ฉบับที่ ๑๖๐ เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

ธรรมยาตราฯ วันที่ ๗-๑๐ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๙

ทบทวนบุญ
เรื่อง : มาตา, บทกลอน : อัตตทันต์

ธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์
พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน ๗ แห่ง
วันที่ ๒-๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙

 

วันที่ ๗-๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙ กิจกรรมดูแลศาสนสถานร่วมกับชุมชน
๑. วัดไผ่โรงวัว จ.สุพรรณบุรี ๒. วัดใหม่พิบูลย์ผล จ.สุพรรณบุรี ๓. วัดใหม่นพรัตน์ จ.สุพรรณบุรี
๔. วัดอัมพวัน จ.สุพรรณบุรี ๕. วัดสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

ธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน ๗ แห่ง วันที่ ๒-๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙

๑. วัดไผ่โรงวัว จ.สุพรรณบุรี
 

ธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน ๗ แห่ง วันที่ ๒-๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙

๒. วัดใหม่พิบูลย์ผล จ.สุพรรณบุรี
 

ธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน ๗ แห่ง วันที่ ๒-๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙

๓. วัดใหม่นพรัตน์ จ.สุพรรณบุรี
 

ธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน ๗ แห่ง วันที่ ๒-๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙

๔. วัดอัมพวัน จ.สุพรรณบุรี
 

ธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน ๗ แห่ง วันที่ ๒-๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙

๕. วัดสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

 

วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙ พิธีตักบาตรพุทธบุตรกว่า ๑,๕๐๐ รูป
ณ อนุสรณ์สถานมหาวิหารพระมงคลเทพมุนี โลตัสแลนด์ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

ธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน ๗ แห่ง วันที่ ๒-๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙

ธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน ๗ แห่ง วันที่ ๒-๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙

 

กิจกรรมโปรยดาวรวยต้อนรับพุทธบุตรธรรมยาตรา 
ณ วัดสองพี่น้อง (พระอารามหลวง) อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

ธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน ๗ แห่ง วันที่ ๒-๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙

ธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน ๗ แห่ง วันที่ ๒-๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙

      ช่วงกลางวันตะวันส่องมองเห็นชัด
พุทธบุตรพากเพียรจัดนัดตั้งแถว
แล้วยาตรามุ่งหน้าฝ่าแดดแพรว
ย่ำย่างแก้วเข้าสู่ “วัดสองพี่น้อง!”
       ณ ถิ่นธรรมนำ หลวงปู่สู่ร่างใหม่
อุปสมบทพราวไสวใจผุดผ่อง
ได้ฉายา “จนฺทสโร” งามเรืองรอง
เราทั้งผองระลึกมั่นสรรเสริญคุณ.

 

วันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙ พิธีจุดประทีปและลอยกระทงบูชาธรรมพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) พระผู้ปราบมาร ณ วัดสองพี่น้อง (พระอารามหลวง)อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

ธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน ๗ แห่ง วันที่ ๒-๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙

ธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน ๗ แห่ง วันที่ ๒-๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙

ธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน ๗ แห่ง วันที่ ๒-๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙

ธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน ๗ แห่ง วันที่ ๒-๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙

 

ธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน ๗ แห่ง วันที่ ๒-๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙

โอวาทพระเดชพระคุณพระเทพสุวรรณโมลี
ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี
ณ วัดสองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
วันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙

      นับเป็นบุญเป็น กุศลทียิ่งใหญ่ของผู้ดูและทุกท่านชนในสมาคมนี้ ที่พระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุนีได้สร้างโอกาสดีให้พวกเราได้มาพร้อมใจกันเสริมสร้างบารมี เติมเต็มความดีให้แก่ตนเอง สังคม ประเทศชาติและชาวโลกในโอกาสนี้

      การเดินธรรมยาตราของคณะสงฆ์ได้ดำเนินการมาปีนี้เป็นปีที่ ๕ เริ่มตั้งแต่เราได้อาราธนารูปหล่อทองคำของหลวงปู่มาประดิษฐานที่ดินแดนที่หลวงปู่ถือกำเนิดโดยกายมนุษย์ และเราก็มาสักการะหลวงปู่กันทุกปีก่อนหน้านั้นเราเคยเดินธุดงค์กันมา ก็ได้รับการต้อนรับจากศรัทธาสาธุชนผู้เป็นสัมมาทิฐิด้วยดีตลอดทาง

      ปีนี้เดิมทีเดียวก็ทราบว่าจะมีการเดินธุดงค์อย่างทุกปี แต่ว่าสภาพความเป็นไปของสังคมไทยในปัจจุบันอยู่ในสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย เราจึงเปลี่ยนมาเป็นเดินธรรมยาตรา ก็อยากจะบอกให้พวกเราได้รับรู้ว่า ตั้งแต่ครั้งพุทธกาลเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ก็มีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัย พระพุทธองค์ทรงแบ่งคนในโลกนี้ออกเป็น ๒ ฝ่าย ฝ่ายที่เห็นด้วยกับพระพุทธองค์เรียกว่า “สัมมาทิฐิ” ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยเรียกว่า “มิจฉาทิฐิ” แม้พระพุทธองค์จะพยายามแสดงสัจธรรมที่ดีงามให้โลกได้รับรู้ ก็มีผู้เห็นดีเห็นงามส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งยังคงไม่เห็นด้วย นี้เป็นกลไกที่มีอยู่ในโลกตลอดมา

      เพราะฉะนั้น หากพวกเรารักและชอบใจคำสอนของพระพุทธเจ้า เราก็จะต้องช่วยกันเชิดชูบูชา เผยแผ่คำสอนของพระพุทธเจ้าให้แผ่ขยายไปทั่วโลก ถ้าทำอย่างนี้จะเป็นการปลุกกระแสให้คนรักพระพุทธเจ้ามาก ๆอันนี้เป็นหลักธรรมดาที่เราจะต้องทำกัน และตรงนี้ก็เป็นจุดอ่อนของศาสนิกในพระพุทธศาสนาของเรา คือ เราไม่ค่อยปลุกกระแสให้คนรักพระพุทธเจ้า ไม่ได้ปลุกกระแสให้คนรักครูบาอาจารย์ที่นำพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาประกาศให้ชาวโลกได้รับรู้และนำไปประพฤติปฏิบัติ จนเห็นคุณค่าของธรรมะที่ปฏิบัตินั้นด้วยตนเอง และมีความศรัทธาเลื่อมใสที่มั่นคงยิ่งขึ้น

       การปลุกกระแสให้คนรักพระพุทธเจ้า ให้คนรักครูบาอาจารย์กันมาก ๆ นี้ เรียกว่าเป็นยอดของการเผยแผ่ เพราะว่าเราจะรัก เคารพ เชิดชูบูชาใครก็ตาม เราจะต้องเห็นความดีของเขา และเอาความดีของเขามาไว้ในใจเรามาก ๆ เช่น เอาความดีของพ่อแม่มาไว้ในใจมาก ๆ ก็จะทำให้เรารักพ่อแม่มาก เอาความดีของครูบาอาจารย์มาไว้ในใจมาก ๆ เอามานึกมาคิดทุกวัน ก็จะทำให้เรารักครูบาอาจารย์มาก การรัก การเคารพการเชิดชูบูชากันอย่างนี้ จะสร้างความมั่นคงแก่ประเทศชาติและความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติได้ต้องปลุกกระแสความรักกันอย่างนี้

      การที่จะสร้างความรักในบุคคลที่ทรงคุณงามความดีมาก ๆ จะต้องพยายามช่วยกันเอาความดีของท่านเหล่านั้นมาเผยแพร่ มายกย่อง มาสรรเสริญกันมาก ๆ แล้วความรักก็จะเจริญงอกงามในใจของแต่ละคนเองเมื่อความรักเจริญงอกงามในใจคน โลกทั้งโลกก็จะน่าอยู่ ทุกคนก็จะรักจะสมัครสมานสามัคคีกัน จึงอยากจะให้พวกเราที่เป็นชาวพุทธระลึกนึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า สรรเสริญพระรัตนตรัยอย่างน้อยวันละครั้งก็ยังดีให้ใจเราได้สัมผัสคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ แล้วใจเราจะสดชื่น เบิกบาน แจ่มใสอย่างที่เคยให้คติไว้ว่า “มีมารอยู่ในจิต จะมืดมิดตลอดไป มีพระอยู่ในใจ จะแจ่มใสตลอดกาล”

      หลวงปู่ท่านอัญเชิญพระมาอยู่ในใจของท่านได้ แล้วนำวิธีการปฏิบัติอย่างนั้นมาเผยแพร่ พอเรานำไปประพฤติปฏิบัติก็เกิดผลดีอย่างนั้นจริง ๆ เราก็นึกถึงความดีของหลวงปู่ไป อันนี้เป็นสิ่งที่ควรแก่การยกย่องหลวงพ่อธัมมชโยก็มีแนวความคิดที่จะให้พุทธบริษัทมีความเคารพหนักแน่นในพระรัตนตรัย ให้เทิดทูนบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านบอกว่าเป็นอุดมมงคล แต่ก็มีคนที่ไม่เห็นด้วย เพราะเขาเป็นมิจฉาทิฐิ

      เรื่องนี้เราก็ทำใจสบาย ๆ ให้นึกว่าที่เราทำไปก็เป็นบุญของเรา แต่จะให้คนทั้งโลกรักเราทุกคนมันทำไม่ได้ ไม่มีศาสดาของศาสนาใดที่ทำให้คนทั้งโลกรักตัวเองได้ทั้งหมด แต่ที่พระพุทธเจ้าสอนให้เราทำให้ได้ก็คือ ให้ฝึกใจเราให้รักคนทั้งโลกให้ได้ ถ้าเราฝึกใจเราตรงนี้ได้ เราจะสบายทุกที่ทุกเวลา จะไม่มีเรื่องอะไรมากระทบกระเทือนความรู้สึกของเรา ให้ตั้งสติ แผ่เมตตา แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จะดีได้ตลอดไป

      ขอชื่นชมพระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุนีที่ยกย่องครูบาอาจารย์ขนาดนี้ คนเราก็มีอาจารย์กันทุกคน แต่ใครจะเอาอาจารย์มายกย่องเทิดทูนบูชาอย่างท่านไม่มีหรอก ที่เรารักหลวงปู่เพราะอะไร หลายคนเกิดไม่ทันหลวงปู่ที่มารักมาเทิดทูนบูชาหลวงปู่ ดุจชีวิตจิตใจกเพราะครูไม่ใหญ่เอาความดีของหลวงปู่มาเชิดชู เช่น บทสวดสรรเสริญหลวงปู่ ยิ่งฟัง ยิ่งสวด ก็ยิ่งรักหลวงปู่มากขึ้น

      ขอฝากพวกเราให้ไปช่วยกันสรรเสริญพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สรรเสริญคุณครูบาอาจารย์ ดังที่พระพุทธเจ้าบอกว่า ความกตัญญูกตเวที คือ รู้คุณท่านและต้องประกาศกล่าวคุณของท่านให้โลกรู้ รู้คุณแต่ไม่ประกาศว่าท่านมีคุณกับเราอย่างไรก็เหมือนกับไม่มีกตเวที การแสดงกตเวทีของครูไม่ใหญ่เป็นต้นบุญต้นแบบ กตเวทีต่อหลวงปู่ก็ทำให้ปรากฏต่อทั้งโลก มีลูกศิษย์คนไหนบ้างที่หล่อรูปครูบาอาจารย์ด้วยทองคำแค่คิดยังไม่เคยคิดกันเลย แต่ครูไม่ใหญ่หล่อ ๘ องค์ ความกตัญญูกตเวทีนั้นพระพุทธเจ้าท่านบอกว่าเป็นพื้นฐานของคนดี ที่เรามาจัดกิจกรรมในวันนี้ก็ดี ในปีที่ผ่าน ๆ มาก็ดี จุดมุ่งหมายก็อยู่ที่จะเทิดทูนบูชา จะเอาคุณความดีของหลวงปู่มาประกาศให้โลกรู้ว่า ท่านเป็นพระที่ควรแก่การเคารพสักการบูชา และเราก็มาเคารพสักการบูชาท่าน ตามที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ในมงคลสูตรว่า “ปูชา จ ปูชนียานํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ”

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล