ฉบับที่ 46 สิงหาคม ปี 2549

๑ ในพุทธบุตรที่หยัดสู้ ๔ ภาคใต้ และ ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ๒๖๖ วัด ครั้งที่ ๑๔

โดย : นักข่าวหัวเพชรลูกพระธัมมฯ

 


 

พระครูบรรพตธรรมรัตน์ เจ้าอาวาสวัดวงกตบรรพต(ตาชี) 
              กว่า ๓ ปีที่พื้นที่ ๔ จังหวัดภาคใต้ประกอบ ด้วยจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ได้ประสบกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ทุกชีวิตต่างก็ต้องหยิบยกกำลังใจที่ซ่อนอยู่ภายในตัวมาใช้อย่างเต็มที่ เกือบทุกชีวิตยังคงดำรงอยู่ไม่ถอยหนีไปไหน ดังเช่นพระภิกษุสงฆ์ผู้นำสันติสุข
 

 

               ในพื้นที่แห่งนี้ท่านก็มีมโนปณิธานที่จะขอสร้างสันติสุขร่วมกับ ทุกคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว โดยไม่แบ่งว่ามีเชื้อชาติศาสนาใด จนตราบชีวิตจะหาไม่

              ฉบับนี้เรามาศึกษาชีวิตจริงของท่าน ๑ ในพุทธบุตรที่หยัดสู้ ๔ จังหวัดชายภาคใต้กันว่าท่านมีมโนปณิธานอย่างไร พุทธบุตรรูปนี้ท่านชื่อ พระครูบรรพตธรรมรัตน์ เจ้าอาวาสวัดวงกตบรรพต (ตาชี) อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่สีแดง ความปลอดภัยหาได้ยากในอำเภอแห่งนี้ มีเพื่อนศาสนิกอื่นเป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับชาวพุทธ หลวงพ่อท่านเล่าให้ฟังว่า "หลวงพ่อบวชมาได้ ๑๘ พรรษาแล้ว

 

 

             ตอนที่เข้ามาอยู่วัดนี้ใหม่ๆ ทุกคน ทุกศาสนาอยู่ด้วย ความสมานสามัคคีเอื้อเฟื้อกัน ต่างกับปัจจุบันมากๆ บริเวณวัดยังพอมีชาวพุทธอยู่บ้าง พออาศัยในเรื่องการขบฉันได้อยู่ ถัดไปก็จะ เป็นเพื่อนต่างศาสนา สำหรับการเดินทางออกไป เผยแผ่ธรรมะนั้นทำได้ไม่สะดวกเหมือนก่อน ระหว่างการเดินทางเต็มไปด้วยความไม่ปลอดภัย แม้ชาวพุทธจากที่อื่นๆ เขามีศรัทธาแต่ก็ถูกปิดกั้นด้วยความกลัวจึงไม่สามรถมาถึงวัดได้" หลวงพ่อเป็นบุคคลหนึ่งที่ได้ประสบกับเหตุการณ์และได้ พบกับบุคคลที่ก่อความไม่สงบ

              "อาตมาเจอมา ๒ ครั้งแล้ว ครั้งแรกมีผู้ชายมา ๓ คนเดินเข้ามาในวัด แล้วถามว่าเจ้าอาวาสองค์ไหน บังเอิญอาตมาเห็นปืนที่เขาเอามาเสียก่อนและเห็นท่าไม่ดีจึงตอบเลี่ยง ไปว่าท่านไม่อยู่ อาตมาหมายถึงเจ้าอาวาสองค์เดิม ที่มรณภาพไปแล้ว เมื่อเขากลับไปแล้วอาตมาก็โทร ไปถามตำรวจว่า รถที่เขานั่งมา มีอยู่ในทะเบียนรถไหม ตำรวจก็ตอบว่าทะเบียนรถนี้ไม่มีอยู่ ในทะเบียนของบริษัทรถเลย หลังจากนั้นอีก ๑๕ วัน อาตมาออกไปงานศพในอำเภอเมือง มีผู้ชาย ๒ คนขับมอเตอร์ไซค์ตามหลังรถและพยายามแซงดักหน้าดักหลังรถ บางวันก็ดักตามถนนเมื่อเขาเห็นเจ้าหน้าที่เขาก็หลบไป จึงรอดมาทุกครั้ง เมื่อก่อนอาตมาก็กังวลในความปลอดภัยแต่เมื่อได้มาดูดาวธรรมช่อง DMC แล้ว คิดอย่างเดียวว่าถ้าเราไม่ได้ทำกรรมไว้เราก็ต้องไม่เป็นอะไร เรื่อง Case study กฎแห่งกรรมที่หลวงพ่อธัมมชโยท่านไขปัญหา มีประโยชน์ต่ออาตมามาก ตอนนี้ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ถ้าตายก็ขอตายอยู่กับโยม ที่นี่จะไม่ขอทิ้งชาวบ้าน ทิ้งวัดเป็นอันขาด เราไม่ได้ทำชั่วอะไรทำไมต้องหนีด้วย"

              หลวงพ่อท่านได้กล่าวถึงกิจกรรมถวายไทยธรรม ๒๖๖ วัด ทุกๆ เดือนว่า "บอกตามตรงอาตมาไม่เคยเห็นใครที่จะมีเมตตาสูง และทำเป็นรูปธรรมได้อย่างต่อเนื่องเท่ากับหลวงพ่อธัมมชโยเลย ท่านรวมสงฆ์ได้ทุกเดือนทำได้ยังไง ปกติจะนานๆจะทำกันสักที ท่านทำให้พระสงฆ์มารวมเป็นหนึ่งเดียวไม่ธรรมดา อานิสงส์ก็มาก อาตมาไปร่วมงานทีไรกำลังใจเกิดขึ้นอย่างมากมาย ได้พบพระ เห็นผ้าเหลืองแล้วโล่งใจ สบายใจ มีความสุข ได้พูด คุยกับเพื่อนสหธรรมิกด้วยกัน ความเหน็ดเหนื่อย ความท้อเจือจางไปหมด ๑๔ ครั้ง ที่ผ่านมามีคุณค่า มหาศาลต่อประชาชน และพระสงฆ์มาก ปัจจัย ทุกบาทที่ได้รับมา มันสู้ความจริงใจและกำลังใจที่หลวงพ่อธัมมชโย ท่านมอบให้ไม่ได้หรอก อาตมารับมาแล้วก็นำมาจ่ายค่าไฟบ้าง มาสร้างศาลาบ้าง ขอให้ทุกคนที่ถวายปัจจัยมาได้บุญมากๆ"

              แม้เหตุการณ์ยังไม่เอื้อต่อการเผยแผ่แต่หลวงพ่อ ท่านยังมีความมุ่งมั่นในการที่จะมอบธรรมะ ไปสู่ทุกดวงใจของทุกคน "อาตมาอยากให้กำลังใจชาวพุทธ เขามีความกลัวอยู่มาก จึงคิดว่ากฎแห่งกรรม และสมาธิจะช่วยให้ทุกคนอยู่ อย่างเข้าใจชีวิตและมีความสุขได้ ในการนี้ทาง วัดพระธรรมกายก็ส่งพระอาจารย์และกัลยาณมิตร มามอบความรู้ตรงนี้ให้อีกใน โครงการอุบาสกอุบาสิกาแก้วปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ต้องบอกว่านอกจากท่านจะช่วยเหลือ โดยภาพรวมของพระพุทธศาสนาใน ๔ จังหวัดแล้ว ท่านยังมาช่วยเหลือถึงในพื้นที่ ของแต่ละวัดให้ชาวพุทธเข้มแข็ง มีกำลังใจอีกด้วย ท่านทำให้พุทธบริษัท ๔ เป็นหนึ่ง เดียวกันจริงๆ เมื่อจบโครงการแล้วชาวบ้านมาบอก อาตมาว่า มีความสุขทั้งกายและใจ มีใบหน้าที่ ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่หวาดระแวงอีกแล้ว อยากให้จัดกิจกรรมแบบนี้บ่อยๆ และในช่วงเข้าพรรษานี้อาตมาก็ได้ชักชวนญาติโยมนั่งสมาธิทุกวัน วันละ ๓๐ นาที"

              นี่คือความในใจของพุทธบุตร บุตรแห่ง พระชินสีห์ผู้อุทิศชีวิตเป็นพุทธบูชา พวกเราทั้งหลายเมื่อได้รับรู้แล้วคงจะเห็นว่า ท่านคือพุทธบุตร ที่แท้จริง สละทุกสิ่งเพื่อพระศาสน์ด้วยใจทุ่มเท เราในฐานะพุทธบริษัท ๔ จะไม่ขอนิ่งดูดายและจะ ร่วมมือร่วมใจกันสั่งสมบุญใหญ่ เป็นอุปัฏฐาก อุปัฏฐายิกาค้ำจุนพระพุทธศาสนาในพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นที่พึ่งของทุกดวงใจ จนกว่าชีวิตจะหาไม่เช่นเดียวกัน

 

 

 

 

        เวลา ๐๗.๐๐ น. มีพิธีทำบุญตักบาตรอาหารแห้งแด่คณะสงฆ์ ๒๖๖ วัด โดยมีพระเดชพระคุณพระเทพวีราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสงขลาเป็นประธานสงฆ์และนายสมพร ใช้บางยาง ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส หลังจากนั้นในเวลา ๐๙.๐๐ น. เข้าสู่รายการเสวนาธรรม ยกย่องและให้กำลังใจพุทธบุตรและพุทธบริษัท ๔ ที่ค้ำจุนรักษาพระพุทธศาสนาในดินแดนแห่งนี้ อีกทั้งยังมีพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ อุทิศส่วนกุศลแด่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความ ไม่สงบ ต่อมาเวลาอันสำคัญยิ่งที่ทุกคนรอคอยก็ มาถึง คือพิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่ เจ้าอาวาสและคณะสงฆ์ทั้ง ๒๖๖ วัด ในงานนี้มูลนิธิธรรมกาย ยังได้มอบเครื่องอุปโภค บริโภค ให้แก่ ทหาร ตำรวจ ที่คอยรักษาทุกชีวิตด้วยความมุ่งมั่นในพื้นที่แห่งนี้ ภาพงานในวันนี้เป็นภาพประทับใจ ที่ทำให้ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าปลื้มสุดฤทธิ์ ที่เห็น พุทธบุตรอุทิศชีวิตอย่างสุดใจ

 

 

              ทางมูลนิธิธรรมกาย ต้องขออนุโมทนาบุญกับพุทธบริษัท ๔ ทั่วโลก กัลยาณมิตรทุกท่าน อีกทั้งหน่วยงานในพื้นที่ได้แก่ ศูนย์กัลยาณมิตรหาดใหญ่ สมาคมบัณฑิตรัตน์ ส่วนราชการ ส่วนงานเอกชน และทุกคนใน ๔ จังหวัดภาคใต้ ที่มีส่วนสำคัญในการช่วยกันค้ำจุนพระพุทธศาสนา ให้งานครั้งนี้สำเร็จลุล่วงได้อย่างดีเยี่ยม

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล