ฉบับที่ 76 กุมภาพันธ์ ปี 2552

มาฆบูชา วันที่พุทธบริษัทพร้อมใจเจริญตถาคตโพธิสัทธา

เรื่องจากปก
เรื่อง : พระมหาสเถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ.๙ / พระมหาวิริยะ ธมฺมสารี ป.ธ.๙

 

 

       ย้อนไปในสมัยพุทธกาล หลังการตรัสรู้ธรรม ได้ ๘ เดือน พระจันทร์วันเพ็ญ เสวยมาฆฤกษ์ ค่ำคืนที่อบอวลด้วยกลิ่นศีล กลิ่นธรรมของพระอรหันต์ ขีณาสพ ๑,๒๕๐ รูป ผู้ทรงอภิญญา ที่มานั่งอยู่ต่อหน้า พระพักตร์ของพระบรมศาสดา ณ วัดเวฬุวันมหาวิหาร ซึ่งต่างเดินทางมาประชุมกันโดยมิได้นัดหมายทางวาจา แต่รู้กันด้วยญาณทัสนะ เพื่อน้อมรับคำสอนมาเป็น แม่บทในการเผยแผ่พระศาสนาและเป็นหลัก ในการสร้างสันติภาพโลกที่ยั่งยืน แม้กาลเวลาจะเคลื่อนคล้อยไปแล้วนานกว่า ๒,๕๐๐ ปี แสงสว่างจากประทีปธรรมของพระบรมไตรโลกนาถ ยังคงส่องสว่างในดวงใจของเหล่ามนุษยชาติเรื่อยมา วันนี้จึงได้รับการเรียกขานว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" คือวันประชุมใหญ่อันประกอบด้วยองค์ ๔ คือ

         ๑. พระภิกษุสงฆ์ ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
         ๒. พระภิกษุสงฆ์เหล่านี้ล้วนเป็นเอหิภิกขุ อุปสัมปทา คือ เป็นผู้ที่พระพุทธองค์ทรงอุปสมบทให้
         ๓. พระภิกษุสงฆ์ทั้งหมดล้วนเป็นพระอรหันต์ ผู้ทรงอภิญญา
         ๔. วันนั้นเป็นวันเพ็ญ เดือนมาฆะ คือพระจันทร์ เสวยมาฆฤกษ์

       พร้อมกันนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดง โอวาทปาติโมกข์ เพื่อประกาศอุดมการณ์ หลักการ และวิธีการ ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ชาวพุทธ ควรจะได้ยึดถือเป็นแม่บทในการสร้างสันติภาพโลก อันนำไปสู่การหลุดพ้น จากทุกข์ในสังสารวัฏ บรรลุมรรคผลนิพพาน เข้าถึงเอกันตบรมสุข

 

 

 

 


          ในขณะเดียวกัน การดำเนินชีวิตจะให้ราบรื่นนั้น ควรมีวิธีการปฏิบัติเพื่อจะได้เป็นชาวพุทธที่ดี ผู้เป็นต้นแบบของ ชาวโลกทั่วไปและเพื่อความสุขในสัมปรายภพอีกด้วย ซึ่งพระพุทธองค์ทรงประทานโอวาทไว้ว่าพุทธโอวาทที่ควรน้อมนำไปปฏิบัติ

           ในเนื้อหาของโอวาทปาฏิโมกข์นั้น แม้ว่าพระพุทธองค์จะทรงประทานให้แก่เหล่าอรหันตสาวก เพื่อการประกาศพระพุทธศาสนา แต่พวกเราเหล่า พุทธบริษัทก็ยังสามารถน้อมนำมา เป็นหลักในการดำเนินชีวิต ที่ถูกต้องได้อีกด้วย ได้แก่

         ๑. สพฺพปาปสฺส อกรณํ การไม่ทำบาปทั้งปวง คือ การรู้จักควบคุมกาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์ ตั้งแต่ ไม่คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว กล่าวโดยย่อคือรักษาศีล ให้บริสุทธิ์
      ๒. กุสลสฺสูปสมฺปทา การบำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อม คือ ทรงสอนให้ทำความดีให้ถึงพร้อมทั้ง ๓ ทาง คือ กาย วาจา ใจ หมั่นทุ่มเทบำเพ็ญกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ อย่างเต็มที่
         ๓. สจิตฺตปริโยทปนํ การทำจิตของตนให้ ผ่องแผ้ว คือ หมั่นสวดมนต์ นั่งสมาธิเจริญภาวนา และแผ่เมตตาเป็นประจำนั่นเอง จิตผ่องใสจะได้มีสุคติเป็นที่ไป
วิธีการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง

         ๑. อนูปวาโท ไม่ว่าร้ายใคร ไม่โจมตีใคร
         ๒. อนูปฆาโต ไม่ทำร้ายใคร ไม่เบียดเบียนใคร
         ๓. ปาฏิโมกฺเข จ สํวโร สำรวมในศีลและมารยาทให้ดี
         ๔. มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสฺมึ รู้จักประมาณในการรับประทาน รวมไปถึงการใช้สอยปัจจัยสี่ ไม่ สุรุ่ยสุร่าย
         ๕. ปนฺตญฺจ สยนาสนํ นั่งนอนในที่สงบ รู้จักหาความสงบให้กับตัวเอง
         ๖. อธิจิตฺเต จ อาโยโค หมั่นปรารภความเพียร เพราะสมาธิคือแก่นของการได้บรรลุมรรคผลนิพพาน

         โอวาทปาฏิโมกข์ที่กล่าวมาแล้วนี้ ถือว่าเป็นเนติแบบแผนในการกำหนดเส้นทาง สู่สันติภาพให้บังเกิดขึ้น แก่โลกอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ศาสนา หรือเผ่าพันธุ์ใด หากน้อมนำไปปฏิบัติ ชีวิต ก็จะพบแต่ความสุขสวัสดีอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์จึงทรงสอนให้ยึดหลักการเหล่านี้ ซึ่งจะเป็นหลักวิชชาที่จะทำให้ มนุษยชาติได้เข้าถึงชีวิตที่สมบูรณ์

 

 

         ดังนั้น ในวันมาฆบูชาของทุกปี พุทธศาสนิกชน ทั่วทั้งโลกควรจะให้ความสำคัญกับเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์และมาเจริญ "ตถาคตโพธิสัทธา" พร้อมกับทำบุญกุศลที่วัดใกล้บ้าน เพื่อจะได้มีโอกาสรับฟัง "โอวาทปาฏิโมกข์" จากพระสงฆ์ เป็นการทบทวนอมตธรรมล้ำค่าที่พระบรมศาสดาได้ทรงประทานไว้ และมาพร้อมใจกันปฏิบัติธรรม ทั้งทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา เพื่อให้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน รวมทั้งจุดมาฆประทีปเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เรา จะได้ชื่อว่าเป็นชาวพุทธที่แท้จริง เป็นผู้ที่จะทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง เป็นหลักชัยของชาวโลก ต่อไป
          มาฆบูชา... วันที่เหล่าพุทธบริษัทจะมาร่วมกันต่อเติม "ตถาคตโพธิสัทธา" มาเจริญพุทธานุสติ ที่พระองค์ทรงมีมหากรุณาต่อมวลมนุษยชาติ
       มาฆบูชา... วันที่โคมมาฆประทีปนับแสนดวงจะถูกจุดขึ้น เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา ที่ได้ทรงประทานคำสอน อันบริสุทธิ์ อันเป็นเหตุให้มนุษยชาติ ได้พบความสุขที่แท้จริง
       มาฆบูชา... วันแห่งการสถาปนาสันติภาพโลกตามหลักพุทธวิธี คือวันที่เราจะมาทำใจให้ผ่องใส และพร้อมใจกันแผ่เมตตา ให้แก่สรรพสัตว์ทั่วทั้งจักรวาล ให้ประสบแต่ความร่มเย็นเป็นสุข ดังนั้น ทุกท่านที่มาร่วมงาน คือ ผู้มีส่วนในการ สถาปนาสันติภาพโลกที่ยั่งยืน...

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล