ฉบับที่ 59 กันยายน ปี 2550

มหารัตนวิหารคด รวมพุทธบุตรเป็นหนึ่งเดียวกัน

พระธรรมเทศนา

 


 

 

 

เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

       การสร้างหลังคามหารัตนวิหารคด มีวัตถุประสงค์ ไม่ใช่สร้างเพื่อไปแข่งกับใคร หรือสร้าง ไว้โชว์ แต่เราสร้างเอาไว้ใช้ทำ
สิ่งที่สำคัญที่สุดในโลก

       ทำไมถึงใช้คำว่า"ในโลก" เพราะเมื่อหลังคา เสร็จแล้ว เราจะไปกราบอาราธนาพุทธบุตรหลากนิกายทั่วโลก ที่กระจัดกระจาย
กันไปอยู่ทุกภูมิภาค ไปบำเพ็ญสมณธรรม แล้วก็ไปเป็นแสงสว่าง ส่องนำ ทางชีวิตให้แก่เพื่อนมนุษย์ได้มารวมกันซึ่งถ้ารวมกัน
ทุกๆ นิกาย มีจำนวนเป็นเรือนล้านทีเดียว

       เหตุที่จะต้องกราบอาราธนาท่านมา ก็เพราะว่า ถึงเวลาแล้วที่พุทธบุตรต้องรวมกันเป็นหนึ่ง เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว แล้วอะไรจะเกิดขึ้น พุทธบริษัท ๔ก็จะเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว แล้วอะไรจะเกิดขึ้นอีก คำสอนของพระ
สัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นความรู้สากล ที่ทุกคนต้องศึกษา เพราะพระองค์ตรัสรู้ธรรมขึ้นมาเพื่อมนุษย์ทุกคนในโลก เพื่อเทวดา
ตลอดจนเพื่อสรรพสัตว์ทั้งหลายด้วย คำสอนนี้ก็จะได้ขยายไปทั่วโลก

       เพราะว่า ชาวโลกเกิดมาไม่รู้ว่าตัวเองยังไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย เกี่ยวกับความเป็นจริงของชีวิตว่า คนเราเกิดมาทำไม ตายแล้วจะไปไหนอะไรคือเป้าหมายของชีวิต แล้วจะไปถึงเป้าหมายของชีวิตได้อย่างไร เพราะความที่ไม่รู้ว่าตัวเราเองยังไม่รู้ จึงไม่ขวนขวายในการแสวงหาความรู้แต่ถ้าหากว่า มีพุทธบุตรไปกระตุ้นเตือนว่า ตอนนี้เขายังไม่รู้อะไรเลย  เมื่อเขารู้ว่าเขาไม่รู้ ก็จะแสวงหาความรู้ และความรู้นั้นจะได้จากพุทธบุตรซึ่งเป็นตัวแทนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงจำคำสอน ศึกษาแล้ว
ก็ฝึกฝนตัวท่านเองมาตลอดชีวิต

        แต่หลังจากพุทธปรินิพพานไปแล้ว พุทธบุตร ที่ผ่านมาก็ต่างคนต่างทำ เพราะว่าผู้ที่เป็นนักปฏิบัติมักจะมีอุปนิสัย
ชอบปลีกวิเวกเข้าป่าเข้าเขากันที่เหลือ อยู่ก็จะเป็นนักทฤษฎีและนักปริยัติ นักปริยัติ ถ้าไม่ปฏิบัติก็จะเป็นนักคิด ความรู้ที่เกิดจากความคิด มันหลากหลาย เพราะความคิด หลากหลายนี่แหละ จึงทำให้ข้อวัตรปฏิบัติต่างกัน ความแตกต่าง คือ
ความแตกแยกของพุทธบุตร ความแตกแยกของพุทธบุตร ก็คือความแตกแยกของพุทธบริษัท ๔

        เราได้ทดลองแตกแยกกันมายาวนาน อย่างน้อยก็สองพันปีแล้ว มันถึงเวลาที่เราจะต้องมารวมกัน เพื่อทำความรู้จัก
คุ้นเคยกันและพูดคุยปรึกษาหารือ กันว่า ถึงเวลาแล้วที่เราควรจะย้อนกลับไปศึกษาคำสอนดั้งเดิมของพระสัมมาสัมพุทธ
เจ้าจากคัมภีร์ต่างๆ ที่กระจัดกระจายไปตามนิกายต่างๆ ถึงเวลาที่จะต้องเอามาต่อจิ๊กซอว์กันแล้ว เอาออกมารวมกัน
เป็นหมวดเป็นหมู่ มาศึกษาร่วมกันและเมื่อได้ข้อสรุปว่า นี่เป็นคำสอนดั้งเดิมของพระสัมมา สัมพุทธเจ้า เราก็จะได้ลงมติกันว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมีข้อวัตรปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน คิดเหมือนกัน พูดเหมือนกัน ทำเหมือนกัน

...การมารวมกันของพุทธบุตรหลากนิกายทั่วโลกนี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในโลก เพราะนั่นหมายถึง การดำเนินชีวิตที่ถูกต้องของเพื่อนมนุษย์ เพื่อปิดอบาย ไปสวรรค์
มีสุขในปัจจุบัน สินติภาพของโลกก็จะบังเกิดขึ้น..

 

 

        หมายความว่า คำสอนดั้งเดิมจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาใหม่เหมือนย้อนยุคในสมัยพุทธกาล แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงดับ
ขันธปรินิพพานไปแล้ว ก็เสมือนว่า พระองค์ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ เพราะ คำสอนดั้งเดิมที่แท้จริงยังอยู่

       เมื่อพุทธบุตรได้ศึกษาคำสอนที่แท้จริงไปในทิศทางเดียวกัน พุทธบริษัท ๔ ญาติโยม ก็จะได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง จะมีข้อวัตรปฏิบัติเหมือนในสมัยพุทธกาล จะมีท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี มหาอุบาสิกาวิสาขา หรือมีผู้เข้าถึงพระรัตนตรัยถึงไตรสรณคมน์ มีพระอริยเจ้าบังเกิดขึ้น สิ่งดีๆ ก็จะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ เพื่อนมนุษย์ที่แต่เดิมไม่ได้นับถือพระรัตนตรัยแต่มีความทุกข์ทรมานของชีวิต ย่อมแสวงหาที่พึ่งไปตามความเข้าใจของตน เมื่อได้รับคำแนะนำจากผู้ที่มีประสบการณ์ภายในอย่างน้อยก็เข้าถึงความสุขที่แท้จริงภายใน หรือได้เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว จะเป็นที่พึ่งให้กับเพื่อนมนุษย์ ที่ยังไม่รู้ให้รู้ได้ที่ยังมีทุกข์ให้ดับทุกข์ได้

    เพราะฉะนั้น การมารวมกันของพุทธบุตรหลากนิกายทั่วโลกนี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในโลกเพราะนั่นหมายถึงการดำเนินชีวิต ที่ถูกต้องของเพื่อนมนุษย์ เพื่อปิดอบาย ไปสวรรค์ มีสุขในปัจจุบัน สันติภาพของโลกก็จะบังเกิดขึ้น

        ฉะนั้น  การที่เราทุ่มเทชีวิตจิตใจในการสร้างโมดูลหลังคามหารัตนวิหารคดนี้ สมควรอย่างยิ่ง ที่เราจะต้องรีบทำให้สำเร็จ ซึ่งการจะทำอย่างนี้ได้เราจะต้องไม่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เพราะสิ่งแวดล้อม เราไม่สามารถไปบังคับบัญชาได้ แต่ว่าเราสามารถอยู่เหนือสิ่งแวดล้อม อยู่เหนือวิกฤติได้ ด้วย หัวใจของเราที่ตั้งมั่นจะสร้างบารมีอย่างเดียว สวนกระแสกันไป

          อะไรจะเกิดขึ้นก็เกิดไป แต่เราจะใช้ศักยภาพที่เรามีอยู่นี้ให้เต็มกำลัง กำลังใจยิ่งใช้ยิ่งมี ไม่หมดสักที ซึ่งมันจะแตกต่างกับกำลังกาย ยิ่งใช้ยิ่งเหนื่อย แต่กำลังใจยิ่งใช้มันยิ่งฮึดสู้ ยิ่งเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ดวงปัญญาก็เหมือนกัน ถ้ามีแล้วไม่ใช้ก็ ็เหมือนคนไร้ปัญญา

        เงินทองมีไว้สำหรับสร้างบารมี แล้วสร้างบุญบารมีแล้วเป็นของใคร เป็นของเรา ไม่ได้เป็นของใคร แล้วถาวรวัตถุที่เราสร้างเป็นของใคร เป็นของส่วนรวม เป็นสาธารณกุศล เพราะฉะนั้นต้องมีหัวใจว่า จะต้องสร้างให้สำเร็จ อย่าไปคิดเล็กๆ น้อยๆ คิดทีคิดให้มันเสร็จเลยว่าทำอย่างไรให้มันเสร็จ อย่างน้อย คนละ ๑ โมดูล มี ๘๖๐ โมดูล ถ้าเรามี ๘๖๐ กลุ่ม มันก็สำเร็จแล้ว

    ถามว่า การทำอย่างนี้เหนื่อยไหม ตอบว่า "เหนื่อย" ถึงแม้จะไปตีกอล์ฟ ไปเล่นกีฬาอะไรก็เหนื่อยทั้งนั้น จะไปทำมาหากินก็เหนื่อยแต่ดูผลที่ตอบแทนความเหน็ดเหนื่อยนั้น อะไรมันคุ้มกว่ากัน เหนื่อยในการสร้างบารมี มันมีผลคุ้มข้ามชาติ แต่ว่าบุญที่เราทำครั้งนี้จะติดตามตัวเราไปทุกภพทุกชาติ หรือไปอีกหลายๆ ชาติ ติดตามไปเพื่ออะไร เพื่อเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จของชีวิต ตั้งแต่ปุถุชนจนกระทั่งเป็นพระอริยเจ้า จะมีรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ก็ด้วยบุญ จะมีลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ก็ด้วยบุญ จะบรรลุมรรคผลนิพพาน วิชชาธรรมกาย ก็ด้วยบุญ

         บุญที่ใครทำ ก็บุญที่เราทำเอง เราต้องทำของเราเอง เหนื่อยอย่างนี้มีผลข้ามชาติ แต่เหนื่อยอย่างอื่น เหนื่อยเรื่องโน้นเหนื่อยเรื่องนี้ เหนื่อยไปตีกอล์ฟ มีผลในปัจจุบันไม่กี่ชั่วโมง เหนื่อยแล้วกลับมาก็นอนแผ่ เหนื่อยหมดแรง มีเพลินๆ กับเพลียๆ ตีให้มันเพลินๆ แต่กลับมาก็เพลียๆ หรือไปเที่ยวต่างประเทศนี่ก็เหนื่อยนะ เสียเงินตรา เวลา แล้วก็อารมณ์ เสี่ยงภัยด้วย แค่ข้ามน้ำ ข้ามทะเล ขึ้นฟ้าก็เสี่ยงแล้ว เดี๋ยวนี้ไปเที่ยวต้องประกันชีวิตไว้ก่อน แต่สร้างหลังคามหาวิหารคดไม่เสี่ยงเลย
คุ้มภัยทั้งในมนุษยโลก และภัยในอบายภูมิ ปิดอบายไปสวรรค์

          เพราะฉะนั้น การที่เราทุ่มชีวิตจิตใจในการสร้างโมดูล สร้างหลังคามหารัตนวิหารคดนี้ เป็นสิ่งประเสริฐสุดเพราะจะเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขของเรา และสันติสุขของเพื่อนมนุษย์ รวมทั้งสันติภาพของโลกที่แท้จริงจะบังเกิดขึ้น

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล