ฉบับที่ 51 มกราคม ปี 2550

ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ๒๖๖ วัด ครั้งที่ ๑๙ ปีที่ ๒

 

 

 

       สถานการณ์ความรุนแรงของพื้นที่ ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความรุนแรงทับทวีขึ้น โดยมีการทำร้ายชาวพุทธอย่างไม่ปรานีรายวัน มีการ เข้าบุกรุกไปทำร้ายชีวิตในบ้าน และทำลายข้าวของ การประกอบอาชีพก็ทำด้วยความยากลำบาก บรรยากาศหดหู่ใจ ความรักกลายเป็นความระแวงต่อกันระหว่างเพื่อนต่างศาสนา นี่คือความจริงที่ยาก จะปกปิดซ่อนเร้นได้ ซึ่งทางส่วนราชการและ หลายหน่วยงานก็กำลังสมานฉันท์ แต่นับวันก็รุนแรงขึ้นไปตามลำดับ โดยเฉพาะพระภิกษุสงฆ์ผู้นำในการสร้างสันติสุข ก็ยิ่งเป็นเป้าสายตาตลอดเวลา แต่น่าอัศจรรย์ที่แม้เหตุการณ์จะเลวร้ายลงแต่กำลังใจกลับสูงขึ้น พระภิกษุสงฆ์ทุกรูป พูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่างานพิธีถวายสังฆทานแด่ ๒๖๖ วัด ที่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) ประธานมูลนิธิธรรมกาย ท่านจัดขึ้นทุกเดือนนั้น มีคุณค่าทางจิตใจ ส่งผลให้กำลังใจเกิดขึ้นอย่าง น่าอัศจรรย์ แม้ไทยธรรมจะเป็นสิ่งที่มีค่า แต่ก็สามารถหาซื้อได้ แต่คุณค่าทางจิตใจในยามนี้ ยากนักที่ใครจะมาสร้างให้เกิดขึ้น นี่คือความในใจของพระสงฆ์ทุกรูป ทั้ง ๒๖๖ วัด

 

 

 


            สำหรับเดือนธันวาคมนี้ ได้จัดงานพิธีถวายสังฆทานขึ้นเป็นครั้งที่ ๑๙ ตรงกับวันพุธที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ณ โรงเรียนเบญจมราชูทิศ อ. เมือง จ. ปัตตานี เริ่มตั้งแต่เวลา ๐๖.๑๕ น. ถึง ๑๒.๐๐ น. ภายในงานมีพิธีทำบุญตักบาตร ช่วงสายมีรายการเสวนาธรรม และปิดท้ายด้วยพิธีอุทิศส่วนกุศลแด่ผู้วายชนม์ และพิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่คณะสงฆ์ทั้ง ๒๖๖ วัด โดยงานใน วันนี้ได้รับความเมตตาจาก พระเดชพระคุณ พระอุดมธรรมคณี เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี เป็นประธานสงฆ์ อีกทั้งคณะสงฆ์ในประเทศมาเลเซียก็ได้เดินทางมาเป็นขวัญกำลังใจอีกด้วย ส่วนฝ่ายฆราวาสนำโดยนายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และยัง ได้รับเกียรติจาก คุณปราโมทย์ เชาวน์วาณิชย์ ผู้พิพากษาสมทบศาลแรงงาน ภาค ๙ เป็นประธานคณะกรรมการจัดงาน บรรยากาศในงาน เต็มไปด้วยความอบอุ่นใจ ซึ่งหาสิ่งใดเปรียบปาน ได้ยากยิ่งในสถานการณ์เช่นนี้ ทางคณะกรรมการจัดงาน ต้องขอกราบอนุโมทนาบุญกับทุกท่าน และทุกหน่วยงานที่ช่วยกันสร้างสันติสุข ให้เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ โดยการดูแลปกป้องพระสงฆ์ผู้รักษา คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นคำสอนเดียวที่ยังโลกให้เกิดสันติสุขได้อย่างแท้จริง

 

 

 

 

        ฉบับนี้จะนำพาไปเยี่ยมเยียนพุทธบุตร ผู้หยัดสู้ในจังหวัดสงขลา ชีวิตของท่านเกิดมาเพื่อความเป็นพระอย่างแท้จริงท่านเข้มแข็งและอดทน คอยเป็นขวัญกำลังใจให้พุทธบริษัท ๔ มีธรรมะและดำเนินชีวิตด้วยความมั่นใจในสิ่งดี เรามารู้จักและพูดคุยกับท่าน ท่านชื่อ พระครูสมุห์กมล กมโล เจ้าอาวาสวัดบ้านเก่า อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา  

 

 

        "อาตมาเคยอยู่ที่จังหวัดปัตตานี ได้โดนขู่ทำร้ายหลายครั้งหลายคราทีเดียว เพราะอาตมาเป็นพระนักเทศน์ โจรก่อการร้ายบอกว่าไปเทศน์พาดพิงศาสนาเขา ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว เจ้าคณะอำเภอ ท่านก็รับรู้และยืนยันเสมอว่า ไม่เป็นความจริง สิ่งที่ เทศน์ไม่ได้ไปกระทบใคร แต่เขาต้องการกำจัด ตัวอาตมา ขณะนี้อาตมาได้มารักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านเก่า อำเภอสะบ้าย้อย ซึ่งก็ยังเป็นพื้นที่ เสี่ยงภัยเช่นเดิม ที่มาอยู่นี่ก็สำนึกในหน้าที่ของความเป็นพระตลอด เพราะพระเป็นขวัญกำลังใจของ ชาวพุทธ ที่ไหนไม่มีพระ ขาดพระ ที่นั่นน่าสงสารมากจริงๆ ฉะนั้นจึงมาอยู่ อยู่มา ๒๑ เดือนแล้ว ได้พัฒนาวัดไปมากพอควร ได้ปฏิญาณกับชาวบ้าน ตอนที่มาอยู่ว่า ถ้าชาวบ้านมีความพร้อมอย่างนี้สม่ำเสมออย่างนี้นะ อาตมาก็อายุมากแล้ว จะเอากระดูกมาฝังไว้ที่นี่ ได้ลั่นวาจา ปฏิญาณกับชาวบ้าน ที่นี่เป็นสองครั้งสองคราว เพื่อให้เกิดความมั่นใจ อาตมาตั้งใจจริงว่าชีวิตนี้จะตายในพระพุทธศาสนา ในความเป็นพระ ขอตายในวัดบ้านเก่าแห่งนี้

 

 

     พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ท่านเป็นขวัญกำลังใจ ของพระในถิ่นนี้อย่างมาก จะหาใครที่สละ และมาทุ่มเทอย่างนี้มันไม่ใช่ง่ายหรอก ในการที่ท่านแสวงหา ความร่วมมือร่วมใจจากชาวพุทธทั่วโลก แล้วมาช่วยสนับสนุน ให้ความช่วยเหลือเป็นแรงกาย แรงใจให้พระสงฆ์ทุกเดือน มันไม่ธรรมดา ต้องขออนุโมทนาบุญกับท่าน และคณะกัลยาณมิตรทั่วโลก ซึ่งพระท่านก็เป็นสมมุติสงฆ์ ยังมีความกลัวอยู่ แต่ที่อยู่ก็เพราะมีจิตสำนึกของความเป็นพระ ทั้งที่ทุกวันมีคำขู่ บ้างก็ถูกทำร้าย ถูกยิง ถูกเผาวัด พระลูกวัดของอาตมาไม่ใช่คนถิ่นนี้เลยทั้ง ๕ รูปแต่มีจิตสำนึกว่า ตอนบ้านเมืองร่มเย็นเราอยู่ก็มีความสุขสบายดี อยู่มา ๑๐ ปี ครั้นมีภัยจะหนี มันก็ไม่ใช่ลูกผู้ชาย และไม่ใช่พระที่ดีด้วย มีญาติโยม บอกให้กลับบ้าน อย่าทนเสี่ยงภัยเลย มันร้ายแรง ก็ถามญาติโยมกลับไปว่า ถ้ากลับไปแล้วไม่ตาย ก็จะกลับ อยู่ที่ไหนก็ตายทั้งนั้นแหละ มันเป็นของคู่ กับเราอยู่แล้ว ยามมีภัยเราหนี ยามสงบเรากลับมา แล้วจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ไม่อายชาวบ้านหรือ"

 

 

     นี่คือความในใจของพุทธบุตร บุตรแห่ง พระชินสีห์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเป็นพระแท้ที่น่ายกย่อง งดงามประดุจดวงจันทร์ในยามค่ำคืน ซึ่งอยู่ท่ามกลางดวงดาวทั้งหลาย ท่านทำทุกอย่างเพื่อรักษาพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนา ที่ทำให้สันติสุขบังเกิดขึ้นได้แก่โลกได้อย่างแท้จริง ให้คงอยู่ ในพื้นที่ซึ่งเป็นมรดกอันล้ำค่า ที่ปู่ย่า ตายายรักษามายาวนาน

          พวกเราในฐานะพุทธบริษัท ๔ ก็ไม่ยอมทอดทิ้ง แต่จะทำนุบำรุง ส่งเสริมให้พระสงฆ์ทุกรูปรักษาคำสอน ของพระบรมศาสดา ต่อไปให้ยาวนานจนกว่าชีวิตจะหาไม่ "สู้โว้ย! จะสร้างแต่ดี เพื่อพิชิตปัญหาและอุปสรรคทั้งมวล"

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล