ฉบับที่ 86 ธันวาคม ปี2552

โครงการตักบาตรพระ ๕๐๐,๐๐๐ รูป ๗๖ จังหวัดทุกวัดทั่วไทย

ตักบาตรพระ ๕๐๐,๐๐๐ รูป

เรื่อง : อุบลเขียว

 




 

 

    ใกล้ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ทุกคนต่างตั้งความหวังกันว่า ปีใหม่คงจะดีกว่าปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจะดีขึ้น ปัญหาต่าง ๆ จะคลี่คลายลง นิสัยคนไทยไม่เคยสิ้นหวังอะไรง่าย ๆ เรามองโลกในแง่ดีได้เสมอ ประเภท ยิ้มได้เมื่อภัยมา             

      แม้เศรษฐกิจ สังคม การเมืองจะเป็นอย่างไร เราต่างมีความเข้าใจในกฎไตรลักษณ์ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวล้วนแปรผันขึ้นลงเป็นธรรมดา ดังนั้นเราจึงไม่ควรปล่อยใจให้วิตกกังวลกับสิ่งรอบข้าง ตั้งสติ แล้วระลึกถึง หน้าที่อันแท้จริงของเราว่า สิ่งเดียวที่ควรรักษา คือ รักษาใจให้ใสสะอาด อยู่เสมอ แล้วหมั่นเข้าวัด ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา บุญจากการ สร้างกุศลจะช่วยกลั่นกาย วาจา และใจของเราให้ใสสะอาด บริสุทธิ์ เมื่อหน้าตายิ้มแย้ม จิตใจเบิกบาน สติปัญญาในการแก้ไขปัญหาจะติดตาม มาเป็นของคู่กัน เพราะเราตระหนักอยู่เสมอว่า นอกเหนือจากการมองโลกในแง่ดีแล้ว เรายังต้องเร่งทำความดี ดังเช่น โครงการตักบาตรพระ ๕๐๐,๐๐๐ รูป ๗๖ จังหวัดทุกวัดทั่วไทย ที่ยังคงก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง และเป็นก้าวที่ "กล้า" มุ่งมั่นสู่เป้าหมายเข้าไปทุกขณะ ซึ่งความคืบหน้าล่าสุด ขณะนี้ได้ตักบาตรไปแล้วกว่า ๔๐๐,๐๐๐ รูป และในเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้มีพิธีตักบาตรมหากุศลครั้งประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง เรามา ติดตามภาพความประทับใจที่นึกถึงครั้งใดปลื้มใจทุกครั้ง เพราะลืมไม่ลง คงไม่ลืม ปลื้มกันไปทุกชาติ

 




 


 

    เช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ ๑๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา ณ ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ถนนหน้าศูนย์ราชการ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น พุทธศาสนิกชนจากทั่วทุกสารทิศ ได้ร่วมใจกันเนรมิตถนนที่กว้างขวางแห่งนี้ ให้กลายเป็นลานตักบาตรพระ ๑๐,๐๐๐ รูปครั้งประวัติศาสตร์ โดยมีคณะสงฆ์จากจังหวัดขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดกาฬสินธุ์ เดินทางมาเป็นเนื้อนาบุญ งานตักบาตรครั้งนี้ ได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณพระธรรมวโรดม เจ้าคณะภาค ๙ พร้อมด้วยนายปราโมทย์ สัจจรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธี ในการตักบาตรครั้งนี้ พุทธศาสนิกชนยังได้แสดงตนเป็นพุทธมามกะอีกด้วย เพื่อแสดงถึงความเป็นชาวพุทธอย่างแท้จริง

        การแสดงตนเป็นพุทธมามกะและการตักบาตรพระครั้งนี้ เป็นการน้อมถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยกย่องเชิดชูพระรัตนตรัย ซึ่งเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด สืบสานอายุพระพุทธศาสนา รักษาวัฒนธรรมชาวพุทธ ฟื้นฟูศีลธรรมโลก นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญทุกคนได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือพระภิกษุสงฆ์ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ คุณครู นักเรียน ตลอดจนชาวไทยพุทธในพื้นที่ ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย และได้ร่วมกันจรรโลงพระพุทธศาสนาให้ถาวร ให้เป็นที่รู้จักเผยแผ่ไปทั่วโลก

 




 

        สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ นับว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ทั้งนี้เพราะได้รับความร่วมมือ จากทุกฝ่ายเป็นอย่างดียี่ง อาทิ คณะสงฆ์จังหวัดขอนแก่น คณะสงฆ์จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เทศบาลนครขอนแก่น สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น ๒๖ อำเภอในจังหวัดขอนแก่น ศูนย์กัลยาณมิตรขอนแก่น สหพันธ์รวมใจไทยทั้งชาติ ตำรวจจังหวัดขอนแก่น ฝ่ายจราจร ทหารจากค่ายสิหราชเดโชชัย ทหารจากค่ายศรีพัชรินทร์ ทหารราบปืนใหญ่ที่ ๘ วิทยาลัย การสาธารณสุขสิรินธร วิทยาลัยพยาบาลราชชนนี มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชมรมพุทธและ นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีขอนแก่น (มัญจาคิริ) วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีขอนแก่น (หนองเรือ) วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น เด็กดี V-Star จังหวัดขอนแก่น V- Peace องค์กรอาสาสมัครเพื่อสันติภาพโลก วัดพระธรรมกาย และมูลนิธิธรรมกาย

 




 


 

      เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา ชาวพิษณุโลกได้ร่วมทำบุญตักบาตรพระ ๑,๕๐๐ รูป ณ ถนนนเรศวร สะพานเอกาทศรถถึงวงเวียนสถานีรถไฟ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมีพระเดชพระคุณพระราชธรรมคณี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เมตตามาเป็นประธานสงฆ์ และได้รับเกียรติจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ดร.ปรีชา เรืองจันทร์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ผู้แทนนำกล่าวคำถวายผ้าป่าเป็นภาษาบาลี และภาษาไทย คือ ด.ญ.เพียงตะวัน เพชรทอง และ ด.ช.ภูริวัจน์ เพชรทอง ส่วนตัวแทนนำกล่าวคำถวายภัตตาหารเป็นภาษาบาลี และภาษาไทย คือ ด.ช.อภิบาล อนันตศิลป์ และ ด.ญ.ฉัตรตะวัน อนันตศิลป์ การตักบาตรครั้งนี้พุทธศาสนิกชนได้แสดงตนเป็นพุทธมามกะ เพื่อแสดงถึงความเป็นชาวพุทธอย่างแท้จริง

        ภาพพระภิกษุสงฆ์ทั้ง ๑,๕๐๐ รูป ที่แปรแถวเพื่อรับบาตรจากสาธุชนนั้น สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นภาพที่สง่างาม ผ้ากาสาวพัสตร์ได้โบกสะบัดเต็มบริเวณถนนนเรศวร สะพานเอกาทศรถ จนถึงวงเวียนสถานีรถไฟ ซึ่งเปรียบดั่งลานบุญที่แสดงให้เห็นถึงศรัทธาอันมั่นคง และความสามัคคีของชาวพุทธ ถ้าทุกคนรักษาความดีอย่างนี้ไว้ พระพุทธศาสนาก็จะมั่นคงตลอดไป

 



        กิจกรรมงานบุญครั้งนี้ ถือได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ทั้งนี้เพราะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากทุกฝ่าย ซึ่งได้แก่ คณะสงฆ์จังหวัดพิษณุโลก ศูนย์กัลยาณมิตรจังหวัดพิษณุโลก ธุดงคสถานพิษณุโลก สหพันธ์รวมใจไทยทั้งชาติ จังหวัดพิษณุโลก องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เทศบาลเมืองพิษณุโลก ทหารจากค่ายนเรศวรมหาราช และค่ายเอกาทศรถ ตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยราชภัฏวิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก วิทยาลัยพยาบาลราชชนนี วิทยาลัยพาณิชย์พิษณุโลก โรงเรียนวังทองพิทยาคม โรงเรียนสฤษดิ์-เสนา โรงเรียนบ้านวังตาดราษฎร์อุทิศ โรงเรียนเซ็นต์นิโคลัส โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย องค์กรอาสาสมัครเพื่อสันติภาพโลก V-Peace วัดพระธรรมกาย และมูลนิธิธรรมกาย

 




 


 

     หลังจากสายฝนสายสุดท้ายหล่นจากฟ้าเมื่อหลายวันก่อน หมอกหนาก็เข้ามาปกคลุมไปทุกพื้นที่ ลมหนาว ก็เริ่มพัดผ่านมาให้สัมผัสเป็นระยะ ๆ สัญญาณแห่งฤดูหนาวก็เริ่มขึ้น ทำให้ประชาชนทั่วทุกสารทิศ ต่าง มุ่งหน้าเดินทางมารับลมหนาวที่แม่ฮ่องสอน ผ่านเส้นทางที่เป็นภูเขาหลายลูก ที่ถูกตกแต่งด้วยดอกบัวตอง จำนวนมากจากฝีมือของธรรมชาติ และมีทางโค้งกว่า ๑,๐๐๐ โค้งด้วยกัน แต่เมื่อทุกคนเดินทางมาถึงที่ตรงนี้ ก็ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง โดยเฉพาะในช่วงนี้ ดอกบัวตองกำลังบานสะพรั่ง สวยงามราวกับทุ่งดอกไม้ในฝัน ซึ่งภาพเหล่านี้ได้เพิ่มความงดงามและมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น เมื่อได้เห็นผ้ากาสาวพัสตร์สีทองอร่ามนับพันของพุทธบุตร ที่เมตตาเดินทางมาเป็นเนื้อนาบุญให้กับพุทธศาสนิกชนชาวแม่ฮ่องสอนและจังหวัดใกล้เคียง พิธีตักบาตรพระ ๑,๐๐๐ รูป จัดขึ้นเมื่อวันพุธที่ ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา ณ ดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน         


        พิธีตักบาตรครั้งนี้ได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณพระครูอนุศาสน์โกศล เจ้าคณะอำเภอขุนยวม มาเป็นประธานสงฆ์ ได้รับเกียรติจากพันจ่าอากาศเอกนิพันธ์ บุญหลวง นายอำเภอขุนยวม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส การตักบาตรครั้งนี้ พุทธศาสนิกชนได้แสดงตนเป็นพุทธมามกะ เพื่อแสดงถึงความเป็นชาวพุทธอย่างแท้จริง

 



 

        ภาพงานบุญที่สวยงามแห่งนี้เกิดขึ้นได้ เพราะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ซึ่งได้แก่ คณะสงฆ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอขุนยวม เทศบาลตำบลขุนยวม สมาคมพุทธศาสตร์ล้านนา สมาคมบัณฑิตรัตน์ สมาคมรวมใจไทยล้านนา ธุดงคสถานล้านนา ชมรมกัลยาณมิตรแม่สะเรียง ชมรมกัลยาณมิตรแม่ฮ่องสอน สหพันธ์ รวมใจไทยทั้งชาติ สถานีตำรวจภูธรขุนยวม โรงพยาบาลขุนยวม สมาคมสันติพัฒน์ องค์การบริหารส่วนตำบลแม่อูคอ องค์การบริหารส่วนตำบลขุนยวม องค์การบริหารส่วนตำบลแม่กิ๊ องค์การบริหารส่วนตำบลแม่เงา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแม่ฮ่องสอนเขต ๑ และ ๒ โรงเรียนขุนยวมวิทยา วัดพระธรรมกาย และมูลนิธิธรรมกาย

 






        เดือนนี้เป็นเดือนธันวาคม เดือนสุดท้ายแห่งปี ที่ทำให้เรามานึกย้อนทบทวนงบดุลชีวิตตลอดปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา ว่าต้นทุนชีวิตที่เราได้มานั้น เรานำมาสร้างบุญบารมีให้สมกับความโชคดีที่เกิดมาภายใต้ร่มเงา ของพระพุทธศาสนาแล้วหรือยัง เพราะเวลาของชีวิตมีขอบเขตจำกัด ประเดี๋ยววัน ประเดี๋ยวคืน เหมือน สายน้ำที่ไหลไปไม่ย้อนกลับ เมื่อล่วงเข้าสู่ศักราชใหม่อีกครั้ง เวลาในชีวิตของเราได้ล่วงเลยมาแล้วอีกหนึ่ง รอบปี ต้องคว้าโอกาสในการสร้างบุญบารมีให้เต็มที่ เต็มอิ่ม เต็มกำลังกันเลยทีเดียว

 



        อย่าปล่อยชีวิตให้เลื่อนไหลไปตามกาลเวลา เพราะแม้ว่าเวลาจะเป็นเครื่องกำหนดอายุก็จริง แต่ นักสร้างบารมีจะอยู่เหนือขอบเขตสมมติของเวลา ด้วยการสร้างบารมีตลอดเวลา เพราะชีวิตบนโลกเฉลี่ยแล้ว ไม่เกินร้อยปี เราจะใช้เวลาในการค้นหาตัวตนที่แท้จริงภายในกลางกาย และเปิดเผยให้ชาวโลกได้พบกับความจริงของชีวิต ด้วยการปูพื้นฐานการสร้างทานบารมีเป็นเบื้องต้น อันจะนำไปสู่การรักษาศีล และการเจริญสมาธิภาวนาในที่สุด

 



บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล