ฉบับที่ ๑๕๔ เดือนสิงหาคม ๒๕๕๘

Case Study : มะเร็งปอดเพราะตีรังผึ้ง

Case Study  กรณีศึกษา
มะเร็งปอดเพราะตีรังผึ้ง
(๓ มีนาคม ๒๕๔๗)

กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างสูง

       ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๒๙-๒๕๓๐ ตัวลูกมีอาการปวดท้องคล้ายโรคกระเพาะ จึงเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาฯ กินยาอยู่นานแต่อาการไม่ดีขึ้น หมอเลยส่องกล้องดูภายในกระเพาะอาหาร ก็พบว่ามีน้ำดีเข้าไปอยู่ในกระเพาะอาหาร ซึ่งตามปกติน้ำดีน่าจะอยู่ในลำไส้เล็ก

      มีอยู่วันหนึ่งลูกถ่ายอุจจาระออกมาเป็นน้ำมันล้วน ๆ โดยไม่มีกากอาหารเลย รุ่นพี่ในที่ทำงานซึ่งสนิทกันมากสังเกตอาการป่วยของลูกอยู่ตลอด จึงแนะนำให้ลูกไปรับการรักษาโดยการทรงเจ้า

          ผู้ที่มาเข้าร่างทรงชื่อว่าปู่เทพาดำทุ่งปัจจุบันมีศาลอยู่ที่วัดดอน ยานนาวา เป็นชาวอิสลาม

       ปู่บอกว่า ลูกถูกน้ำมันพรายซึ่งแม่ม่ายนำไปใส่ในอาหารแล้วเอามาให้กิน เพื่อให้ลูกตายจะได้แย่งสามีลูก แม่ม่ายคนนี้ทำงานอยู่ห้องเดียวกับลูกและสามีลูก เธอเป็นม่ายเพราะสามีตาย เพิ่งย้ายมาจากต่างจังหวัด

     ก่อนรักษา ปู่เชิญหมดผีที่ทำน้ำมันพรายรวมทั้งผีที่ถูกลนน้ำมันพรายมาเข้าสิงลูกมากมายไปหมด แปลกมาก! เวลาถูกผีเข้าใจเป็นของเรา แต่กายถูกเขายึดไปหมด รู้ตัวทุกอย่างแต่ฝืนไม่ได้

    ช่วงการรักษา ท้องลูกแข็งเป็นกระดานกดไม่ลง ปู่ให้ลูกกินขี้ธูปและดอกมะลิที่วางอยู่ตรงหน้าปู่ พอกินเข้าไปแล้วลูกก็ปวดหัวมากและอาเจียน และมีอาการประหลาดมาก คือผายลมตลอดเวลาทั้งวัน เหมือนปล่อยลมออกจากลูกโป่งตลอดเวลา หลังจากนั้นท้องก็นิ่มเป็นปกติ

       แม่ของลูก เป็นคนไหว้เจ้า เข้าวัดเจ้าระเบียบกับลูก ๆ ตีลูกเก่งมาก แต่ใจดีกับคนอื่น แม่ไม่เคยตำหนิใคร ทำให้เป็นที่รักของญาติและเพื่อนบ้าน

       แม่ขยันทำงานและรักความสะอาดมากลูกมีโอกาสพาแม่มาวัด แม่ทำบุญเศรษฐีถาวรตลอดอายุขัย โดยได้รหัสหมายเลข ๒๔ เป็นรุ่นแรก

      ก่อนเสียชีวิต แม่บ่นปวดหัว ๓ วัน ลูก จึงพาแม่ไปโรงพยาบาล หมอตรวจดูทุกอย่างไม่พบความผิดปกติอะไร แต่เพื่อความสบายใจของคนไข้จึงตรวจซีทีสแกนให้

      พอผลตรวจออกมาพบเนื้อร้ายในสมองก้อนใหญ่มาก พอไปเอกซเรย์ปอด พบว่าปอดเหลือข้างเดียว หมอก็งงกันใหญ่ว่าเป็นไปได้อย่างไร เพราะคนไข้ดูเหมือนไม่เป็นอะไร ปอด เหลือข้างเดียวทำไมไม่เหนื่อย ไม่หอบ เนื้อร้ายในสมองก้อนขนาดนี้ คนไข้เพิ่งปวดหัวได้ ๓ วัน เมื่อแม่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หมอให้กินยาแก้ปวด แม่ก็หายปวดหัว

    ลูกรู้ดีว่าแม่เข้าโรงพยาบาลครั้งนี้แล้วไม่มีสิทธิ์กลับบ้านแน่นอน จึงเตรียมเสบียงให้แม่เดินทางไกล โดยนิมนต์พระอาจารย์จากวัดพระธรรมกายไปรับสังฆทานและทำพิธีปล่อยปลา หวังให้แม่จำภาพการสร้างบุญเป็นภาพสุดท้าย

   เวลานั้นลูกให้เงินแม่เป็นครั้งสุดท้ายจำนวน ๕๖,๐๐๐ บาท โดยแบ่งทำบุญเศรษฐีถาวรล่วงหน้า ๓ ปี (๓๖,๐๐๐ บาท) ทำบุญทอดผ้าป่ามาฆบูชาย้อนหลัง ๑๐,๐๐๐ บาทและทำบุญทอดผ้าป่าวิสาขบูชาล่วงหน้าอีก ๑๐,๐๐๐ บาท

      ต่อมาแม่อาเจียนเป็นเลือด และบอกกับหลานสาวที่นอนเฝ้าว่า “ย่าจะตายแล้วนะ”แล้วแม่ก็มีอาการโคม่า ๑ สัปดาห์ แล้วก็เสียชีวิตโดยไม่มีอาการทรมานเลย

      แม่เสียชีวิตเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ อายุได้ ๗๙ ปี เพราะโรคมะเร็งปอดกระจายไปยังสมอง ทั้ง ๆ ที่แม่ไม่เคยสูบบุหรี่เลย

      เตี่ยของลูก เป็นชาวจีน ฆ่าไก่ไหว้เจ้าไม่นับถือพระ กินเหล้าเป็นประจำ ป่วยเป็นโรคตับเสียชีวิตตั้งแต่อายุได้ ๔๙ ปี

     ตั้งแต่วันทำบุญครบ ๗ วัน เวลากลางคืนหมาหอนทุกคืน จนถึงทำบุญ ๑๐๐ วัน หมาหอนแปลกมาก คือ หอนสักครู่ก็จะหยุดหอน แล้วแสดงอาการดีใจเหมือนเดินตามเจ้าของเข้าบ้านเป็นอย่างนี้ทุกคืน แต่พอทำบุญ ๑๐๐ วัน ก็หายไป

      เวลาผ่านไป ๑๐ กว่าปี วันหนึ่งลูกจ้างเลี้ยงหมูของพี่สาวถูกผีเข้า ผีที่มาเข้าบอกว่าเป็นเตี่ย และบอกพี่สาวว่า “กูเป็นห่วงมึง เลยมาช่วยดูแลหมู ดูแลไก่ให้” พี่สาวก็ถามว่า“แล้วเตี่ยไม่ห่วงไอ้จุกเหรอ” (ตัวลูกมีชื่อเล่นว่าจุก) เตี่ยบอกว่า “ไม่ห่วงหรอก อีกหน่อยมันก็สบายแล้ว” ลูกจ้างเลี้ยงหมูบอกว่า เห็นผู้ชายจีนนุ่งกางเกงสีดำ ไม่ใส่เสื้อ เดินอยู่ในเล้าหมูเป็นประจำ

 

ประวัติผู้ส่ง case

     ลูกชื่ออัมพร ชาเทพ เป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาผ่านจานดาวธรรมเริ่มเข้าวัดปี พ.ศ. ๒๕๓๒ โดยมีกัลยาณมิตรคือ หลานชายที่มาบวชธรรมทายาทภาคฤดูร้อนปัจจุบันก็ยังบวชเป็นพระอยู่ ชื่อพระวิชิต กิจฺจชโย สำนักบริการกลาง

       ลูก พี่สาว และหลานสาว (ลูกพี่สาว)ร่วมกันสร้างองค์พระประจำตัวให้เตี่ยและแม่ด้วยค่ะ

 

บุญที่ลูกปลื้มมาก ๆ มี ๓ บุญ คือ

     ๑. บุญเททองหล่อหลวงปู่ ปี ๒๕๓๗ลูกทำด้วยตัวเองโดยถวายทองทั้งหมดที่มีอยู่และทำหน้าที่ชักชวนคนอย่างเต็มที่

    ๒. บุญกฐินพระราชฯ ครั้งที่ ๑ เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๔๕ ลูกปลื้มมาก เพราะสามารถชวนพี่สาวเปิดบัญชีบุญเป็นประธานรองกฐินได้สำเร็จ ที่ปลื้มเพราะตอบแทนบุญคุณพี่สาวได้สำเร็จ โดยสามารถทำให้พี่สาวตัดความตระหนี่ได้

     ๓. บุญถวายน้ำมันเหลือง ๑ แสนขวดแด่พระภิกษุที่มาในวันสลายร่างคุณยายอาจารย์ฯ(ผลิตเองค่ะ ไม่ได้ซื้อมาถวายนะคะ)

    ลูกสามารถทำได้สำเร็จทั้ง ๆ ที่ยังมีหนี้เพราะลูกอยากแทนคุณของคุณยายอาจารย์ฯและคิดว่าเป็นโอกาสเดียวที่จะได้ทำ ถ้าเลยเวลาไปแล้ว ถึงจะมีเงินร้อยล้าน พันล้าน ก็ไม่มีโอกาสทำแล้ว

      บุญทุกบุญที่คุณครูไม่ใหญ่บอก ลูกไม่เคยพลาด ทำแบบสุดหัวใจ แต่เกินปัจจัยที่มีทุกครั้ง และจะทำต่อไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ

 

บุญที่ลูกทำเป็นประจำ ได้แก่

๑. บุญบูชาข้าวพระ
๒. บุญเศรษฐีถาวร
๓. ช่วยงานเหรัญญิกวันอาทิตย์
๔. บำรุงวัดกิ่วลม
๕. ปล่อยปลาที่บางไทรกับกลุ่มบุญแก้ว
๖. พิมพ์หนังสือธรรมะ
๗. จีวรแก้วกับป้าเข่ง
๘. ดอกบัวบูชาเจดีย์
๙. ดอกไม้หอมในโบสถ์ และดอกไม้ในสภาธรรมกายสากล

 

เรื่องของลูกสาวและสามี

      หลังจากจัดงานศพและทำบุญ ๗ วันแล้ว ลูกก็อยากรู้ว่า แม่ตายแล้วไปไหน จึงให้ลูกสาวของลูกชื่อน้องนุ้ย ซึ่งขณะนั้นอายุ ๘ ขวบนั่งสมาธิดูว่า ยายตายแล้วไปอยู่ที่ไหน เพราะลูกเคยฟังมาว่า ถ้าใครนั่งสมาธิเห็นองค์พระจะไปนรกก็ได้ สวรรค์ก็ได้ (ลูกพาน้องนุ้ยเข้าวัดตั้งแต่ ๕ ขวบ เวลานั่งสมาธิด้วยกัน น้องนุ้ยจะบอกว่า คุณแม่ ๆ ลูกนั่งแป๊บเดียว ดวงแก้วก็มาแล้ว พออีกแป๊บองค์พระก็มา ฟังแล้วทำไมง่ายจัง แม่นั่งตั้งนานดวงแก้วกับองค์พระไม่มาหาแม่เลย)

      ปรากฏว่า น้องนุ้ยหายไปพักใหญ่ ๆกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นว่า “คุณแม่ ๆ ลูกไปพบคุณยายของลูกแล้ว คุณยายเป็นสาวสวยคุณยายไม่แก่เลย”

         ลูกถามว่า “แล้วลูกรู้ได้ยังไงว่าเป็นคุณยายของลูก”

         น้องนุ้ย “ลูกรู้คุณแม่ ลูกรู้ แล้วคุณยายก็จำลูกได้ด้วย”

         “ลูกทำยังไงจึงไปพบคุณยาย”

       “ลูกนั่งสมาธิพอเห็นองค์พระ ก็บอกองค์พระว่า ช่วยพาไปสวรรค์ที พอขึ้นไปบนสวรรค์พบนางฟ้า ๒ คน ลูกก็บอกนางฟ้าว่าจะมาหาคุณยายอ๋อ นางฟ้าบอกว่าที่นี่ไม่มีคุณยายลูกก็บอกว่าหาคนที่ชื่ออ๋อเฉย ๆ ก็ได้ นางฟ้าก็พาลูกไปหาคุณยาย คุณยายเป็นสาวสวยไม่แก่ คุณยายนั่งสมาธิอยู่”

       ลูกถามอีกว่า “แล้วบ้านที่คุณยายอยู่เหมือนที่เราเผากระดาษไปให้ไหม (คนจีนมักเผากระดาษที่ทำเป็นบ้าน รถ สมบัติ ฯลฯให้ผู้ตาย)

          น้องนุ้ย “ไม่เหมือนบ้านคุณยายคล้ายวัด”

          “แล้วคุณยายทำอะไรอยู่”

          “นั่งสมาธิอยู่”

          “คุณยายใส่สร้อยหรือเปล่า”

          น้องนุ้ยตอบว่า “จะต้องใส่ทำไมล่ะเสื้อผ้าที่คุณยายใส่เหมือนเพชรเลย”

      เหตุการณ์ครั้งนั้นลูกงงมาก เพราะปกติแม่ของลูกนั่งสมาธิไม่เป็น สวดมนต์เป็นอย่างเดียว พอตายแล้วทำไมนั่งสมาธิเป็น เคยฟังมาว่าชาวสวรรค์มีเครื่องประดับ แต่ทำไมแม่ไม่มีเครื่องประดับ น้องนุ้ยยังบอกอีกว่า นั่งสมาธิทีไรคุณยายมาหาทุกครั้ง

         สามีของลูกมาวัดด้วย แต่ชอบอยู่รอบ ๆ วัดสมัยที่ประกอบพิธีกรรมบริเวณสภาธรรมกายหลังคาจาก เขาจะไปจอดรถคอยอยู่ข้าง ๆ โบสถ์ พอได้เวลา ๕ โมงเย็น ก็มารับลูกกลับบ้าน

   ตอนนี้พิธีกรรมย้ายมาที่สภาหลังใหญ่เขาก็ไปจอดรถรออยู่แนวไผ่หน้าชมรมพุทธฯทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เมื่อไรจะเข้าวัดเต็มตัวสักทีคะ ลูกและลูกสาวลูกชายจะต้องทำหรือพูดอย่างไรให้เขายอมมานั่งในสภาฯ (ชวนคนอื่นง่ายกว่าชวนคนในบ้าน)

 

หลังจากส่งคำถามไปกราบเรียนถามคุณครูไม่ใหญ่แล้ว
ก็มีคำตอบจากโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาดังนี้

 

Case Study , มะเร็งปอดเพราะตีรังผึ้ง , อัมพร ชาเทพ

     ๑. ลูกถูกน้ำมันพราย ตอนนี้ของหมดจากตัวไปแล้ว มีวิบากกรรมจากในอดีตที่เคยเป็นผู้หญิง เคยไปชอบพอผู้ชายที่มีภรรยาแล้วแต่ไม่ถึงกับไปแย่งสามีเขา คือยังไม่ถึงขั้นสุดท้าย ภายหลังตัดใจได้ นับแค่ ๗-๘ ก็เลิกระฆังช่วยไว้ก่อน คือคิดได้

 

Case Study , มะเร็งปอดเพราะตีรังผึ้ง , อัมพร ชาเทพ

       ๒. ด้วยวิบากกรรมนี้จึงทำให้คนสามารถทำไสยเวทใส่ได้ คือ มีวิบากกรรมนี้ดูดเข้ามา

 

Case Study , มะเร็งปอดเพราะตีรังผึ้ง , อัมพร ชาเทพ

      ๓. ปู่เทพาดำทุ่งเป็นอาจารย์วิทยาธรลูกสร้างพระธรรมกายประจำตัวให้ก็ไม่รับหรอกเพราะไม่มีศรัทธา ไม่ปลื้ม เพราะฉะนั้นมาศึกษาเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ใดจะได้ทำได้ถูก

 

Case Study , มะเร็งปอดเพราะตีรังผึ้ง , อัมพร ชาเทพ

        ๔. ปรโลกของแม่ได้ไปดาวดึงส์

 

Case Study , มะเร็งปอดเพราะตีรังผึ้ง , อัมพร ชาเทพ

       ๕. บุพกรรมของแม่ที่ทำให้ป่วยเป็นโรคมะเร็งแต่ไม่มีทุกขเวทนา เพราะมีกรรมในอดีตเคยเกิดเป็นชายเข้าป่าไปตีรังผึ้ง โดยรมควันไล่ผึ้งให้หนีไป ทำให้ผึ้งและตัวอ่อนตายเป็นจำนวนมาก

 

     ๖. แต่เคยนำน้ำผึ้งที่ตัวเองได้มาไปปรุงเป็นสมุนไพรแจกเพื่อนบ้าน แล้วยังเคยนำน้ำผึ้งไปถวายพระ บวกกับบุญในปัจจุบันก็เลยไม่เจ็บปวดเวลาป่วย

 

Case Study , มะเร็งปอดเพราะตีรังผึ้ง , อัมพร ชาเทพ

      ๗. แม้เตี่ยจะมีกรรมปาณาติบาตหรือกรรมสุราเป็นอาจิณ แต่บุญเก่าที่ตัวเองเคยกตัญญูต่อบิดามารดาและสงเคราะห์ญาติช่วยอุ้มไว้ ทำให้ไม่ไปอบาย ไม่ไปตกนรก รวมทั้งบุญที่ลูกหลานทำส่งไปให้ ทำให้ช่วงตายใหม่ ๆวนเวียนอยู่ที่บ้าน หมาเห็น หมาก็หอน

 

Case Study , มะเร็งปอดเพราะตีรังผึ้ง , อัมพร ชาเทพ

        ๘. พอพ้น ๑๐๐ วันแล้ว ด้วยบุญที่อุทิศไปให้ เตี่ยจึงได้ไปเป็นภุมเทวา (ภุมเทวดา)แถว ๆ บ้าน

 

Case Study , มะเร็งปอดเพราะตีรังผึ้ง , อัมพร ชาเทพ

        ๙. เตี่ยได้มาสิงคนงานของพี่สาวจริง

 

Case Study , มะเร็งปอดเพราะตีรังผึ้ง , อัมพร ชาเทพ

        ๑๐. ด้วยบุญที่หลานชายบวชเป็นพระและเณรอุทิศให้ จึงทำให้เตี่ยและแม่ได้มีส่วนในบุญ

 

Case Study , มะเร็งปอดเพราะตีรังผึ้ง , อัมพร ชาเทพ

       ๑๑. พี่สาวปิดบัญชีแบงก์ เปิดบัญชีบุญท่านก็ได้บุญ มีสมบัติและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

 

Case Study , มะเร็งปอดเพราะตีรังผึ้ง , อัมพร ชาเทพ

      ๑๒. บุพกรรมที่ทำให้ลูกต้องแท้งลูกถึง ๔ คน เพราะลูกเคยทำแท้งมาในอดีต ได้ใช้ส่วนกรรมไปแล้ว ชาตินี้เป็นเพียงเศษกรรม

 

Case Study , มะเร็งปอดเพราะตีรังผึ้ง , อัมพร ชาเทพ

      ๑๓. ลูกปวดศีรษะมา ๒๐ ปี เพราะเศษกรรมที่เคยฆ่าสัตว์ทำอาหาร เช่น ทุบหัวปลาเป็นประจำ ให้แก้ไขโดยการรักษาสุขภาพและปล่อยสัตว์ ปล่อยปลา อย่าเครียดกับงานจนเกินไป

 

Case Study , มะเร็งปอดเพราะตีรังผึ้ง , อัมพร ชาเทพ

       ๑๔. ที่ลูกสาวนั่งสมาธิเห็นคุณยายเพราะมีจิตผูกพัน

 

 


บทสัมภาษณ์เจ้าของ Case Study

      ฟังเคสจบมีเรื่องอัศจรรย์ใจว่าท่านทราบได้อย่างไร คือ อยากทราบว่า พระหลานชายบวชให้ตั้ง ๑๐ พรรษา และพระลูกชายบวชธรรมทายาทตั้งหลายครั้ง บุญนี้ส่งผลให้เตี่ยกับแม่เป็นอย่างไร คุณครูไม่ใหญ่ตอบว่า “ถ้าอุทิศก็จะได้ เลยไปถามพระหลานชายว่าอุทิศบุญบวชให้ก๋งกับยายหรือเปล่าท่านบอกว่าลืม บุญอื่นอุทิศให้หมดเลย ลืมบุญบวชที่ไม่ได้อุทิศให้

       การที่เราเป็นนักเรียนอนุบาลฯ ทำให้เรารู้เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต เป็นคนมีเหตุมีผล แล้วก็รู้วิธีแก้ไขข้อผิดพลาด เช่น อาการปวดหัวของเราเป็นมานาน เป็นมากขนาดหัวจะแตก อาเจียน ทานข้าวไม่ได้ ปัจจุบันอาการปวดหัวก็มี แต่ทำงานได้ กินข้าวได้ไม่อาเจียน ทำตามที่คุณครูไม่ใหญ่แนะนำ แล้วก็ร่วมปล่อยปลากับคุณครูไม่ใหญ่ทุกวันศุกร์

     ที่สำคัญทุกวันอาทิตย์ต้องไปวัดพระธรรมกาย เป็นกฎของบ้านเลยว่า สามคนแม่ลูกวันอาทิตย์ต้องไปวัด ลูกอยากเรียนพิเศษ จะทำกิจกรรมอะไร เปิดฟรีหมด ยกเว้นวันอาทิตย์ห้ามมีกิจกรรมเกี่ยวกับการเรียน ต้องไปวัดกับแม่ บอกกับลูก ๆ ว่า แม่ไม่มีสมบัติให้ลูก แม่จะเอาบุญนี้เป็นสมบัติให้ลูก ที่แม่เอาบุญเป็นสมบัติให้ลูก เพราะใครก็มาแย่งไม่ได้ โจรก็ปล้นไม่ได้ เลยร้องขอให้ลูกไปวัดทุกวันอาทิตย์

      ปัจจุบันลูก ๆ เรียนจบ มีงานทำแล้ว ได้นิสัยรักบุญ ถ้าไม่ติดภารกิจอะไรก็ไปวัดทุกวันอาทิตย์หรืออย่างน้อยอาทิตย์ต้นเดือนไม่ขาด

       การที่เราไปวัดทุกวันอาทิตย์เพื่อให้มหาปูชนียาจารย์กลั่นกาย วาจา ใจของเรา แล้วทำตามหลักวิชชาที่คุณครูไม่ใหญ่บอก คือ ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา อย่าไปเซ็ง เบื่อ กลุ้ม ต้องอารมณ์ดีอารมณ์เดียว หมั่นนึกถึงบุญของเราไว้บ่อย ๆ ยิ่งนึกยิ่งปลื้ม แล้วสมบัติจะมาเองเราทำบุญของเราไปเรื่อย ๆ ทำตามที่คุณครูไม่ใหญ่สอน ปัญหาของเราก็มี แต่ก็ผ่านไปได้จากการที่เราไปวัดทุกวันอาทิตย์ และทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นตามลำดับ อธิษฐานอะไรก็สำเร็จหมด

         ดังนั้นเริ่มพรรษานี้เลยนะคะ ลองไปวัดทุกวันอาทิตย์ แล้วชีวิตของเราจะดีขึ้นแน่นอนค่ะ

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล