด ก็รู้สึกประทับใจความเป็นระบบระเบียบ ศรัทธาในคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ชอบที่ท่านสร้างอะไรใหญ่โต สร้างจนกระทั่งเป็นสถานที่รวมคนจากทุกสารทิศ ที่ต่างข้ามน้ำข้ามทะเล มาฝึกสมาธิกันมาทำความดีกัน เพราะยาก..ที่จะมีใครสักคนกล้าคิดกล้าทำได้แบบนี้ แล้วอีกอย่างวัดนี้เป็นวัดที่เน้นการปฏิบัติธรรมมากๆ คือมีการสอนสมาธิทั้งเช้า-บ่าย ซึ่งในช่วง ๑๐ ปีแรกของการมาวัด จะมาเฉพาะวันอาทิตย์ต้นเดือนเท่านั้น แต่ในปีพ.ศ. ๒๕๔๑ ได้ฟังโอวาทจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ท่านบอกให้มาวัดทุกวันอาทิตย์ ทำให้ต้องมาวัดทุกอาทิตย์นับจากนั้น ซึ่งทีแรกก็คิดเหมือนกัน ว่าหากเรามาวัดทุกวันอาทิตย์ เกรงว่าคงจะเสียลูกค้าไปบ้าง เพราะวันอาทิตย์เป็นที่ทำรายได้ดี แต่ก็แปลกค่ะ พอได้ตัดสินใจมาวัดทุกอาทิตย์ รายได้ของเรากลับเข้ามามากขึ้นในวันอื่นแทน แม้ในช่วงIMFที่เศรษฐกิจทรุดตัวหนักๆ จากที่เมื่อก่อนเคยขายได้เป็นล้านๆ ทำให้ขายได้เพียงไม่กี่แสน แต่พอหักลบกลบหนี้แล้วรายได้กลับไม่ตกเลย จนต้องย้อนมาดูว่าได้เกิดอะไรขึ้นหรือ พอมาตรวจสอบดูจึงมารู้ว่า เป็นโชคดีของเราที่ลูกค้าเลือกซื้อแต่สินค้าที่ทำกำไรให้เราสูงๆแทน และการมาวัดก็ไม่ได้ทำให้เฉพาะเรื่องรายได้ที่ดีขึ้นเท่านั้น ยังทำให้ชีวิตด้านอื่นของเราก็ดีขึ้นไปพร้อมๆกัน จึงทำให้มั่นใจในบุญมากขึ้น และในปัจจุบันก็มาวัดวันทุกอาทิตย์อย่างนี้เป็นเวลาติดต่อกันกว่า ๘ ปีแล้ว"

         มาวัดทุกอาทิตย์ ในกรณีที่บ้านอยู่ใกล้ๆ ยังไม่ใช่เรื่องแปลก แต่..บ้านเธออยู่ตั้งไกลนะสิ!!

        "บ้านอยู่ที่จังหวัดลำพูน แต่พอถึงวันอาทิตย์ ก็รีบตื่น ออกจากบ้านตี ๕ กว่า นั่งรถมาจังหวัดเชียงใหม่ มาขึ้นเครื่องบินให้ทัน เที่ยวบิน ๗ โมงเช้า มาถึงดอนเมือง ก็ ๘ โมง จากนั้นก็นั่งแท๊กซี่ต่อมาถึงวัดเกือบ ๙ โมง มาปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิทั้ง เช้า-บ่าย ทำบุญฟังเทศน์จนเสร็จ ก็ออกจากวัดไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองเที่ยวบิน ๑ ทุ่ม คือจะลงตัวแบบนี้แทบทุกอาทิตย์ ที่ทำแบบนี้หลายคนอาจจะดูว่าเราโอเว่อร์ไปรึเปล่า ซึ่งจะคิดอย่างนั้นก็ได้ แต่เพราะเราโอเว่อร์แบบนี้ เลยทำให้ชีวิตดีขึ้น และมีชีวิตที่มีแต่สาระเท่านั้น"

 


แล้ว..เสียดายเงินค่าเครื่องบินไหม?

         "ไม่เสียดายค่ะ ไม่ใช่เพราะมีเงินเหลือเฟือ แต่เป็นเพราะถ้าเราไม่มาวัด ไม่มาทำบุญ เราอาจจะมีเหตุร้ายๆ ที่ทำให้ต้องสูญเสียเงินมากกว่าค่าเครื่องบินอีกหลายเท่านัก เพราะเงินมีทางมา ก็ต้องมีทางไปขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกใช้เงินไปทางไหน และการที่ทุ่มเทมาวัดถึงขนาดนี้ ก็เพื่อทำให้ตัวเรามีบุญมากพอที่จะรองรับสมบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งก็จริงๆ เพราะได้ประสบเรื่องนี้กับตัวเองคือ อย่างเวลาที่จ่ายเงินค่าเครื่องบินมาวัด ๔พันบาท แต่ทำให้ในวันธรรมดามีรายได้มากกว่าค่าเครื่องบินเสียอีก อีกทั้งลูกค้าก็ไม่คิดจะติดต่อกับคู่ค้ารายอื่นๆนอกจากเราเท่านั้น ทำให้ยังไงก็ขายได้แน่นนอน ไม่ต้องกังวลเรื่องค้าขายเลย คิดแต่จะสั่งสมบุญอย่างเดียวเท่านั้นก็พอ และสิ่งไม่ดีก็ไม่เกิดกับเรา จนบางทีรู้สึกประหลาดใจอย่างไม่น่าเชื่อ เช่นตอนที่ประสบอุบัติเหตุรถชน แต่เรากลับไม่เป็นอะไรทั้งรถทั้งคน อีกทั้งก็เจอแต่เรื่องที่ทำให้แคล้วคลาด จะเจอแต่สิ่งดีๆ ผิดกับบางคนที่ประมาทในชีวิต ไม่มาวัด ไม่ทำบุญ มักจะเจอแต่เรื่องร้ายๆ เจอแต่เรื่องกลุ้มๆ เข้ามาในชีวิตตลอด จนชินและคิดว่าเป็นธรรมดาของชีวิต ทำให้ไม่คิดแก้ไข ซึ่งแท้จริงแล้ว เรื่องร้ายๆ สามารถแก้ไขได้ด้วยบุญ"

 

 

ถ้าหากเราส่งเงินมาทำบุญอย่างต่อเนื่องโดยไม่ขาดทุกอาทิตย์ แต่ไม่มาวัด ก็ได้บุญเหมือนกันไม่ใช่หรือ ??

         "การทำบุญด้วยเงิน ผลบุญก็จะทำให้เราได้แต่เงิน แต่บุญละเอียดเราจะไม่ได้ บุญละเอียดก็คือ บุญที่เกิดจากการที่ได้มานั่งสมาธิกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ซึ่งการมาสมาธิที่วัดศักดิ์สิทธิ์ กว่าการนั่งหน้าจอจานดาวธรรมที่บ้าน จะเปรียบเทียบเหมือนกับแม่เหล็ก ยิ่งอยู่ใกล้มากเท่าไหร่ สนามพลังก็ยิ่งเข้มข้นมากเท่านั้น แล้วที่สำคัญก่อนจะทำบุญ เราจะได้นั่งสมาธิจนกระทั่งใจสงบนิ่งมากๆก่อนทำบุญ ตรงนี้ถือเป็นหลักวิชชาหรือเคล็ดลับสำคัญเลยก็ว่าได้ เพราะก่อนทำบุญ ถ้าเราทำใจให้สงบเป็นสมาธิก่อนทำบุญทุกครั้ง เวลาบุญส่งผลก็จะทำให้เราได้ทรัพย์มาอย่างเย็นๆ ง่ายๆ ไม่ร้อนรุ่มกลุ้มใจ ไม่มีความทุกข์ใจก่อนจะได้ทรัพย์ และสิ่งนี้ได้พิสูจน์กับตัวเองแล้ว พบว่าตั้งแต่มาวัดทุกอาทิตย์ ได้นั่งสมาธิก่อนทำบุญ เงินทองจะเข้ามาแบบง่ายๆ คือ ไม่ต้องคิดหาเงิน ไม่ต้องมีเงื่อนไขอะไรก่อนจะได้เงิน ไม่ต้องเหนื่อยจนสายตัวแทบขาดก่อนได้เงิน หรือไม่ต้องปวดหัวกับปัญหาก่อนได้เงิน และเงินที่ได้ก็เป็นเงินที่ได้มาอย่างเย็นๆ เช่นลูกค้าโทรมาสั่งของ ก็จะโอนเงินมาล่วงหน้าทันที โดยที่ไม่ต้องมีหลักฐานหรือเอกสารอะไรค้ำประกันเลย ทั้งๆ ที่เงินนั้นก็ไม่ใช่น้อยเลย ซึ่งก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่า ทำไมลูกค้าถึงไว้ใจเรามาก ทั้งๆที่เป็นชาวต่างชาติด้วยซ้ำ และเวลาจะทำอะไรก็มีคนอยากจะช่วยเหลือเรา ทำให้มั่นใจได้เลยค่ะว่า เป็นผลมาจากบุญละเอียดที่ได้จากการขวนขวายในการมาวัดทุกอาทิตย์"

เคยมีใครมาว่าเรื่องมาวัดบ่อยๆ ไหม?

       "ยังไม่เคยมีใครว่าเลยค่ะ หรือแม้แต่การว่าวัดว่าไม่ดี ก็ยังไม่เจอกับตัวเอง ซึ่งบางทีก็ดูเหมือนเขาอยากจะว่าเหมือนกัน แต่พอเขาเห็นเราเป็นคนดี ไม่มีอะไรเสียหาย เข้าวัดแล้วชีวิตก็ดีขึ้นในทุกด้าน เขาจึงไม่คิดจะว่าเรา ไม่คิดว่าวัดด้วย...

        ทุกวันนี้ชอบการมาวัดทุกอาทิตย์มาก เพราะถือว่าเป็นการพักผ่อน เหมือนได้มาพักใจ ทำให้ใจมีความสุข และก็ยิ่งทราบซึ้งกับประโยคที่ว่า เราเกิดมาสร้างบารมี เพราะทำให้เห็นเป้าหมายการดำเนินชีวิตชัดเจนยิ่งขึ้น และทุกวันนี้เรายึดหลักของการสร้างบารมีแบบไม่มีข้อแม้ คือจะไม่คิดว่า..ไว้รวยก่อนแล้วค่อยทำ หรือไว้แก่ๆก่อน หรือไว้ย้ายไปอยู่บ้านใกล้วัดก่อนแล้วค่อยมาวัดทุกอาทิตย์ อะไรทำนองนี้ คือไม่เคยสร้างเงื่อนไขในการสร้างบารมีให้กับตัวเอง เพราะหากเราสร้างเงื่อนไข สมบัติเราก็จะเกิดแบบมีเงื่อนไขเช่นกัน และที่สำคัญ เราไม่รู้ว่าเราจะมีอายุยืนยาวถึงตอนแก่ๆ หรือถึงตอนที่เรารวยๆรึเปล่า หรือเราอาจจะไม่รวยตลอดชีวิตเลยก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้น พอดีชาตินี้ ก็ไม่มีโอกาสทำบุญกันพอดี ซึ่งถ้าไม่ทำบุญแล้ว ก็ไม่มีบุญ เมื่อไม่มีบุญ ชาติหน้าก็จนหนักเข้าไปอีก หรือไม่ต้องรอถึงชาติหน้า ก็เห็นๆ กันชัดในชาตินี้ เพราะแค่การปัญหาเฉพาะหน้าก็เอาไม่อยู่แล้ว พอเรามารู้หลักอย่างนี้แล้ว ก็ต้องมาวัดบ่อยๆ มาสั่งสมบุญบ่อยๆ เพราะถ้าเรามีบุญมาก ทำอะไรก็สะดวกสบายไม่มีอุปสรรค จะทำได้อะไรก็ได้ง่ายไปหมด แต่ถ้าเรามีบุญน้อย แม้งานง่ายๆก็ยังทำไม่สำเร็จเลย เพราะตั้งแต่จมคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มา ก็ไม่เคยเปิดตำรา เพื่อทำการค้าเลย แต่ใช้หลักการเดียวคือ หาบุญได้ ใช้บุญเป็น...

        เธอเลือกที่จะทำชีวิตให้ดีที่สุด โดยการมาวัดทุกวันอาทิตย์แล้วเธอก็ทำได้จริงๆ จนใครก็ว่าเธอไม่ได้ เพราะเธอมาวัดแล้วทำให้ชีวิตดีขึ้น ทั้งด้านเศรษฐกิจและจิตใจ ซึ่งเธอฝากบอกว่า ไม่สงวนลิขสิทธิ์ถ้าใครจะเอาอย่าง เพราะสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวคุณเอง...

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล