ฉบับที่ ๑๔๖ เดือนธันวาคม ๒๕๕๗

ศีลข้อ ๒ (ตอนที่ ๔) วิธีดำเนินการหมู่บ้านรักษาศีล ๕

ศีลข้อ ๒
เรื่อง : พระราชภาวนาจารย์ (หลวงพ่อทัตตชีโว)

 

 

ศีลข้อ ๒  (ตอนที่ ๔)

วิธีดำเนินการหมู่บ้านรักษาศีล ๕

 

บรรยายโดย พระราชภาวนาจารย์ รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย 
แด่ พระวิทยากรโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ 
วันเสาร์ที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เวลา ๑๔.๓๐-๑๖.๐๐ น. 
ณ ศาลาสตมานุสรณ์ (ศาลาทรงไทย) วัดปากนํ้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร

 

วิธีดำเนินการหมู่บ้านรักษาศีล ๕

 

    ถามว่าท่านกลับไปแล้วท่านจะมีวิธีเริ่มงานหมู่บ้านรักษาศีล ๕ อย่างไร ท่านจะต้องไปทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ศีล ๕ สำคัญต่อชีวิตของเขา ต่อครอบครัวของเขา ช่วยปิดนรกเปิดสวรรค์ให้เขาได้ เพราะฉะนั้นถ้าจะให้โครงการหมู่บ้านรักษาศีลเกิดขึ้นมาได้ อยากจะฝากเอาไว้ เมื่อกลับไป ท่านมีงานทำอยู่ ๓ ประการ 


    ประการที่หนึ่ง สร้างกระแสนิยมรักศีล ๕ ให้ได้ เรื่องนี้ต้องอาศัยความสามารถในการบรรยาย ความสามารถในการเทศน์ของท่าน 


    ประการที่สอง ต้องหาวิธีปิดโอกาสละเมิดศีล เช่น เหล้า รัฐบาลบอกไม่รู้จะทำอย่างไรกับมัน ไม่ให้มีการผลิตเหล้าในประเทศไทยก็ทำไม่ได้ ก็ใช้วิธีการปิดโอกาส คือ ป้องกันไม่ให้มีการกินเหล้าได้ง่าย โดยกำหนดมาตรการในการขาย กำหนดเวลาขาย กำหนดอายุผู้ซื้อ เป็นต้น การพนันก็เช่นกัน ใครจะเล่นการพนันก็ต้องขออนุญาต ผู้เข้าไปเล่นต้องขออนุญาตอีกเหมือนกัน ต้องมีอายุเท่านั้นเท่านี้ นี่เป็นตัวอย่าง โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ถ้าจะช่วยกันทำจริง ๆ นอกจากเทศน์ นอกจากให้ศีล นอกจากไปชวนเชิญให้รักษาศีลแล้ว ยังต้องหาวิธีป้องกันไม่ให้ละเมิดศีลอีกด้วย ซึ่งก็ต้องพิจารณาเป็นพื้นที่ ๆ ไป 


    ประการที่สาม เมื่อไม่ละเมิดศีลแล้ว ทำอย่างไรให้รักษาศีลมั่นคง อันนี้มี ๓ ขั้นตอนด้วยกันครับ 


    ขั้นตอนแรก ไปประชาสัมพันธ์เชื้อเชิญ ความสำเร็จอยู่ที่จำนวนผู้แสดงเจตจำนงที่จะรักษาศีล เพราะคนในโลกรออยู่แล้ว คือกลุ่มที่ธรรมดาก็หากินโดยชอบธรรม-ไม่ชอบธรรม รีบให้กำลังใจดี ๆ เดี๋ยวท่านจะได้กลุ่มนี้เป็นพวก ส่วนกลุ่มที่หากินแบบชอบธรรม พอรู้ข่าวโครงการนี้ก็อยากเข้าร่วมด้วย รีบคว้าเอามา สำหรับพวกนี้ท่านสร้างกระแสนิยมเชิญชวน รับสมัครแล้วก็จะมีผู้แสดงเจตจำนงรักษาศีล เป็นการแสดงถึงความสำเร็จขั้นต้น คือแสดงถึงความสามารถในการเชื้อเชิญชักจูงของท่านว่าไม่เลวเหมือนกัน                                                                                                                      
    เมื่อได้ผู้แสดงเจตจำนงมาแล้ว ขั้นตอนที่สอง ปิดโอกาสละเมิดศีล ทำอย่างไร? จัดค่ายฝึกความสะอาด ความเป็นระเบียบ สองเรื่องนี้ต้องฝึก แม้พวกเราที่มาบวชก็ต้องมาฝึกทำความสะอาด การจัดระเบียบ หรือที่เรียกว่าขอนิสัย ฝึกดูแลตัวเอง รักษาความสะอาด ดูแลสบง ผ้าผ่อน สังฆาฏิ กุฏิ ข้าวของต่าง ๆ ของตัวเองให้รัดกุมยิ่งขึ้น 


    เรื่องนี้ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติม ในเรื่องการจัดห้องนอน ถ้าจะทำความสะอาดก็ถามก่อนว่านี่ห้องอะไร นี่เป็นห้องนอน อย่างนั้นทำการสำรวจเลย ของที่มีอยู่ในห้องที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนอนมีไหม ถ้ามีก็รีบขนออก ขนออกไปได้หลายรายการเลยครับ เพราะเดี๋ยวนี้พ่อบ้านแม่บ้านมีนิสัยพอ ๆ กัน คือของที่ซื้อมา จริง ๆ แล้วไม่ค่อยอยากได้เท่าไร แต่ชอบใจของแถมก็เลยไปซื้อเอามา ของที่ไม่ได้ใช้เอามาไว้ในห้องนอน ของที่ซื้อมาแล้วสามปีห้าปียังไม่ได้ใช้เลย เอาไว้ทำอะไร ขนออกไป เมื่อขนออกไปแล้ว จากนั้นค่อยกลับมาดูว่าของที่ใช้ จำเป็นไม่จำเป็นมากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่จำเป็นขนออกไปอีก ท่านเชื่อไหมยังไม่ทันทำความสะอาดห้องนอน มีของเตรียมจะแจกเกินกว่าครึ่งห้อง จากนั้นจึงปัดกวาดเช็ดถู แล้วคืนนี้ตอนกลับเข้าไปนอน อะไรที่จะใช้ก็หยิบเข้ามาทีละชิ้น ถ้ายังไม่ใช้ไม่ต้องไปหยิบ ปรากฏว่าของที่ขนออกไปเดือนหนึ่งแล้วยังไม่ได้หยิบเลยมีอีกตั้งเยอะ ถ้าอย่างนั้นเก็บใส่กล่องเลย ถ้าภายในอีกเดือนหนึ่งก็ยังไม่ได้ใช้ รีบเอาไปแจกเลย ดูนะครับ รายได้เท่าเดิมแต่มีของไปแจกแล้วครับ เวลาจะซื้ออะไรใหม่ ต่อไปนี้คิดเยอะเลยว่าใช้ไหม รายได้ก็ยังไม่มีเพิ่ม แต่ว่ามีเงินเหลือพอมาทำบุญเพิ่ม จากการทำความสะอาดถูกวิธีอย่างนี้ครับ ความสะอาดมีฤทธิ์ที่จะทำให้รักษาสมบัติ มีฤทธิ์ที่จะทำให้ได้ทำบุญเพิ่ม และมีฤทธิ์ที่จะทำให้รักษาศีลข้อ ๑ ได้ไม่ยากจนเกินไป 


    ไม่น่าเชื่อเลยครับ เมื่อทำความสะอาดได้ จัดระเบียบได้ ต่อจากนี้ความสุภาพ การตรงต่อเวลาจะมาเอง มีสมาธิเข้ามาเองครับ ไม่น่าเชื่อ ในฐานะที่จะต้องเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ก็เลยตั้งชื่อ ความสะอาด ความมีระเบียบ ความสุภาพ การตรงต่อเวลา การทำใจใส ๆ ให้มีสมาธิ ว่า “ความดีสากล ทุกคนทำได้”


    ใครนับถือศาสนาไหนก็ตาม ถ้ารักษาความสะอาดได้ดี ก็จะรักษาศีลข้อ ๑ ได้ สะอาดและเป็นระเบียบแล้วจะรักษาศีลข้อ ๒ ก็ได้ เมื่อความสะอาดยังอยู่ ความสุภาพก็เกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นศีลข้อ ๓ ก็มีแนวโน้มที่จะมั่นคงเพิ่มมากขึ้น พอรักษาศีลได้ ๓ ข้อ ต่อไปเรื่องการตรงต่อเวลาก็จะเริ่มได้ เรื่องการบริหารเวลา เรื่องจัดระเบียบความคิดได้แล้ว พอบริหารเวลาได้ ทำไมจะต้องโกหกด้วย ศีลข้อ ๔ ก็จะรักษาได้ พอตรงเวลาเลยมีสมาธิขั้นต้นอยู่ในตัว พอลงมือฝึกทำสมาธิยิ่งขึ้น ความดีต่าง ๆ จะไหลเข้ามาเอง ไม่น่าเชื่อครับ แต่ต้องเริ่มต้นจากการทำความสะอาดนะครับ ถ้าเป็นพระก็กวาดกุฏิ ถูกุฏิกันทุกวันครับ ถ้ากุฏิยังสกปรกอยู่ หลวงพี่ยังเหยียบมดตายอยู่ อย่าไปให้ศีลให้ยากเลย ต้องบอกว่า การทำโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หลังจากรับสมัครมาแล้ว ต้องรีบจัดค่ายปฏิบัติความดีสากลก่อน ฝึกให้เขาจัดระเบียบ ทำความสะอาด ฝึกให้เขาจัดบ้านให้เป็น เรื่องนี้ต้องฝึกครับ ผลสำเร็จของโครงการให้ดูที่จำนวนบุคคลที่ปฏิบัติความดีสากล ดูจำนวนบ้านที่สะอาดเป็นระเบียบครับ เมื่อประชาชนทำแล้ว ได้บ้างไม่ได้บ้างแล้ว ติดตามให้ดีครับ ทั้งติดตาม ทั้งประชุม ทั้งฟังเทศน์ ทั้งสวดมนต์ ทั้งรักษาศีล หนักเข้า ๆ ก็จะได้ ถ้าเอาแต่เทศน์และให้ศีลแล้ว ประชาชนจะรักษาศีลโดยไม่จับมือกันทำความดีสากล ผมว่ายากครับ ชาติหน้าก็ไม่ได้ ก็ต้องถามว่า ความสำเร็จอยู่ที่ไหน อยู่ที่ตัวท่านที่จะปฏิวัติตัวเอง หรืออยู่ที่การเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองว่า ท่านจะไปเคี่ยวเข็ญเรื่องการทำความสะอาดของตัวท่านเองและสมบัติที่มีอยู่ แล้วจัดระเบียบสิ่งของที่มีอยู่อย่างไร 


    จากนั้นจึงค่อยจัดอบรมในหมู่บ้าน บุคคลที่น่าจะฝึกอบรมมากก็คือ พระภิกษุที่จะไปเป็นต้นแบบครับ ถ้าไม่มีต้นแบบ ไม่มีโมเดลทำไม่ได้ ถ้าจะผลิตรถก็ต้องมีต้นแบบ มีโมเดลของรถออกมา จะผลิตอาหาร จะผลิตขนม ก็ต้องมีตัวอย่างมีโมเดลอาหารขนมออกมา จะผลิตเสื้อก็ต้องมีโมเดลเสื้อผ้าออกมา จะแก้ไขพฤติกรรมสันดานของคนก็ต้องมีโมเดลออกมา โมเดลเอามาจากไหน เอาจากพระครับ พระพร้อมแล้วหรือยังที่จะเปิดกุฏิให้โยมดูว่า ถ้าจะจัดบ้านก็จัดอย่างกุฏิอาตมานี่ หรือถ้าจะจัดบ้านให้มาดูเลยว่าฉันจัดวัดอย่างไร แล้วกลับไปจัดบ้านของตัวเอง ทำอย่างนี้หมู่บ้านรักษาศีล ๕ เกิดครับ แต่ว่าถ้าเทศน์ ๆ ขอดูกุฏิท่านหน่อย ขอดูที่ทำงานท่านหน่อย เฮ้ย! เรื่องของพระเอ็งอย่ามายุ่ง เจ๊งครับเรื่องนี้ มีแค่นี้ครับ พระภิกษุต้องเป็นต้นแบบให้ได้ จากนั้นเรียกตัวผู้นำชุมชนมาฝึก ถ้าได้นายกเทศมนตรี นายก อบต. คุมเอาพวกพ้องลูกน้องมาฝึกด้วยได้ละก็ เดี๋ยวโครงการนี้ไปลิ่วเลยครับ เพราะถ้าฝึกอย่างนี้ได้ เท่ากับช่วยเขาหาเสียง หาสมาชิกไปด้วย ถึงเวลาเลือกตั้งไม่ต้องซื้อเสียงเลยครับ 


    สรุปโครงการรักษาศีล ๕ คืออะไร คือโครงการปลูกฝังวินัยของคนทั้งหมู่บ้านและทั้งชาติ คือโครงการแก้นิสัยมักง่ายของคนทั้งหมู่บ้านและทั้งชาติ แล้วก็เป็นความมั่นคงของประเทศชาติและพระพุทธศาสนา วัดของพวกเราพระเณรทั้งวัดจะกราบพระพร้อม ๆ กันยังยาก ถ้าวันนี้ยังไม่เคี่ยวเข็ญให้พระ สามเณร และประชาชน กราบพระประธานหรือว่าทำวัตรพร้อมกันได้ทั้งวัด ทั้งหมู่บ้าน โดยไม่มีใครขาดตกบกพร่องแม้แต่คนเดียว โอกาสที่จะทำให้พระพุทธศาสนามั่นคง ประเทศชาติมั่นคง คงจะยาก เพราะเมื่อเปิดเศรษฐกิจอาเซียนขึ้นมาเมื่อไร คนแต่ละประเทศ แต่ละศาสนาจะไหลถึงกัน ถ้าเราไม่ฝึกคนของเราให้มีศีลมั่นคงก็จะพลาด ถ้าเราเริ่มทำตอนนี้โอกาสสำเร็จมีครับ มองให้ไกล มองทั้งตัวเอง มองทั้งอนาคตลูกหลาน มองทั้งอนาคตของประเทศ เดี๋ยวก็มีกำลังใจที่จะสร้างหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ขึ้นมา ถ้าพระเราช่วยกัน ญาติโยมช่วยกัน จะมีสิ่งหนึ่งที่งอกขึ้นมาเอง คือกลายเป็นการฝึกคนให้มีความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ ฝึกพระให้มีความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ ต่อพระพุทธศาสนา เพราะฉะนั้นผมก็ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้ากับทุก ๆ ท่าน ขอให้ประสบผลสำเร็จในการทำหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ได้เป็นอัศจรรย์จงทุกท่านเทอญ

 

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล